เอชพีต้องมีการ์ด

กลยุทธ์การตลาดแบบผ่อน 0% หรือแจกของแถมไม่ขลังพอ เพราะใครๆ ก็ทำได้ ฮิวเลตต์ แพคการ์ด หรือ เอชพี จึงเดิมเกมการตลาดรูปแบบใหม่ โดยนำกลยุทธ์ยอดฮิตอย่าง CRM หรือ Customer Relation Management เดินเกมการตลาดเพื่อมัดใจลูกค้า “ระดับบน” ที่ซื้อโน้ตบุ๊กราคาสองหมื่นห้าขึ้นไป จะได้รับบัตรสมาชิก เพื่อรับสิทธิพิเศษรูปแบบต่างๆ ที่นำมาจากไลฟ์สไตล์ลูกค้ามาเป็นหัวใจสำคัญ

บัตรสมาชิก หรือ HP Pavilion Experience Card คือชื่อบัตรที่ถูกคิดขึ้นเพื่อโปรโมตโน้ตบุ๊กกลุ่ม Pavilion โดยเฉพาะ เอชพีบอกว่ากลุ่มเป้าหมายของ Pavilion คือกลุ่มผู้ใช้ที่มีงบประมาณไม่จำกัดและต้องการผลิตภัณฑ์ไอทีที่มีสไตล์เฉพาะตัว โจทย์ที่เอชพีเลือกมาขยายผลจึงเป็นการหาวิธีให้ลูกค้าเอชพีที่ซื้อโน้ตบุ๊ก Pavilion ได้รับสิทธิพิเศษเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง

เอชพีเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนี้ชื่นชอบการช้อปปิ้ง ดูภาพยนตร์ และฟังเพลง จึงวางหมากชิมลาง 3 เซ็กเมนต์สุดฮอตนี้ก่อน โดยร่วมมือกับ 3 พันธมิตรคือ เมเจอร์กรุ๊ปเจ้าพ่อโรงภาพยนตร์, LOVEiS ค่ายเพลงพันธุ์ใหม่ และเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป (CMG) ตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังสุดไฮโซ ให้สิทธิ์ลูกค้าเอชพีที่ซื้อโน้ตบุ๊ก HP Pavilion นำบัตรสมาชิกมาซื้อตั๋วชมภาพยนตร์ 1 แถม 1, มีสิทธิ์ชมคอนเสิร์ตแบบใกล้ชิด และมีส่วนลดเพิ่มเติมเมื่อซื้อสินค้าแบรนด์ไฮโซ

ธีรวิทย์ แม่นชนะ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาดผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์โน้ตบุ๊ก กลุ่มพีเอสจี มั่นใจว่าโครงการบัตรสมาชิกนี้จะสามารถสร้างกระแส “รับรู้ในแบรนด์” เอชพีอย่างพุ่งกระฉูด ขณะเดียวกัน พันธมิตรทั้ง 3 รายก็จะยิ้มรับเงินสะพัดจากลูกค้ากลุ่มนี้ เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อในระดับหนึ่ง

“ภาพที่เราจะได้เห็นในอนาคตคือ ใครไปซื้อตั๋วที่โรงหนังก็จะเห็นโฆษณาโน้ตบุ๊กเอชพี เช่นเดียวกับคนที่ไปชมคอนเสิร์ตหรือช้อปปิ้ง นี่ไม่ใช่โปรโมชั่น แต่เป็นแคมเปญที่เราเชื่อว่าจะสร้างการรับรู้ในแบรนด์ได้ดีกว่าการให้ของแถมหรือการทำโปรโมชั่นเพื่อเร่งยอดขายโน้ตบุ๊กแบบปกติที่ค่ายไอทีไปมะรุมมะตุ้มทำกันมา แถมยังส่งผลที่ดีกว่าในระยะยาวด้วย”

ผู้บริหารเอชพีเผยว่าการวิน 3 เด้งบนแคมเปญนี้เกิดขึ้นบนต้นทุนใกล้เคียงกับการทำโปรโมชั่นเดิมๆ ที่เอชพีเคยทำมา แต่จุดสำคัญคือรายชื่อลูกค้าในมือที่ได้มา จะเป็นต้นทุนที่ทำให้เอชพีสามารถดำเนินกลยุทธ์เพื่อต่อยอดแคมเปญมหารวยในอนาคตได้อีกไม่รู้จบ

“รายชื่อลูกค้าในมือจะช่วยให้เราทำอะไรได้อีกเยอะ เรามีแผนเพิ่มพันธมิตรแน่นอน เฟสนี้กินระยะเวลาถึง 30 กันยายนปีหน้า ซึ่งเฟสหน้าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรต้องดูสถานการณ์อีกที โดยพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบริษัทในภูมิภาคกำลังจะเปิดตัวใน 2 เดือนนี้ เช่น ยูนิเวอร์แซลมิวสิค”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เอชพีผสมไอที แฟชั่น และความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกัน เพราะที่ผ่านมา เอชพีพยายามบุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคด้วยการเน้นออกแบบผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์โน้ตบุ๊กพีซีให้มีความเป็นแฟชั่นมากกว่าค่ายอื่นๆ ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือการเปิดตัว HP Mini 110 by Vivien Tam ซึ่งทำให้อุปกรณ์ไอทีกลายเป็นอุปกรณ์แกดเจ็ตแฟชั่นที่วางจำหน่ายในโชว์รูม Vivien Tam ได้สำเร็จ

ต้องรอดูว่าหมากเกมหน้า เอชพีจะมีอะไรมาตอกย้ำจุดยืน “บุกไลฟ์สไตล์” ชาวไอทีอีกหนอ

Did you know

ยอดจำหน่ายของโน้ตบุ๊กทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 40% ต่อปี ยอดรวมปี 2008 อยู่ที่ 38.6 ล้านเครื่อง สวนทางกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่มียอดขายลดลง 1.3% เหลือ 38.5 ล้านเครื่อง

ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ iSuppli