ปล่อยให้ทั้ง AIS และ True ออกมาเคลื่อนไหวและสนับสนุนวงการ “e-Sports” ไปพักใหญ่ ทั้งการเป็นเมนสปอนเซอร์ การแข่งขัน หรือออกแพ็กเกจโดยเฉพาะ จนชื่อของแบรนด์เข้าไปอยู่ในการรับรู้เรียบร้อยแล้ว ในที่สุด “Dtac” ก็อดใจไม่ไหว หันมาลุย e-Sports ด้วย
Dtac ให้เหตุผลที่สนใจตลาดนี้อย่างจริงจัง เพราะเห็นแนวโน้มกระแสความแรงของตลาดเกมบนโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลจากเว็บไซต์ Newzoo.com ระบุว่า ในปี 2018 ที่ผ่านมาตลาดอุตสาหกรรมเกมทั่วโลกนั้นขยายตัวเป็นอย่างมาก
ส่วนสำคัญที่ช่วยให้ตลาดอุตสาหกรรมเกมนั้นเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือกลุ่มเกมบนโทรศัพท์มือถือ เมื่อเปรียบเทียบการขยายตัวที่เกิดขึ้นในปี 2018 กับปี 2017 แล้ว เห็นได้ว่ามีการขยายตัวของเกมบนโทรศัพท์มือถือมากกว่า 50%
ขณะเดียวกันเมื่อหันเข้าไปมองลูกค้าของ Dtac เองก็พบว่า จากฐานลูกค้า 21 ล้านราย เฉพาะฐานลูกค้าที่สนใจเกมมีมากกว่า 30% ซึ่งแม้กลุ่มผู้ชายจะเป็นกลุ่มหลัก แต่ฐานเกมเมอร์ผู้หญิงค่อนข้างเติบโตขึ้นในปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ผู้ที่สนใจเกมจะอยู่ในช่วงอายุต่ำกว่า 24 ปี และ 25 – 39 ปี และมากกว่า 50% อาศัยอยู่ในบริเวณกรุงเทพมหานคร
แต่ข้อมูลสำคัญที่ทำให้ Dtac ต้องกระโดดเข้ามาในวงการนี้คือ ค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายเงินในลูกค้าเติมเงินเกมเมอร์ จะสูงกว่าลูกค้าเติมเงินปกติถึง 1 เท่าตัว หรือราว 300 บาทต่อเดือน จากปรกติฐานลูกค้าเติมเงินจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 150 บาทต่อเดือน
ครั้งนี้ Dtac ใจป้ำใช้เงินกว่า 100 ล้านบาท ถือเป็นงบก้อนใหญ่ที่มักไม่ค่อยเห็น Dtac ใช้มากขนาดนี้ สำหรับสนับสนุนเกม “Free Fire” เกมแนว “Battle Royale” บนมือถือเกมแรกที่พัฒนาและเปิดให้บริการเองโดยการีนา
โดยจะเข้าไปเป็นเมนสปอนเซอร์การแข่ง Free Fire Thailand Championship 2019 ชิงเงินรางวัล 500,000 บาท และอีกรายการ Free Fire Proleague 2019 ที่จะแข่งช่วงกลางปี ซึ่งหากประสบความสำเร็จ Dtac บอกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะใส่เงินเพิ่มเข้าไปอีก
ทำไมถึงต้องเป็น “Free Fire ?” Dtac ให้เหตุผลว่า เพราะเป็นเกมที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั่วโลก มียอดผู้ลงทะเบียนบนเกมสูงถึง 350 ล้านคน และมียอดผู้เล่นสูงสุดต่อวันถึง 40 ล้านคน ติดอันดับ ‘Top 5’ สำหรับแอปพลิเคชั่นยอดนิยม ส่วนในเมืองไทยมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 20 ล้านครั้ง เฉพาะบนเครือข่าย Dtac มีผู้ใช้งานมากกว่า 3 ล้านคน
การที่มีผู้ใช้จำนวนมากทำให้เกมนี้มีฐานผู้เล่นที่หลากหลายไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเหมือนกับเกมอื่นๆ ซึ่งทาง Dtac เองก็ต้องการเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มแมสอยู่แล้ว จึงสนใจในเกม “Free Fire”
และเมื่อดูจากข้อมูลยอดใช้จ่ายที่มีมากกว่า 1 เท่าตัว จึงไม่ต้องแปลกใจที่ Dtac ต้องสนใจ e-Sports เพราะถือเป็นกลุ่มที่มี “กำลังจ่าย” ที่สำคัญกลุ่มหลักยังเป็นเด็ก มีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นฐานลูกค้าหลักต่อไปในอนาคต
สุกัณณี เลิศสุขวิบูลย์ ผู้อำนวยการ สายงานการตลาดระบบเติมเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า
“เป้าหมายของ Dtac คือ ทำยังไงก็ได้ที่จะทำให้ฐานลูกค้าที่มีคุณภาพเข้ามา ซึ่งการสนับสนุน e-Sports ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่ไม่อาจมองข้ามได้”
อย่างไรก็ตาม Dtac ยังไม่มีแผนที่จะออกแพ็กเกจสำหรับ e-Sports ด้วยมองว่า ยังมีแพ็กเกจอื่นๆ ที่ยังรองรับได้อยู่ ต่างจาก AIS ที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันได้มีการออกแพ็กเกจสำหรับ e-Sports โดยเฉพาะ