การออกแคมเปญไชโย เซลส์ เป็นแผนดันยอดขายของยูนิลีเวอร์อีกทางหนึ่ง หลังแยกทางเดินกับช่อง 7 เมื่อต้นปี
หลายคนฟันธงว่าเป็นการสวมคอนเวิร์สแบบ “ชั่วคราว” ดังนั้น การกลับมาจูบปากกันอีกครั้งด้วยผลประโยชน์ที่ลงตัวทั้ง 2 ฝ่าย แม้จะไม่เปิดเผยรายละเอียดของดีลครั้งนี้ก็ตาม จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายนัก ยิ่งเมื่อดูถึงเกมกลยุทธ์ผ่านแคมเปญส่งเสริมการขาย “ไชโย เซลส์ ครั้งที่ 2” ของยูนิลีเวอร์ ที่ต้องการบุกช่องทางร้านโชห่วยซึ่งมีอยู่กว่า 1 แสนแห่งทั่วประเทศ ด้วยแล้ว
แคมเปญนี้ ยูนิลีเวอร์ตั้งเป้าหมายว่า เข้าถึงลูกค้า20 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ผ่านสินค้าหลักของยูนิลีเวอร์ 7 แบรนด์ สะท้อนให้เห็นถึงการที่ยูนิลีเวอร์ต้องการบุกช่องทางขายผ่านร้านโชห่วยเพียงใด
การกลับมาร่วมมือใหม่ครั้งนี้ แม้จะไม่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ แต่ก็ว่าจ้างให้โอกิลวี่ พีอาร์ ส่ง Press Release ถึงสื่อมวลชนพร้อมรายละเอียดความร่วมมือของ 2 ยักษ์ใหญ่ที่มีมายด์แชร์ มีเดียเอเยนซี่ ผู้วางแผนซื้อสื่อโฆษณาให้กับยูนิลีเวอร์เป็นตัวกลาง พร้อมประกาศชัดร่วมกันวางแผนสื่อช่วงเทศกาลปลายปี 2552 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ต่อเนื่องด้วยแผนในปี 2553
บาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ยอมรับว่า ยูนิลีเวอร์เป็นบริษัทสินค้าอุปโภครายใหญ่จำเป็นอย่างยิ่งที่นอกเหนือจากช่องทางจำหน่ายที่ต้องครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว ยังหมายรวมถึงช่องทางในการสื่อสารด้วยซึ่งช่อง 7 จะช่วยทำให้สามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายของยูนิลีเวอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นั่นหมายความว่าช่วงเวลากว่าครึ่งปี ที่ยูนิลีเวอร์ ต้องหันไปใช้บริการจากช่อง 3 หรือแม้แต่สื่ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเคเบิลทีวีทีวี และออนไลน์ แต่ยูนิลีเวอร์ ต้องยอมรับว่า ช่อง 7 ยังทรงพลังเสมอ ในตลาด Mass ทั้งละคร ที่ตอบโจทย์คนดูที่เป็นชาวบ้าน ร้านตลาด รวมถึงความแรงของสัญญาณ ที่ช่อง 7 ยังเหนือกว่าช่องไหนๆ ซึ่งยังยากที่จะมีสื่อไหนทดแทนในเวลาอันสั้น
พอล กิบบินส์ กรรมการผู้จัดการ มายด์แชร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “มายด์แชร์เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือระหว่างทั้งสามฝ่ายจะก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงธุรกิจมาก เนื่องจากช่อง 7ได้รับความนิยมสูง และมีส่วนแบ่งผู้ชมสูงมากอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นทุกช่วงเวลา ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 50% และช่วงไพรม์ไทม์ 54%
ทั้งนี้เป็นที่คาดการณ์ว่าใน 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ยูนิลีเวอร์จะถล่มงบมากกว่าเคย ขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 2552 นี้ใช้งบผ่านสื่อโทรทัศน์ทั้งสิ้น 3,468 ล้านบาท แต่ลงมาที่ช่อง 7 เพียง 11% เท่านั้น ขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 2551 ทุ่มเม็ดเงินลงช่อง 7 สูงที่สุดด้วยสัดส่วน 42% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้เด่นชัด
แต่อย่างน้อยๆ 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ก็ทำให้ช่อง 7 หน้าชื่นตาบานได้ เมื่องบจากยูนิลีเวอร์จะเทกลับมาเหมือนเดิม ซึ่งปีที่แล้วเทงบลงช่อง 7 กว่า 213 ล้านบาท
โดยยอดโฆษณาช่อง 7 จากยูนิลีเวอร์เหลือเพียงการซื้อเวลาจากผู้เช่าเวลาโดยตรงในช่วงนอนไพรม์ไทม์ สะท้อนผ่านตัวเลขรายได้โฆษณาของช่อง 7 จากยูนิลีเวอร์ในเดือนกรกฎาคม 2552 เหลือเพียง 66,000 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ บริษัทแม่ยูนิลีเวอร์อยู่ระหว่าง Global Media Pitch ซึ่งครั้งนี้มีอยู่ 4 ค่าย คือ เอจิส อินนิชิเอทีฟ มายด์แชร์ และพีเอชดี ความเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นอีกครั้ง…ต้องติดตาม เพราะยูนิลีเวอร์มีทุ่มงบโฆษณามหาศาล เฉพาะปีที่แล้วก็ปาไปกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั่วโลก หรือราว 175,000 ล้านบาท (มูลค่าเท่ากับ Akashi-Kaiky Bridge สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก ของประเทศญี่ปุ่น)