ในไตรมาสแรกของปี 2564 ยอดขายพีซีทั่วโลกมีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในรอบ 20 ปี เนื่องจากผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจซื้อแล็ปท็อปและเดสก์ท็อปเครื่องใหม่เพื่อ Work และ Learn Form Home และภาพรวมทั้งปี ยอดขายพีซีเติบโตขึ้นประมาณ 15% หลังจากที่ตั้งแต่ปี 2555 ตลาดพีซีทั่วโลกแทบไม่เติบโต
มาไตรมาสแรกของปี 2565 การจัดส่งพีซีทั่วโลกลดลงอย่างมาก ซึ่งบ่งชี้ว่าช่วงที่บูมที่สุดของยอดขายพีซีได้สิ้นสุดลงแล้วโดย Gartner คาดว่า ยอดส่งมอบพีซีปีนี้จะลดลง -7.3% เหลือ 77.5 ล้านเครื่อง ซึ่งส่วนที่ลดลงมากที่สุดมาจากยอดขาย Chromebook ซึ่งเป็นแล็ปท็อปราคาประหยัดที่ได้รับความนิยมในโรงเรียน
เช่นเดียวกับ IDC ที่ประเมินว่าตลาดจะลดลง –5.1% เป็น 80.5 ล้านเครื่อง ส่วน Canalys คาดว่าตลาดจะลดลง -3% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 65 อย่างไรก็ตาม Gartner ประเมินว่าแม้ว่าจำนวนเครื่องจะลดลง แต่มูลค่าตลาดทั้งหมดยังคงเติบโตได้ราว +3.3% ต่อปี
นักวิเคราะห์บางคนมองว่า สาเหตุที่เริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตของตลาดที่ช้าลงอย่างมาก มาจากผู้บริโภคจำนวนมากซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ไปแล้ว ขณะที่อุตสาหกรรมเผชิญกับความท้าทายเกี่ยวกับการจัดหาชิ้นส่วนที่จำเป็นสำหรับแล็ปท็อปและเดสก์ท็อป อันเนื่องมาจากปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกในช่วงที่ยอดขายพีซีเฟื่องฟู อีกทั้งผู้จำหน่ายพีซีหยุดส่งคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ไปยังรัสเซียในระหว่างการรุกรานยูเครน
สำหรับบริษัทที่มียอดขายพีซีสูงสุด 6 อันดับในช่วงไตรมาสแรกของปี ได้แก่
- Lenovo
- HP
- Dell
- Apple
- Asus
- Acer