C-vitt (ซี-วิต) ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มวิตามินซีเพื่อสุขภาพยอดนิยม ประกาศความสำเร็จขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งของตลาดเครื่องดื่มวิตามินซี ควงแขนพรีเซนเตอร์สุดฮอต เบลล่า ราณี จัดกิจกรรม “C-vitt Big Thank” ขอบคุณคนไทยที่ให้การตอบรับอย่างดีตลอดมา พร้อมประกาศเกมรุกสร้างแบรนด์ต่อเนื่องควบคู่กับวางกลยุทธ์การสื่อสารขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มคนทุกเพศทุกวัยที่ใส่ใจสุขภาพ ผ่านการสื่อสารจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ด้วยกลยุทธ์การตลาด 360 องศา ชูจุดเด่น “C-vitt เครื่องดื่มวิตามินซี 200% แคลอรี่ต่ำ รสชาติอร่อย สำหรับทุกเพศทุกวัย ดื่มได้ทุกวัน”
มร.ชิฮิโระ คุระตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮ้าส์ โอสถสภา ฟู้ดส์ จำกัด เจ้าของเครื่องดื่มวิตามินซีแบรนด์ C-vitt กล่าวว่าC-vitt วางตลาดในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2555 เกิดจากความร่วมมือระหว่างสองยักษ์ใหญ่จากประเทศไทยและญี่ปุ่น นั่นคือ“โอสถสภา” และ “เฮ้าส์ ฟู้ดส์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น” ที่ได้ร่วมทุนตั้งบริษัท เฮ้าส์ โอสถสภา ฟู้ดส์ จำกัด เพื่อวิจัยและพัฒนาเครื่องดื่มวิตามินซี 200% ภายใต้แบรนด์ C-vitt เพื่อตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพในเมืองไทย ซึ่งถือเป็นเครื่องดื่มวิตามินซีรายแรกของประเทศไทย ซึ่งตลอด 7 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนัล ดริ๊งก์ ในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดประมาณ 6,500 ล้านบาท เติบโตติดลบ 2% สวนทางกับตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ขณะที่ C-vitt เอง ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของตลาด ด้วยส่วยแบ่งการตลาด30% ของมูลค่าตลาดฟังก์ชั่นนัล ดริ๊งก์ ในประเทศไทย โดยปัจจัยความสำเร็จของ C-vitt มีด้วยกันหลายองค์ประกอบ เริ่มต้นที่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพรสชาติอร่อยเห็นผลลัพธ์จริง อีกทั้งมีราคาที่จับต้องได้ รวมถึงภาพลักษณ์ของสินค้าที่มีความชัดเจนในการสื่อสารถึงจุดแข็งของผลิตภัณฑ์จนทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและจดจำในเวลาไม่นาน อีกทั้งคนไทยมีพื้นฐานความเข้าใจในประโยชน์ของวิตามินซีอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท “วิตามินซีดื่มได้” ที่สามารถดื่มได้ทุกคนในทุกทุกวัน และอีกปัจจัยสำคัญ คือ ศักยภาพของช่องทางการจัดจำหน่ายที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสะดวก ผ่านทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชั่นนอลเทรด” มร.ชิฮิโระ คุระตะ กล่าว
สำหรับการทำตลาดของ C-vitt ที่ผ่านมาจะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพผ่านการสื่อสารผ่านพรีเซนเตอร์คนดัง อาทิ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, ดีเจพุฒิ และ เบลล่า ราณี ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรม Sport Marketing ที่สนุกและท้าทายอย่างการวิ่งมาราธอน โดยได้เข้าไปเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันกรุงเทพมาราธอน ซึ่งเป็นการผลักดันแบรนด์ให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ
โดย มร.ชิฮิโระ คุระตะ ได้กล่าวถึงแผนการทำตลาดในปี 2562 นี้ว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายฐานการดื่มของเครื่องดื่ม C-vitt ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการขยายฐานการตลาดให้ครอบคลุมมากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ด้วยประโยชน์ของการเป็นเครื่องดื่มที่ให้ปริมาณวิตามินซีมากกว่า200% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ที่นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว C-vitt ยังเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติอร่อย ดื่มง่าย ช่วยดับกระหาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุถวัยอย่างแท้จริง โดยปัจจุบัน C-vitt มีสินค้าอยู่ 3 รสชาติ คือเลม่อน ออเร้นจ์ และรสทับทิม โดยจะมีการเดินกลยุทธ์การสื่อสารจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ “C-vitt เครื่องดื่มวิตามินซี 200% แคลอรี่ต่ำ รสชาติอร่อย สำหรับทุกเพศทุกวัย ดื่มได้ทุกวัน” ผ่านกิจกรรมการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และ On-ground Activity โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรม C-vitt Big Thank เพื่อขอบคุณคนไทยที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีในตลอดเวลาที่ผ่านมา โดยมีพรีเซนเตอร์สาวสุดฮ๊อต เบลล่า ราณี ร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก
นอกจากนี้ C-vitt ยังมองถึงการขยายฐานการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมในช่องทางร้านค้าแบบดั้งเดิมหรือเทรดดิชั่นนอล เทรดมากขึ้น จากเดิมที่ปัจจุบัน ช่องทางขายผ่านร้านค้าประเภทโมเดิร์นเทรดจะกินสัดส่วนประมาณ 60 – 70% ของการซื้อทั้งหมด ซึ่งจะเข้ามาช่วยให้สามารถผลักดันสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น สอดรับกับแผนการตลาดที่ต้องการผลักดันให้เครื่องดื่ม C–vitt ก้าวขึ้นมาเป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวันที่ทุกกลุ่มเป้าหมายดื่มเป็นประจำนั่นเอง
วิตามินซี ถือเป็น Health Benefit Solution หลักของ C-vitt ซึ่งเป็นวิตามินพื้นฐานที่สามารถบริโภคได้ทุกวัน และมีประโยชน์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Immune System หรือระบบภูมิคุ้มกัน และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง มีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกาย ซึ่งแม้จะเป็นวิตามินที่พบได้ง่ายในผลไม้รสเปรี้ยว แต่ก็ต้องรับประทานผลไม้ในปริมาณมากเพื่อให้ได้ปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอต่อวัน จึงกลายเป็นโอกาสทางการตลาดที่ C–vitt ที่จะเข้าไปเติมเต็มความต้องการในส่วนนี้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภคในวันที่เร่งรีบโดยไม่ต้องไปบริโภคอาหารหรือผลไม้ในปริมาณมากเพื่อให้ได้วิตามินซีตามที่ร่างกายต้องการ
“ที่ผ่านมา เรามีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 30% ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งส่วนหนึ่งของความสำเร็จเกิดจากการมีพันธมิตรที่เป็นบริษัทชั้นนำอย่างโอสถสภาที่เข้ามาร่วมทุน และเป็นคนจัดจำหน่ายให้ การจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและทั่วถึงนี้ ทำให้เราสามารถผลักดันสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เมื่อรวมเข้ากับการเข้าใจในความต้องการของลูกค้าก็เข้ามามีส่วนช่วยให้แบรนด์ C–vitt เป็นที่ยอมรับ เป้าหมายสำคัญของเราจึงอยู่ที่หลังจากนี้ไป จะทำอย่างไรให้ C–vitt เข้าไปเป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวันของคนไทยที่มีการดื่มเป็นประจำทุกวัน นั่นคือความท้าทายที่เราจะต้องทำให้บรรลุเป้าหมายให้ได้” มร.ชิฮิโระ คุระตะ กล่าวสรุป