บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) สบโอกาสเดินหน้าสยายปีกธุรกิจสุขภาพในอาเซียน จับมือ Ga Mone Pwint (GMP) เครือบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งเมียนมา ร่วมลงทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เปิดโรงพยาบาลใหญ่คุณภาพระดับสากล “โรงพยาบาลอายุอินเตอร์เนชันแนล” (ArYu International Hospital) โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ระดับตติยภูมิ มีมาตรฐานสากล พร้อมด้วยเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยและทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อส่งมอบบริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจรให้กับลูกค้าในประเทศพม่า กลางนครย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ตั้งเป้าเป็นโรงพยาบาลทางเลือกใหม่ด้านการรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนชาวเมียนมาและชาวต่างชาติในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ และรับบริการที่ดีโดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือด้านการรักษาที่ทันสมัย
ดร.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า โรงพยาบาลอายุอินเตอร์เนชั่นแนล เกิดจากความร่วมมือระหว่างธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป และ Ga Mone Pwint หรือ GMP เครือบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งเมียนมา ที่ดำเนินธุรกิจการค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจโรงแรม มาร่วมลงทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย บมจ.ธนบุรีเฮลท์แคร์กรุ๊ป ถือหุ้น 40% GMP 50% และอีก 10% ถือหุ้นโดย Aryu Ananta Medical Services Company Limited บริษัทท้องถิ่นที่ถือหุ้นโดยกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ในเมียนมา ซึ่งการร่วมลงทุนกับกลุ่มแพทย์ชาวเมียนมา นับเป็นจุดแข็งที่จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นการร่วมกันยกระดับสถานพยาบาลในเมียนมาให้ได้มาตรฐานการรักษาในระดับสากล
“ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดสุขภาพในประเทศเมียนมามีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นที่น่าจับตามองของกลุ่มนักลงทุน ซึ่งเป็นผลมาจากคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยทั่วไปที่พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงการเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลางที่มีกำลังใช้จ่ายสูง คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของการวินิจฉัยที่ถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ที่จะนำไปสู่การรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที ทำให้โรงพยาบาลอายุอินเตอร์เนชั่นแนล สามารถตอบโจทย์กลุ่มชนชั้นกลางของประเทศเมียนมาที่มีกำลังทรัพย์ในการเดินทางไปรับการรักษาที่ต่างประเทศ ให้มารับบริการดูแลรักษาที่โรงพยาบาลอายุอินเตอร์เนชั่นแนลแทน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการเดินทางแล้ว ยังช่วยลดปริมาณเงินที่ไหลออกนอกประเทศอีกด้วย”
ดร.บุญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนเริ่มก่อสร้างโครงการนี้ ทาง ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ได้ทำการวิจัยสำรวจตลาดในกรุงย่างกุ้ง พบว่า ตัวเมืองย่างกุ้งมีความต้องการโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับผู้ป่วยในได้ถึง 200 เตียง และให้บริการผู้ป่วยนอกได้ถึง 300 – 500 คนต่อวัน ที่สำคัญต้องการศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางอย่างโรคมะเร็งด้วย ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจาก Oxford Business Group ที่ชี้ว่า 90% ของโรงพยาบาลเอกชนในพม่ารองรับคนไข้ได้ไม่ถึง 100 เตียง และมักจะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เฉพาะอย่างเมืองย่างกุ้งหรือมัณฑะเลย์เท่านั้น ด้วยเหตุผลนี้เองจึงเป็นโอกาสอันดียิ่งสำหรับ ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ในการลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดบริการด้านสุขภาพของชาวเมียนมา นักท่องเที่ยว และกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศเมียนมา
ดร.วสันต์ อภิวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้อำนวยการ โรงพยาบาลอายุอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า โรงพยาบาลอายุอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นอาคาร 13 ชั้น ที่สามารถรองรับคนไข้ได้ถึง 200 เตียง และยังประกอบด้วยคลินิกเฉพาะทางหลากหลายสาขาเพื่อรองรับผู้ป่วยนอกอย่างครบวงจร พร้อมทั้งอาคารจอดรถที่สามารถรองรับได้ถึง 350 คัน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เข้ามารับบริการ สำหรับการดำเนินงานโครงการโรงพยาบาลอายุอินเตอร์เนชั่นแนล จะแบ่งเป็น 2 ระยะ โดยในขณะนี้อยู่ในระยะเริ่มแรกที่มีเป้าหมายในการรองรับคนไข้ให้ได้ 200 เตียงและให้บริการผู้ป่วยนอกได้จำนวน 300 คนต่อวัน โดยให้ความสำคัญไปที่การรักษาโรคหัวใจ (Cath Lab) และการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารส่วนต้น (GI-Endoscopy) ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในประเทศเมียนมาสนใจและต้องการมากที่สุด รวมถึงการนำแพทย์ไทยในสาขาเชี่ยวชาญต่างๆ ให้การรักษาผ่าตัด โดยการประสานความร่วมมือระหว่างแพทย์ชาวเมียนม่าและแพทย์ไทย เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ป่วย ส่วนในระยะที่ 2 จะเริ่มดำเนินการต่อในช่วงปลายปี 2562 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยให้เพิ่มสูงขึ้น และให้บริการผู้ป่วยนอกได้เพิ่มเป็น 600 คนต่อวันอีกด้วย”
“ส่วนงานต่าง ๆ ภายในโรงพยาบาลอายุอินเตอร์แนชั่นแนล อยู่ภายใต้การดูแลของทีมบริหารชาวไทยที่มากประสบการณ์กว่า 15 คน อาทิ แผนกผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ไอซียู เภสัชกร ไอที เพื่อนำทักษะและประสบการณ์ที่ได้มาจากธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป เพื่อวางระบบและสร้างมาตรฐานการรักษาให้เสมือนกับการมารักษาที่ โรงพยาบาลธนบุรีในประเทศไทย รวมถึงการนำเทคโนโลยี (HIS) Hospital Information System มาใช้ในโรงพยาบาลเพื่อเชื่อมโยงข้อมูล เริ่มจากระบบเวชระเบียนไปยังหน่วยงานต่างๆ อาทิ แลป ห้องยา การชำระเงิน การรักษาที่แม่นยำ รวมเร็ว ลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดกับผู้ป่วยได้ ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่ทางโรงพยาบาลตั้งใจในการมอบบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพระดับสากลให้กับผู้รับบริการทุกคน” ดร.วสันต์ กล่าวทิ้งท้าย