Apple เตรียมลดราคา iPhone หลังยอดขายหด

ทิม คุก (Tim Cook) หัวเรือใหญ่แอปเปิล (Apple) บอกใบ้กับสาธารณชนว่าอาจลดราคาไอโฟน (iPhone) ลงในบางตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายที่หดตัว ถือเป็นการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าลูกค้าเริ่มปันใจจาก iPhone เพราะราคาขายที่สูงเกินไป

ยอดขาย iPhone ที่ลดลงนั้นถูกแถลงก่อนหน้านี้ว่าเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว โดยในไตรมาสปลายปี 2018 ที่ผ่านมา รายได้จาก iPhone ซึ่งเป็นแหล่งสร้างผลกำไรส่วนใหญ่ของบริษัท กลับลดลง 15%

ในภาพรวม รายรับของ Apple ลดลง 5% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 84,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่าเป็นไปตามแนวทางที่ Apple เคยประกาศเตือนนักลงทุนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่ารายรับจะอยู่ที่ประมาณ 84,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์และบริษัทเคยคาดการณ์ไว้

Apple เสื่อมมนต์ในตลาดจีน

ในขณะที่ Apple เคยให้เหตุผลที่รายได้บริษัทลดลงว่าเป็นเพราะปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในประเทศจีน แต่ครั้งนี้ ทิม คุก ผู้บริหารระดับสูง ยอมรับว่าราคาที่สูงของสินค้า Apple เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ Apple ไม่เติบโต โดยกล่าวว่าการแข็งตัวของค่าเงินดอลลาร์มีผลทำให้ผลิตภัณฑ์ราคาสูงขึ้น กลายเป็นผลกระทบต่อยอดขายในตลาดเกิดใหม่

ราคาหุ้นของ Apple ลดลงประมาณ 30% ตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว

ในขณะนี้ เว็บไซต์ทางการของ Apple ในสหรัฐฯ ระบุราคา iPhone Xs ที่มีจอแสดงผล 5.8 นิ้วในราคาเริ่มต้นที่ 999 เหรียญสหรัฐ (31,214 บาท) ในสหรัฐอเมริกา ราคานี้ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ 999 ปอนด์ในสหราชอาณาจักร (40,978 บาท), 8,699 หยวน (40,491 บาท) ในประเทศจีน และ 39,900 บาทในไทย

จุดนี้ ทิม คุก กล่าวว่า Apple จะเริ่มต้นปรับราคาโทรศัพท์ในเดือนมกราคมนี้เพื่อปกป้องลูกค้าจากผลกระทบของความผันผวนของค่าเงิน โดยยังแบ่งรับแบ่งสู้ว่าการปรับราคาจะมีผลในบางพื้นที่และบางผลิตภัณฑ์เท่านั้น บนความหวังว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคจากพิษสกุลเงินต่างประเทศที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ผู้บริหาร Apple ยอมรับว่าบริษัทยังมีความท้าทายใหญ่รออยู่ โดย Apple คาดการณ์รายรับในช่วง 3 เดือน (สิ้นสุด 31 มีนาคม) ว่าจะอยู่ที่ระดับ 55,000-59,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยประเมินว่ารายรับจะลดลงอย่างน้อย 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ยอดขาย Apple หดตัวหนักในจีน

นักวิเคราะห์มองว่าภาวะยอดขายของ Apple ลดลงนั้นถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าแปลกใจ เพราะตัวเลขการส่งมอบสมาร์ทโฟนทั่วโลกนั้นหดตัว 5% ในปี 2018 ที่ผ่านมา (จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ตลาด Canalys) ความซบเซาที่เกิดขึ้นทั่วโลกทำให้นักลงทุนหวั่นใจ ส่งให้ราคาหุ้นของ Apple ลดลงประมาณ 30% ตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนที่รับไม่ได้กับความต้องการซื้อ iPhone ที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม หุ้นของ Apple มีการฟื้นตัวมากกว่า 4% ในช่วงหลังการประกาศผลประกอบการ เนื่องจาก Apple สามารถพิสูจน์ให้โลกเห็นว่ามีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้เร็วกว่าที่หลายคนคาดไว้ 

สำหรับยอดขาย Apple ในประเทศจีน สถิติชี้ว่าไตรมาสปลายปีซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2018 เจ้าพ่ออย่าง Apple มีรายรับจากการขายสินค้าในจีน (รวมฮ่องกงและไต้หวัน) ลดลงมากกว่า 25% ถือว่าหนักที่สุดเมื่อเทียบกับยอดขายลดลงประมาณ 3% (ต่อปี) ในยุโรป แต่ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของบริษัท มียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 5%

รายรับจากธุรกิจบริการ Apple นั้นเพิ่มขึ้น 19% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10,900 ล้านเหรียญ ช่วยพยุงกำไรโดยรวมของ Apple ในไตรมาสนี้ให้ลดลงน้อยกว่า 1% เท่านั้น เป็น 19,970 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดแข็งในระยะยาวของ Apple แน่นอน.

Source