นับเป็นปีที่ 5 ของทีวีดิจิทัล นอกจากหลายช่องเปลี่ยนมือเจ้าของช่องทีวีดิจิทัลไปสู่มือนายทุนใหญ่แล้ว ปีนี้เริ่มเห็นการขยับตัวของบรรดานักแสดงโยกย้ายสังกัด เป็นอิสระมากขึ้นเรื่อยๆ จากการมี “ช่อง” ให้เลือกมากขึ้น โดยเฉพาะช่องนายทุนที่ยอมทุ่มทุนเพื่อหวังชิงความนิยม สร้างความรู้จัก สร้างชื่อเสียงช่องด้วยความดังนักแสดง
วงในลือ “มาริโอ้” หมดสัญญาช่อง 3 ขอเป็นอิสระ
ตั้งแต่ต้นปี มีข่าวนักแสดงมีชื่อเสียงหลายคนทยอยบอกลาต้นสังกัดเดิม ขอเป็นอิสระ บางรายเข้าสังกัดค่ายใหม่ ตั้งแต่กรณี “ขวัญ อุษามณี” และ “ปุ๊กลุก–ฝนทิพย์” ออกจากช่อง 7 โดยประกาศในช่วงแรกว่าเพื่อขอเป็นอิสระ แต่เมื่อเวลาผ่านไป “ปุ๊กลุก” เป็นรายแรกที่ประกาศเข้าสังกัดพีพีทีวี
ล่าสุดมีข่าวว่า “มาริโอ้ เมาเร่อ” นักแสดงหนึ่งในตัวท็อปของช่อง 3 ผันตัวมาเป็นนักแสดงอิสระอีกคนแล้ว โดยส่วนใหญ่มาริโอ้จะเน้นภาพยนตร์ต่างประเทศ และการเดินสายในต่างประเทศมากกว่าในประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันในเรื่องนี้
มาริโอ้ เป็นหนึ่งในนักแสดงดังของช่อง 3 มีผลงานล่าสุดที่กำลังจะออกอากาศวันที่ 31 ม.ค.นี้ คือละคร “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ละครตลก แนวพีเรียด ที่หวังจะมาสร้างความฮา ต่อจาก “พ่อมากพระโขนง” หนังที่มาริโอ้เล่นและประสบความสำเร็จที่สุดเรื่องหนึ่ง
นอกเหนือจากมาริโอ้ มีรายงานข่าวว่า “เคน ภูภูมิ” ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีแนวโน้มจะมาเป็นนักแสดงอิสระหากหมดสัญญากับทางช่อง 3 ตามรอย “เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา” แฟนสาว ที่ปัจจุบันทั้งคู่ใช้ผู้จัดการคนเดียวกัน “เอสเธอร์” ซึ่งเคยเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 3 แต่เลือกที่จะเป็นอิสระเมื่อเกิดทีวีดิจิทัล มารับงานแสดงอิสระได้ทุกช่อง กลายเป็นนักแสดงหญิงอิสระที่มีงานชุกมากที่สุดคนหนึ่งในวงการ
“เคน ภูภูมิ” เพิ่งปฏิเสธบทพระเอกในเรื่อง “สองเสน่หา” ละครเรื่องใหม่ของช่อง 3 ที่ได้ “เบลล่า ราณี” เป็นนางเอก จนช่อง 3 ต้องเลือก “อาเล็ก ธีรเดช” มาเล่นแทน
“โอม อัชชา” เป็นนักแสดงช่อง 3 ที่เพิ่งประกาศตัวเป็นอิสระเมื่อเร็วๆ นี้ ทันทีที่เป็นอิสระ ก็ไปลงละคร “แก้วขนเหล็ก” ให้กับช่องวันเป็นเรื่องแรก และยังมีอีกหลายเรื่องเข้าคิวรอ
5 ช่องทุนหนา จาก 3 มหาเศรษฐีของไทยทุ่มทุนหนัก
ช่อง 7 และช่อง 3 เป็น 2 ช่องใหญ่ยืนแถวหน้าในวงการทีวีมานาน มีนักแสดงในสังกัดชื่อดังจำนวนมาก ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายให้กับช่องทีวีดิจิทัลใหม่ ที่ต้องการเข้าสู่อันดับท็อปของตารางทีวีดิจิทัลด้วยการผลิตละครไทย จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ “ดูด” นักแสดงดังมาแสดงละครให้กับช่อง
ในกลุ่มช่องใหม่ ทุนหนา ที่อัดฉีดหนักในการผลิตละคร และดึงนักแสดง มี 4 ช่อง ได้แก่ ช่องวัน, จีเอ็มเอ็ม 25, พีพีทีวี, ทรูโฟร์ยู และอมรินทร์ทีวี ทั้ง 5 ช่องมาจาก 3 มหาเศรษฐีทั้งหมด
- ตระกูลปราสาททองโอสถ มี 2 ช่อง ได้แก่ ช่องวัน และ พีพีทีวี
- ตระกูลสิริวัฒนภัคดี มี 2 ช่อง ได้แก่ จีเอ็มเอ็ม 25 และ อมรินทร์ทีวี
- ตระกูลเจียรวนนท์ มี 2 ช่องได้แก่ ทรูโฟร์ยู และ ทีเอ็นเอ็น แต่ช่องที่มีละครคือ ทรูโฟร์ยู
ช่องวันและจีเอ็มเอ็ม 25 ที่อยู่ในกลุ่มของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ทั้ง 2 ช่อง ลุยตลาดละครตั้งแต่เริ่มต้น แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ได้ 2 ตระกูลมหาเศรษฐีเข้ามาถือหุ้น ทำให้ทั้ง 2 ช่องได้เงินทุนมาช่วยติดปีก ขยายไลน์การผลิตละครได้เต็มสตรีมมากขึ้น
ช่องวัน ขยายละครมีตั้งแต่ละครเย็น และละครหลังข่าว จันทร์–เสาร์ ในปีที่แล้วมีละคร “เมีย 2018” สร้างชื่อเสียงให้กับช่อง ส่วนช่องจีเอ็มเอ็ม 25 มีละคร “คุณพ่อจอมซ่าส์” ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในปีนี้ทั้ง 2 ช่องต่างมีทางเลือกจากนักแสดงอิสระที่ออกมาจากช่อง 7 และช่อง 3 มากขึ้น
ค่ายทรู ผูกสัญญา “แพนเค้ก”
ทรูโฟร์ยู เริ่มรุกทำละครมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากการเปิดตัวละครชุด 3 เรื่อง “เจ้าเวหา” ที่ประกาศทุ่มทุนสร้างกว่า 220 ล้านบาท สำหรับทั้ง 3 เรื่อง ด้วยการรวมตัวนักแสดงของทั้งช่อง 7 และช่อง 3 มาแสดงร่วมกันเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ “นุ่น วรนุช, อั้ม อธิชาติ, ใหม่ ดาวิกา, ติ๊ก เจษฎาพร, แอนดริว เกร็กสัน และ แพนเค้ก เขมนิจ” แต่ออกอากาศได้เพียงเรื่องเดียวก็พับโครงการ หลังจากเรื่องแรกไม่ได้รับความนิยมมากนัก อีกทั้งยังมีปัญหาการฟ้องร้องกันของนักแสดงและผู้ผลิตตามมาอีกด้วย
ต่อมาทรูโฟร์ยูก็ยังทุ่มทุนกว่า 300 ล้านกับซีรีส์ “ศรีอโยธยา 1-2 “ พร้อมๆ กับการได้เซ็นสัญญากับ “แพนเค้ก” ที่หมดสัญญากับช่อง 7 โดยมีข่าวว่าจ่ายค่าตัวครั้งแรก เป็นตัวเลข 8 หลักเลยทีเดียว และเมื่อสัญญากับแพนเค้กหมดลงเมื่อสิ้นปี 2561 ทรูโฟร์ยูก็จับแพนเค้กเซ็นสัญญาต่อทันที สกัดข่าวที่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่าช่องวันเตรียมดึงแพนเค้กลงเล่นละครช่อง โดยทรูโฟร์ยูนำเสนอละครให้แสดงอีก 2 เรื่องในปีนี้ ได้แก่เรื่อง พยัคฆ์ร้ายสายลับ และซีรีส์เกาหลี Voice ที่จะมาทำในเวอร์ชั่นไทย นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าในกลุ่มทรูต่อเนื่องด้วย
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ละครของทรูโฟร์ยูในปีนี้ ที่เพิ่งประกาศไปคือ เน้นละครรีเมกซีรีส์เกาหลี และละครฟอร์มยักษ์ เพื่อสร้างความแตกต่างของช่องเมื่อเทียบกับละครช่องอื่นๆ
พีพีทีวี ลุยเจรจาดาราแม่เหล็กของแต่ละช่อง
พีพีทีวี ของตระกูลปราสาททองโอสถ เป็นช่องที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุด จากกลยุทธ์ “ดูด” แหลกทั้งรายการและนักแสดงในปลายปีที่ผ่านมา เปิดมาต้นปีนี้เริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่ในการเข้าไปเจรจากับนักแสดงในสังกัดช่องใหญ่ โดยเฉพาะช่อง 3 และนักแสดงที่สังกัดช่อง ทั้งกลุ่มที่มีแนวโน้มว่าจะหมดสัญญา และกลุ่มที่มีแนวโน้มว่าอาจจะขอเป็นอิสระ
ทั้งนี้ พีพีทีวี มีข้อเสนอไม่ผูกมัดเป็นนักแสดงในสังกัดพีพีทีวี สามารถเป็นนักแสดงอิสระได้ เพียงแต่เซ็นสัญญากับพีพีทีวีว่าจะรับเล่นละครจำนวนกี่เรื่องภายใน 1 ปี โดยที่ยังสามารถไปรับเล่นละครให้ช่องอื่นๆ ได้อิสระ รวมถึงการันตีรายได้ที่จะได้จากช่องพีพีทีวีในราคาสูงกว่าตลาด
แหล่งข่าววงการนักแสดงเปิดเผยว่า ด้วยข้อเสนอใหม่นี้ มีทั้งนักแสดงที่ให้ความสนใจเข้าร่วม และบางกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ และกลุ่มที่ปฏิเสธข้อเสนอ
ตั้งแต่ต้นปีพีพีทีวีทยอยเปิดกล้องละครมาเป็นระยะหลายเรื่อง แต่ที่เปิดตัวเป็นทางการไปแล้วคือ “มนตรามหาเสน่ห์” ของค่ายผู้จัด หก สี่ เอี่ยว ของ หงส์–ธัญญ์นิติ สามีของอุ๊ พัชนี จารุจินดา ผู้จัดละครช่อง 3 นอกจากนี้ยังมีละครจากค่ายทีวีธันเดอร์, เจเอสแอล, กันตนา, คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์ และ Change2561 ของพี่ฉอด–สายทิพย์
จากความเคลื่อนไหวของบรรดาช่องเศรษฐีเหล่านี้ การขยับของบรรดานักแสดงน่าจะสร้างสีสันให้กับวงการทีวีดิจิทัล ช่องเล็กมีโอกาสมากขึ้น ในขณะที่ผู้ชมก็มีทางเลือกหลากหลาย ละครสนุก นักแสดงดัง ตรึงคนดูได้ เรตติ้งจะสวิงไปอยู่ที่ช่องไหน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของละครแต่ละเรื่องนั่นเอง.