บริษัท รอนนี่ อินเตอร์-เทรดดิ้ง จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าและเครื่องประดับจากต่างประเทศ นำโดยมิสเตอร์รอนนี่ โกรเวอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รอนนี่ อินเตอร์-เทรดดิ้ง จำกัด พร้อมด้วยมิสเตอร์ฮิโรมิตสุ เอ็นโดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KNOT ประเทศญี่ปุ่น ร่วมจัดงาน WhyKnot? Play on the table เปิดตัว Knot แบรนด์นาฬิการะดับพรีเมี่ยม เชื่อมต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นสู่ทั่วโลก ภายใต้คอนเซปท์ Play on The table แบรนด์กับดีไซน์ความโดดเด่นของคอลเลคชั่นด้วยตัวเรือนกับสายกว่า 10,000 รูปแบบ ที่จะคอมพลีตลุคให้กับทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังพร้อมเผยกลยุทธ์เดินหน้าแบบเต็มสูบบุกตลาดนาฬิกาแฟชั่นประเทศไทย ด้วยการขานรับเทรนด์แฟชั่นปี 2019 มุ่งขยายกลุ่มลูกค้า และการตั้งเป้าเติบโต 3% หรือ 400 ล้านบาท ในอีก 5 ปี
มิสเตอร์รอนนี่ โกรเวอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รอนนี่ อินเตอร์-เทรดดิ้ง จำกัด เผยว่า “เนื่องด้วยปัจจุบันภาพรวมของตลาดแฟชั่นนาฬิกาประเทศไทย มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลสำรวจงานวิจัยปี 2561 พบว่าปัจจุบันสินค้าลักชัวรี่ที่คนไทยนิยมซื้อสูงสุดคือนาฬิกา ที่มีสัดส่วนมากถึง 21% และสำหรับพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนไปหันมามองหารูปแบบดีไซน์นาฬิกาที่มีความแปลกและแตกต่างไม่เหมือนใคร ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์การบุกตลาดนาฬิกาแฟชั่น Knot แบรนด์นาฬิการะดับพรีเมี่ยม จากประเทศญี่ปุ่น ในวันนี้ ด้วยการชูดีไซน์ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์กับคอลเลคชั่นด้วยตัวเรือนกับสายกว่า 10,000 รูปแบบ มาบุกตลาดแฟชั่นประเทศไทย เน้นดีไซน์ที่คอมพลีตลุคตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว มุ่งตอบโจทย์เทรนด์แฟชั่นตามยุคสมัย และรองรับความต้องการของผู้บริโภค”
“โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา Knot แบรนด์นาฬิการะดับพรีเมี่ยม ได้เข้ามาสร้างความคึกคักในตลาดนาฬิกาประเทศไทยไม่น้อย ด้วยความเข้มข้นของสภาวะการแข่งขันในตลาดนาฬิกาแฟชั่น ขณะเดียวกันแบรนด์นาฬิกาKnot ก็สามารถนำความโดดเด่นของแบรนด์เข้ามาสร้างสีสันในตลาด ซึ่งในปีนี้เรามาพร้อมกลยุทธ์บุกตลาดที่นอกเหนือจากความโดดเด่นในรูปแบบดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ที่มากกว่า 10,000 แบบ แล้วยังมาพร้อมการบุกตลาดโมเดิร์นเทรดกับศูนย์การค้าชั้นนำในประเทศไทย อาทิ เซ็นทรัลเวิล์ด, สยามพารากอน, เอ็มควอเทียร์, สยาม ทาคาชิมาย่า และจังซีลอน ภูเก็ต ภายใต้ชื่อร้าน Groove & Groovy นอกจากนี้ยังมีร้านคอนเซปท์สโตร์ สาขาสุขุมวิท 26 และสุขุมวิท 47 พร้อมตั้งเป้าในปี 2562 อัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้นกว่า 15% จากปี 2561 และมีส่วนแบ่งการตลาด 3%หรือ 400 ล้านบาท ในอีก 5 ปี ในภาพรวมกลุ่มนาฬิกาแฟชั่นประเทศไทย”
ด้าน มิสเตอร์ฮิโรมิตสุ เอ็นโดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KNOT ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะมอบนาฬิกาที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมญี่ปุ่นสู่ทั่วโลก ที่นอกเหนือจากดีไซน์ความคอลเลคชั่นตัวเรือนกับสายกว่า 10,000รูปแบบแล้ว ยังพร้อมชูจุดเด่นวัสดุและคุณภาพที่เรียกได้ว่า Made in Japan ทุกชิ้น โดย Partner แหล่งผลิตคุณภาพดี 5 โรงงานจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องเรื่องวัสดุและคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่นการยอมรับในระดับโลกร่วมสร้างประสบการณ์ในการออกแบบและแสดงออกถึงสไตล์ของตัวเองได้อย่างชัดเจนสู่ข้อมือคุณเป็นตัวของตัวเองในการออกแบบนาฬิกาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
