เปิดเกมต่อไม่รอแล้วนะ “เอส เพลย์” ส่งน้ำสี 2 รสใหม่ลุยตลาด ดึง 2 ดาราวัยรุ่นในกระแสนั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์

ต้องบอกว่าตลาดอัดลมในเมืองไทยอยู่ในแดบลบต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว โดยมีปัจจัยหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจผันผวน และกระแสรักสุขภาพ ทำให้ผู้บริโภคดื่มน้อยลงกระทบทั้งน้ำดำและน้ำสี

หากวัดอุณหภูมิการแข่งขันจะพบว่ารุนแรงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในน้ำสีมูลค่า 11,000 ล้านบาท ปีนี้ติดลบต่อเนื่อง 2% โดยมีพี่ใหญ่ในตลาดยังคงเป็นแฟนต้าของค่ายโคคาโคล่า ส่วนแบรนด์รองก็ไม่น้อยหน้า พยายามหาช่องดึงส่วนแบ่งตลาดมาเป็นของตัวเองตลอด

เอส เพลย์ซับแบรนด์ของเอสที่เพิ่งถูกรีแบรนด์ครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อแยกภาพให้ชัดเจนสำหรับเจาะตลาดน้ำสี เดินเกมรุกตลาดมาเรื่อยๆ โดยใช้วิธีออกสินค้าใหม่ให้ฉีกไปจากเจ้าตลาด เริ่มต้นในปี 2016 ที่ได้ออกเอส เพลย์ เกรปเบอร์รี

ปีต่อมาก็เกาะกระแสบิงซู น้ำแข็งใสยอดฮิตจากเกาหลีใต้ โดยออกรสเมลอนบิงซูและแมงโก้บิงซู เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น และได้วางเป้าหมายต้องการขยับสัดส่วนรายได้ของน้ำสีให้เพิ่มมาเป็น 50% กับน้ำดำ หลังจากที่ก่อนหน้ามีสัดส่วนเพียง 30%

จากการเกาะกระแสที่ว่าทำให้เอสเพลย์ ทำผลงานสวนกระแสตลาดเติบโต 15.4% และข้อมูลจากนีลเส็นเมื่อเดือนกันยายน ได้ระบุว่าเอส เพลย์พลิกขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ในช่องทาง Modern Trade ด้วยสัดส่วน 24%

สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความมั่นใจให้กับเอส เพลย์ จนล่าสุดได้ออกสินค้าใหม่ 2 รสชาติใหม่ สูตรม็อคเทลกามิกาเซ่และพิงค์บอมบ์ เจาะกลุ่มวัยรุ่นที่ขอบดื่มน้ำอัดลมและชอบลองสินค้ารสชาติใหม่ๆ พร้อมกับดึง 2 ดาราวัยรุ่นที่กำลังเป็นกระแส ไอซ์พาริส อินทรโกมาลย์สุต ซึ่งรับบทอาฉี จากละครเลือดข้นคนจาง และ เจนรมิดา จีรนรภัทร ผลงานล่าสุดคือเรื่อง THE GIFTED นักเรียนพลังกิฟต์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์

เจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มเอสโคล่าและเอส เพลย์ กล่าวว่า

นอกจากเป้าหมายสร้างยอดขายและมาร์เก็ตแชร์ให้เติบโตขึ้นแล้ว อีกอย่างที่ต้องการตอกย้ำ คือ ดีเอ็นเอของแบรนด์เอส เพลย์ ที่ต้องการเป็นผู้นำนวัตกรรมตลาดน้ำอัดลมสี

สินค้าใหม่ทั้ง 2 รสชาติเริ่มวางขายแล้วในร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา.