ตลาดโต แต่การบินไทยแป้ก! 3 ปี ส่วนแบ่งตลาดหาย 10% ยันอยากไปต่อ ต้องเพิ่มเครื่องบิน

ยังเผชิญกับปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง แถมส่วนแบ่งตลาดลดลง ล่าสุดการบินไทยได้สรุปแผนการจัดหาเครื่องบินเพิ่ม โดยวางเป้าหมายภายใน 3 ปีจะต้องมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 3%

สุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากไปถึงเป้าหมายดังกล่าว การบินไทยจะต้องมีฝูงบินที่ไม่น้อยกว่า 125 ลำ จากปัจจุบันที่มีฝูงบินประมาณ 100 ลำ จึงต้องจัดหาเครื่องใหม่ทดแทนเครื่องเก่า และมีเพิ่มเติมฝูงบินด้วย ไม่เช่นนั้นการเติบโตจะหดตัว

ทั้งนี้ การบินไทยมีเป้าหมายภายใน 3 ปีจะต้องมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 3% จากการประเมิน หากต้องการรักษาเป้าหมายนี้จะต้องมีฝูงบินที่ไม่น้อยกว่า 125 ลำ จากปัจจุบันที่มีฝูงบินประมาณ 100 ลำ ซึ่งจะต้องมีการจัดหาเครื่องใหม่ทดแทนเครื่องเก่า และมีเพิ่มเติมฝูงบินด้วย ไม่เช่นนั้นการเติบโตจะหดตัว

“ที่ผ่านมาการบินไทยไม่มีเครื่องบินใหม่ ขณะที่เครื่องบินบางส่วนต้องซ่อมบำรุง ทำให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาส่วนแบ่งตลาด (Market Share) หายไป 10% ในขณะที่ตลาดการบินมีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น การบินไทยต้องวางแผนให้ดี การซื้อเครื่องบินใหม่เป็นภารกิจของผู้บริหารของดีดีการบินไทย อย่ามองว่ามีดีดีใหม่ก็เข้ามาซื้อ การไม่ขยายฝูงบินเท่ากับทำร้ายตัวเองเพราะตลาดจะหายไปเรื่อยๆ ในขณะที่คู่แข่งซื้อกันหมด” สุเมธกล่าว

ในปี 2562 การบินไทยจะอยู่ในภาวะที่ไม่มีเครื่องบินใหม่เข้ามาเสริมฝูงบิน ประกอบกับเครื่องบินที่อยู่เดิมต้องซ่อมบำรุง ดังนั้นจะต้องหาทางมีเครื่องบินใหม่เข้ามาให้บริการเพื่อคงสภาพการตลาดไว้ให้ได้ เช่น ใช้วิธีการเช่าใช้

นอกจากนี้ จะต้องวางแผนในการปลดระวางเครื่องบินเก่า ซึ่งอาจจะต้องยืดระยะเวลาออกไป เพราะหากปลดระวางเร็วเกินไปจะทำให้เครื่องบินไม่พอในการให้บริการได้ เพราะตอนนี้เครื่องบินต้องเข้ารับการซ่อมบำรุงค่อนข้างมาก

“เครื่องอยู่ในการซ่อมบำรุงมาก เพราะที่ผ่านมาเครื่องน้อย ต้องหมุนเวียนการใช้อย่างหนัก มีระยะเวลาในการใช้ประโยชน์เครื่องบินประมาณ 12 ชม. (Aircraft Utilization ) ยิ่งช่วงไฮซีซันเครื่องต้องหมุนมากขึ้น แต่จำนวนเครื่องบินมีน้อย เป็นความยากลำบากของธุรกิจการบิน”

ทั้งนี้ ตามแผนเดิมการบินไทยจะจัดหาเครื่องบินใหม่ 23 ลำ วงเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท

สำหรับแผนการตลาดช่วงไฮซีซัน การบินไทยได้ร่วมมือกับสายการบินสปริงแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุดในจีน ในการขนส่งนักท่องเทียวจีนเข้าไทย ในระยะ 3 เดือน (เดือน ธ.ค. 61 – ก.พ. 62 หรือช่วงตรุษจีน) เพื่อให้การบินไทยนำนักท่องเที่ยวบินต่อไปยังยุโรป ออสเตรเลีย ขณะที่จะร่วมกับสายการบินไทยสมายล์และสายการบินไทยแอร์เอเชียในการส่งต่อนักท่องเที่ยวจีนไปยังเมืองรอง สนับสนุนนโยบายรัฐบาล และสอดคล้องกับมาตรการฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวจีนของการบินไทยลดลงไป 10% แต่เชื่อว่าความร่วมมือกับสปริงแอร์ไลน์จะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมา ซึ่งขณะนี้อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ที่ 78% และคาดว่า Cabin Factor ทั้งปี 61 นี้จะไม่ต่ำกว่า 80%.

Source