เกิดเป็นปรากฏการณ์ส่งท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกครั้ง กับการเดินทางกลับมาประเทศไทยของแบมแบม GOT7 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมีภารกิจให้เจ้าตัวทำและตามลุ้นพร้อมๆ กันอย่างละเรื่อง
เรื่องแรก จากการกลับมาถ่ายทำโฆษณาให้กับไส้กรอกซีพี ซึ่งคาดว่าจะมีกิจกรรมแฟนมีทตามมา รวมทั้งให้ผู้บริโภคบางส่วนเตรียมรับมือกับปรากฏการณ์ไส้กรอกซีพีล้นตลาดกันอีกครั้ง หลังจากปี 2561 ที่ผ่านมา แคมเปญ “CP Sausage Forever ไส้กรอกยังไงก็ต้อง CP” ซึ่งทำโปรโมชั่นพร้อมการจัด Exclusive Fan Meeting ของ BAMBAM GOT7 ทำให้เกิดแม่ค้าไส้กรอกหน้าใหม่เต็มตลาด การเลหลังไส้กรอก รวมไปถึงการบริจาคไส้กรอกจำนวนมาก เพราะบางคนเหมาซื้อไส้กรอกเพื่อให้ได้สิทธิ์ร่วมงานตามกติกาที่แบรนด์กำหนดไว้
ส่วนเรื่องที่สอง คือการที่จะเจ้าตัวจะได้ลุ้นการขายบัตรแฟนมีทเดี่ยวของตัวเองครั้งแรกในไทย BAMBAM THE FIRST FAN MEETING TOUR “BLACK FEATHER” IN THAILAND ที่จะจัดขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ครบทั้ง 4 ภาค ซึ่งสองรอบแรกสำหรับในกรุงเทพฯ นั้นผ่านไปด้วยดี เพราะบัตรทั้งสองวันถูกจองหมดเกลี้ยงภายใน 7 นาทีแรกที่เปิดจองวันแรกในวันที่ 10 กุมภาพันธ์
แถมตบท้ายด้วยแฟนคลับที่คำนวณรายรับจากการขายบัตรสองวันกว่า 5,000 ที่นั่งในราคา 2,500 บาท 3,500 บาท และ 4,900 บาท รวมเป็นรายประมาณ 18.5 ล้านบาท อืม… ต้องยอมรับเลยว่า แฟนคลับเขาละเอียดและติดตามทุกย่างก้าวและทุกๆ เรื่องจริงๆ
วิธีการเปลี่ยนพื้นที่สนามบินให้เป็นฟรีมีเดียของไส้กรอกซีพี
สำหรับครั้งนี้ สิ่งที่น่าสนใจที่นักการตลาดควรจะเรียนรู้จากความเคลื่อนไหวผ่านไอดอลอย่างแบมแบม ซึ่งถือเป็นไอดอลที่ทรงอิทธิพลด้านการตลาดสูงสุดคนหนึ่งในไทย ณ ตอนนี้ ก็คือ รูปแบบการสร้างฟรีมีเดียของแบรนด์ดังอย่างซีพีแบรนด์ ที่ล้ำลึกและไม่ยอมพลาดโอกาสในการใช้ประโยชน์จากพรีเซ็นเตอร์แม้ช่วงเวลาสั้นๆ
ทุกครั้งที่ศิลปินเกาหลีมาไทย คนที่เฝ้าติดตามมักจะได้เห็นทีมการ์ดที่ใส่เสื้อแจ็กเก็ตสีดำ สกรีนชื่อบริษัทไว้ด้านหลัง กับรถตู้ที่คอยจอดรอรับศิลปิน ซึ่งแฟนคลับทีมสนามบินก็จะต้องคอยจับตาดู 2 อย่างนี้ว่าอยู่ตรงไหนอย่างไร เพื่อจะได้เฝ้าไม่ผิดประตู
ส่วนทีมหน้าจอ อย่างไรก็จะไม่พลาดที่จะได้เห็นแบรนด์เหล่านี้ติดมากับภาพ และวิดีโอ ผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ จากทีมสนามบิน
สิ่งที่แฟนคลับเห็นกันทั่ว นอกจากตัวศิลปินที่ทุกคนรอคอย ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในสายตาจากภาพที่ถูกแชร์เหล่านี้ คือฟรีมีเดียที่มีขยายเพิ่มแวลูสำหรับแบรนด์อย่างยิ่ง แล้วซีพีแบรนด์ก็ไม่พลาด เลือกหยิบมาใช้เพิ่มมูลค่าให้เกิดประโยชน์ เพียงแค่เตรียมการบางอย่างเพิ่มเล็กๆ น้อยๆ
เริ่มจากการติดป้ายโลโก้ที่ตัวรถตู้ที่มารับ ให้ทีมการ์ดใส่เสื้อสกรีนที่มีทั้งโลโก้แบรนด์พร้อมแฮชแท็กสกรีนไว้ที่ด้านหลัง
ไม่เพียงเท่านั้น ซีพียังใช้ช่วงเวลานี้จัดทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ กับเหล่าแฟนคลับที่มารอรับที่สนามบิน ด้วยการแจกพัดที่มีโลโก้และแฮชแท็กพร้อม ทำเวลคัมการ์ดมาแจกให้แฟนคลับเขียนข้อความถึงแบมแบม ทั้งยังมีป้ายไวนิลพกมาตั้งไว้ที่สนามบินอีกด้วย
รูปแบบที่เห็นนี้ แทบไม่ต่างกับการออกบูธจัดอีเวนต์ย่อยๆ เลยใช่ไหมล่ะ ไม่รู้ถ้าทุกแบรนด์ทำแบบนี้ อีกหน่อยสนามบินจะต้องคิดค่าพื้นที่เหมือนอีเวนต์ฮอลล์ที่ใช้จัดงานได้หรือเปล่า
แล้วก็ถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าจะมีน้ำใจเอาไส้กรอกมาแจกแฟนคลับด้วยนี่ ก็ครบสูตรการออกอีเวนต์เลย
สำหรับแฮชแท็กที่ซีพีใช้กับแคมเปญไส้กรอกซีพีที่เลือกใช้แบมแบม เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อในรอบนี้ คือ #ไส้กรอกซีพีXใส่ใจXแบมแบม โดยเพิ่มคำว่าใส่ใจที่ต้องการสื่อถึงแวลูของแบรนด์เพิ่มเข้ามาผ่านแคมเปญนี้ ส่วนกติกาและวิธีร่วมสนุกยังไม่เผยแพร่ออกมาอย่างเป็นทางการว่าจะเหมือนหรือต่างจากเดิมอย่างไร
แต่ทั้งนี้มั่นใจได้ระดับหนึ่งว่า แวลูของพรีเซ็นเตอร์ที่มีอิทธิพลระดับที่แฟนคลับอยากเจอ คงไม่ต่างจากเดิมที่คงมีทั้งการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายให้โตกระฉูดจากช่วงปกติ แล้วต่อยอดด้วยแฟนมีท ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายน่าจะต้องการไม่ต่างจากเดิม
โดยแคมเปญของซีพีที่ทำกับแบมแบมก่อนหน้านี้ เกิดจากความนิยมของแบมแบมกับความผูกพันที่มีกับแบรนด์ซีพีมาตั้งแต่สมัยที่เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ตอนเป็นเด็กก่อนไปฝึกหัดเป็นศิลปินเกาหลี
รูปแบบของแคมเปญคือการจัดโปรโมชั่นกับผลิตภัณฑ์ไส้กรอกซีพีกลุ่มแฟรงค์ ได้แก่ ซีพี ชิกเก้นแฟรงค์, ซีพี ชิกเก้นแฟรงค์พริก, ซีพี ชิกเก้นแฟรงค์พริกไทยดำ, ซีพี พอร์คแฟรงค์, ซีพี แฟรงค์เฟอร์เตอร์ไก่, ซีพี แฟรงค์เฟิร์ตเตอร์ และ ซีพี แฟรงค์เฟิร์ตค็อกเทล ภายใต้ชื่อแคมเปญ “CP Sausage Forever ไส้กรอกยังไงก็ต้อง CP”
โดยกำหนดวิธีการ ให้ลูกค้าที่สนใจร่วมลุ้นบัตรโดยส่งใบเสร็จที่ซื้อผลิตภัณฑ์ภายใต้เงื่อนไข จากช่องทางร้านค้าที่ร่วมรายการเพื่อลุ้น–แลกสิทธิ์การเข้าร่วมงานได้ 3 ประเภทได้แก่ #สายเปย์! Top Spenders เพื่อนซี้ที่มียอดซื้อสูงสุดประจำสัปดาห์ #สายเหนือ! VIP Passเดินเข้างานได้ทันที “จำนวนจำกัด” และ #สายดวง! Lucky Draw สุ่มจับรางวัลทุกสัปดาห์ ซึ่งแต่ละสายก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป
กลุ่มที่สร้างปรากฏการณ์และดันยอดขายให้กับซีพีจากแคมเปญครั้งที่แล้ว หนีไม่พ้น #สายเปย์ Top Spenders ซึ่งแม้จะมีเพียง 80 รางวัล แต่การกำหนดช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน โดยต้องเป็นผู้ซื้อที่มียอดรวม 5,000 บาทขึ้นไปและส่งกี่ใบเสร็จก็ได้ ทำให้เกิดเป็นปรากฏการณ์ไส้กรอกซีพีล้นตลาด โดยเห็นได้ผ่านโซเชียลมีเดียที่มีการประกาศขายไส้กรอกซีพีลดราคา แจก บริจาค หรือเปิดขายไส้กรอกทอดชั่วคราวของแม่ค้าหน้าใหม่กันจำนวนไม่น้อยนั่นเอง
สำหรับรอบนี้ ไส้กรอกซีพี ซึ่งมีเบสท์แพรคทิสมาแล้วจากแคมเปญครั้งก่อน ก็เชื่อได้ว่า ครั้งนี้ทั้งเป้าหมายยอดขายและการสร้างปรากฏการณ์ก็คงไม่น้อยหน้าครั้งที่ผ่านมาแน่ๆ