การให้บริการของธนาคารในรูปแบบเดิมนั้นอยู่ในลักษณะของการบริการแบบพาสซีฟ ที่ส่วนใหญ่ต้องรอให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาที่สาขาของธนาคาร แต่ในยุคที่การแข่งขันบริการทางการเงินของแบงก์ถูกดิสรัปจากสตาร์ทอัพ Fintech หน้าใหม่หลายราย วันนี้แบงก์ไม่ได้แข่งขันแค่ในกลุ่มของธนาคารอย่างเดียวแล้ว แต่ยังมีอีกหลากหลายอุตสาหกรรมที่พร้อมเปลี่ยนแปลงสู่ Fintech และโดดเข้ามาแย่งส่วนแบ่งบริการทางการเงินจากธนาคารหลักอยู่ตลอดเวลา
KBank ถือเป็นธนาคารแถวหน้าที่มีการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงปีที่ผ่านมาเราเห็นการจับมือกับพันธมิตรหลากหลายราย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับการให้บริการและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
วันนี้ KBank เปิดยุทธศาสตร์รุกเข้าหาผู้บริโภค เดินหน้าปรับโฉมแบงก์ให้เป็นมากกว่าสาขาธนาคาร เปลี่ยนรูปแบบภายใต้คอนเซปต์ I’m Possible สร้างสรรค์ทุกความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นบนพื้นที่การให้บริการเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายในแต่ละเซกเม้นต์ มีทั้งหมด 4 รูปแบบ คือ K Park, KOS, New KBank Branch (Hybrid Branch), New K LOBBY (Machine Branch) และอีก 1 พื้นที่การเรียนรู้ สนองความต้องการของกลุ่มชุมชน, กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์, กลุ่มนักศึกษา และอีก 1 พื้นที่การเรียนรู้ร่วมกันอย่าง KOMMONS By KBank
KBank ปรับโฉม 4 รูปแบบ
แบงก์จะเป็นแบงก์แบบเดิมไม่ได้ แต่จะต้องเข้าไปอยู่ในพื้นที่ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และนี่คือ 4 สาขารูปแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
1. K PARK คอมมูนิตี้นอกกรอบตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
KBank แหวกกรอบเปิดพื้นที่ให้บริการในปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาหทัยราษฎร์ 33 ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 20.00 น. และสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ระหว่างเวลา 10.30 – 18.00 น. ร่วมมือกับ 3 พันธมิตร ได้แก่ คาเฟ่ อเมซอน, เอสซีจี เอ็กซ์เพรส และ อัมรินทร์ พริ้นท์ติ้ง โดยผู้มาใช้บริการที่ K Park สามารถนำพัสดุไปรษณีย์มาส่งผ่านเคาน์เตอร์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส และสามารถดาวน์โหลดนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์ในเครืออัมรินทร์ พริ้นท์ติ้ง มานั่งอ่านได้ และยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถนั่งเล่นพักผ่อนโดยนำเครื่องดื่มและขนมจากคาเฟ่อเมซอนเข้ามารับประทานได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
จุดมุ่งหมายของ K Park คือการดำเนินงานสาขาเพื่อให้เป็นธนาคารของชุมชน (Community Bank Branch) ให้คนในพื้นที่ไม่รู้สึกว่าธนาคารเป็นสถานที่เฉพาะเรื่องทางการเงินเท่านั้น แต่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำและตอบโจทย์ความต้องการด้านไลฟ์สไตล์อื่นๆ ของลูกค้าได้ด้วย โดยมีการจัดกิจกรรม เวิร์คช้อป และงานสัมมนาต่างๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอย่างกลุ่มครอบครัวและชุมชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงพื้นที่ และลูกค้าทั่วไปที่มาใช้บริการในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. K Park ยังวางแผนเปิดเพิ่มอีก 3 แห่งเร็วๆนี้ได้แก่ K Park สาขาถนนสายไหม 56 , K Park สาขานาจอมเทียน และ K Park สาขาตลาดเซฟวัน นครราชสีมา
2. K ONLINESHOP SPACE พื้นที่เพื่อคนขายออนไลน์ พร้อมตัวช่วยจัดการธุรกิจครบวงจร
ที่ผ่านมา KBank ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือลูกค้าให้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัลมาตลอด ซึ่งในปัจจุบันธนาคารฯ มีกลุ่มลูกค้าที่คาดว่าเป็นผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์ทั้งสิ้น 300,000 ราย และพบว่าผู้ทำธุรกิจบางรายประสบปัญหาในการทำธุรกิจหลายด้านเมื่อการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น เพราะไม่มีความรู้ในการทำการตลาดออนไลน์ มีข้อจำกัดในการบริหารจัดการ ขาดเงินทุนหมุนเวียน ติดต่อลูกค้าที่มาจากหลายช่องทางไม่ทัน รวมถึงต้องการขยายตลาดไปในหลายๆช่องทาง
KBank จึงได้เปิด K ONLINESHOP SPACE หรือ KOS ณ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (โซนอิเซตัน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งให้ความรู้ เพิ่มทักษะการทำตลาด และให้คำปรึกษาเรื่องการทำตลาดออนไลน์และการจัดการธุรกิจให้กับกลุ่มคนที่ทำธุรกิจออนไลน์ทั้งคนที่เป็นลูกค้าของธนาคารอยู่แล้วหรือเป็นคนทั่วไปก็ได้ โดยธนาคารคาดหวังว่าพื้นที่ของ KOS จะช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์ด้วยกันได้เป็นอย่างดี และสามารถนำไปใช้ในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดย KOS เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 18.00 น.
3. บริการราบรื่นด้วย New KBank Branch (Hybrid Branch)
New KBank Branch เป็นสาขาที่เปิดขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการกับลูกค้า โดยพนักงานธนาคารกับ อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์และเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงเครื่องอัตโนมัติ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่สะดวกและราบรื่นขึ้น และส่งเสริมให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์เพื่อช่วยลดเวลาและต้นทุนในการให้บริการ รวมถึงสามารถขยายเวลาในการให้บริการ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของสาขา โดยมีการปรับเปลี่ยนสาขารูปแบบเดิมเป็น New KBank Branch สาขาแรกที่ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ ชั้น 1 เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่มาใช้บริการที่ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ซึ่งเป็น IT lifestyle mall และเตรียมเปิดให้บริการอีก 2 สาขา ได้แก่ สาขา วัน-โอ-วัน เดอะเทิร์ดเพลส และสาขาเดอะมาร์เก็ต แบงคอก
4.New K LOBBY (Machine Branch) ทำธุรกรรมทุกอย่างผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
เป็นสาขาที่มีเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำธุรกรรมพื้นฐานต่างๆได้ ทั้งเปิดบัญชี ฝากถอนเงินสด หาข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่างๆของธนาคาร และสามารถติต่อ
พนักงานกรณีต้องการความช่วยเหลือผ่าน VDO Conference และDirect Line Call เมื่อยกหูโทรศัพท์จะมีพนักงานให้ควาช่วยเหลือทันที ซึ่ง New K LOBBY สามารถเข้าไปอยู่ในพื้นที่ต่างๆได้ง่าย เพราะใช้ต้นทุนไม่สูงและใช้พื้นที่ไม่ใหญ่มาก ซึ่งจะเปิดให้บริการสาขาแรกที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน และมีแผนขยายในปี 2562 จำนวน 20 แห่ง
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่การเรียนรู้ร่วมกัน KOMMONS By KBank พื้นที่สร้างสรรค์ไอเดียเพื่อนักศึกษา
KOMMONS By KBank เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง ธนาคารกสิกรไทย และสถานศึกษาระดับมหาวิทยาลัย โดยธนาคารมีบทบาทในการช่วยสนับสนุนเรื่องของการจัดทำพื้นที่ในรูปแบบ Co-Learning Space และอำนวยความสะดวกเรื่องของเทคโนโลยีและอุปกรณ์ดิจิทัลต่างๆ เนื่องจากการเรียนรู้ของเด็กในยุคปัจจุบันไม่จำกัดอยู่แต่เฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น การมีพื้นที่อย่าง Co-learning Space ทำให้นิสิต นักศึกษาสามารถเรียนรู้ร่วมกันโดยมีเทคโนโลยีเป็นตัวเชื่อมโยงและส่งเสริมศักยภาพในการเรียนรู้ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์หรือครีเอทีฟไอเดียต่างๆ ได้มากขึ้น โดยมีพื้นที่ที่สามารถใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งการอ่านหนังสือ หรือเข้ามานั่งพักผ่อน และจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาต่างๆ
โดยปัจจุบัน KOMMONS By KBank เปิดให้บริการในมหาวิทยาลัย 2 ที่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต และมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ และอยู่ในระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างอีก 2 ที่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี และมหาวิทยาลัยนเรศวร
ทั้งนี้แนวคิดการออกแบบนั้นเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละมหาวิทยาลัย สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความเหมาะสมของกิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัย และเน้นการดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกสบาย โปร่ง โล่ง เพื่อให้บุคลากรที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกผ่อนคลาย และทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
ทั้ง 4 สาขารูปแบบใหม่นั้นเป็นการพัฒนาสาขาของธนาคารที่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้สอดคล้องกับการใช้บริการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ด้วยแนวคิด 3 เรื่องคือ “เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ” “สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า” และ “เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน” เพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นร่วมกัน