ETDA – DEPA – Dell Technologies ลงนามแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยี ผลักดัน Digital Smart City หนุน Roadmap ของประเทศ

ETDA จับมือ DEPA และ Dell Technologies ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการแลกเปลี่ยนความรู้ และความเชี่ยวชาญ ทางด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุน Roadmap ที่สำคัญของประเทศในการผลักดัน Digital Smart City

นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการแลกเปลี่ยนความรู้ และความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุน Roadmap ที่สำคัญของประเทศในการร่วมผลักดัน Digital Smart City เนื่องจากเป็นประเด็นที่ประเทศต่างๆ ในอาเซียนกำลังให้ความสนใจ เพราะต้องเตรียมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ รวมถึงประเด็นทางด้าน Cybersecurity หรือความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อให้เกิดการผนวก (Integrate) ประเด็นสำคัญตั้งแต่กระบวนการออกแบบตั้งแต่ต้น นำไปสู่การผนึกกำลังร่วมระหว่างความร่วมมือของหน่วยงานสำคัญ 3 ฝ่าย คือ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) และ เดลล์ เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นและสำคัญในการสร้างอนาคตดิจิทัลให้แก่องค์กรธุรกิจ ทั้งการปรับเปลี่ยนรูปแบบของระบบไอที และให้การปกป้องข้อมูลที่ถือเป็นสินทรัพย์สำคัญขององค์กร

ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ จะนำไปสู่การเชื่อมโยงเทคโนโลยีที่สำคัญ โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนนโยบายส่งเสริมดิจิทัลของประเทศภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนทั้งในเชิงวิชาการ และทางด้านเทคนิค ที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ รองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนการยกระดับชีวิตของประชาชนอย่างมั่นคงปลอดภัย ซึ่ง เดลล์ เทคโนโลยีส์ ถือเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่ต้องการผลักดันไปสู่ดิจิทัลในอนาคต โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงาน

“ETDA ได้มีการดำเนินงานที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนมีความพร้อมในการร่วมสนับสนุนเพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และมุมมอง รวมถึงการพัฒนาบุคลากร การวิเคราะห์ข้อมูล ภายใต้จุดหมายของการสนับสนุน Roadmap ทางด้านดิจิทัลและความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ เพื่อผลักดัน Digital Smart City ไทยให้เข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง โดยความร่วมมือนี้นอกจากจะร่วมกันพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลในการให้บริการธุรกรรมออนไลน์แล้ว ยังเป็นการช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจและการให้บริการแก่สังคมและประชาชนของรัฐบาล” นางสุรางคณา กล่าว

อย่างไรก็ตาม การผลักดัน Digital Smart City สำหรับประเทศไทยนั้น จะประกอบไปด้วยเงื่อนไขหลายเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) และดูเรื่อง Cybersecurity ของประเทศ การดูแลในเรื่องความมั่นคงปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ (Security by Design) ซึ่งมีสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ DEPA และการร่วมมือกับบริษัทข้ามชาติ คือ เดลล์ เทคโนโลยีส์ มาถ่ายทอดให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ทั้งหมดคือความเชื่อมโยงโดยเทคโนโลยี และความรู้ (Knowledge) เพื่อยกระดับการดูแลเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น

ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวถึงความร่วมมือนี้ว่า depa ในฐานะหน่วยงานที่ทำเรื่อง Smart City หรือเมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และนวัตกรรมทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ การบริหารจัดการเมือง ลดค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากร โดยเน้นการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจ และภาคประชาชนในการพัฒนา ให้กลายเป็นเมืองที่ประชาชนอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน โดยมีต้นแบบที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคือ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งเป้าให้จังหวัดภูเก็ตเป็น Smart City ทั้งด้านการค้า การลงทุน โดยให้อุตสาหกรรมดิจิทัลขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอื่น ๆ ให้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน และเมื่อโครงการนี้ดำเนินการได้อย่างเต็มรูปแบบ จะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4.5% ต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบัน โครงการ Phuket Smart City มีพัฒนาการในหลายด้าน และดำเนินโครงการให้หลายมิติเพื่อผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตเป็น Smart City เช่น การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศดิจิทัลภูเก็ต (Centre of Digital Excellence Phuket: CODE Phuket) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับมาตรการพิเศษสำหรับ Digital Worker หรือบริษัทด้านดิจิทัลคอนเทนต์ ที่จะมาทำงานหรือลงทุนในประเทศไทย และกำลังขยายผลโครงการเมืองอัจฉริยะ เพิ่มอีก 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น เชียงใหม่ และ EEC ตามเป้าหมายของคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยเร็ว ๆ นี้ เตรียมประกาศเกณฑ์การประเมินเมืองอัจฉริยะ และตราสัญลักษณ์ Smart City

นายอโณทัย เวทยากร รองประธานบริหาร เดลล์ อีเอ็มซี ภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า จากความร่วมมือนี้ บริษัท เดลล์ เทคโนโลยีส์ ได้นำเอานวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ดีที่สุด (best-in-class) ทั้งในด้านแอปพลิเคชั่น ดาต้า โครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนถึงการรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่การใช้งานที่อุปกรณ์ปลายทาง (edge) ไปจนถึงส่วนกลางในการประมวลผล (core) ครอบคลุมจนถึงส่วนการทำงานบนคลาวด์ (cloud) เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับ ETDA และ DEPA ในการปฏิรูปประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นประชาชาติดิจิทัลเพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในยุคของเศษฐกิจดิจิทัล”

“ที่เดลล์ เทคโนโลยีส์ เรามีความแข็งแกร่งของแบรนด์เทคโนโลยีทั้ง เดลล์ เดลล์ อีเอ็มซี พิโวทอล อาร์เอสเอ ซิเคียวเวิร์กส เวอร์ทุสสตรีม และวีเอ็มแวร์ ที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสอดคล้องเพื่อเป้าหมายหนึ่งเดียว นั่นคือการช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถปฏิรูป รูปแบบการทำงานเพื่อให้สามารถตอบสนองและปฏิรูปชีวิตของประชาชนที่พวกเขาบริการและให้การดูแลได้เป็นอย่างดี” นายอโณทัย กล่าว