กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) เปิดแผนดำเนินการสนับสนุน พัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ ให้มีศักยภาพบนเวทีการค้าโลก ด้วยโครงการต่างๆภายใต้นโยบายกรมปี 2562 พร้อมเปิดตัวโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “ผู้ส่งออกอัจฉริยะ : Smart Exporter รุ่นที่ 17 หลักสูตรบ่มเพาะเข้มข้นตลอด 20 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมด้านการส่งออกอย่างครบวงจร ช่วยต่อยอดด้วยทฤษฎีเชิงปฏิบัติและศึกษาดูงานนอกสถานที่ รวมถึงสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจให้เข้มแข็ง
นางวรรณภรณ์ เกตุทัต รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “ปัจจุบันโครงสร้างผู้ส่งออกไทย มีจำนวนผู้ส่งออกประมาณ 30,000 ราย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการ SMEs ประมาณร้อยละ 70 ซึ่งสร้างมูลค่าการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 30 ของการส่งออกทั้งหมด ดังนั้น เพื่อให้เศรษฐกิจไทยยั่งยืนและลดการพึ่งพาการส่งออกจากบริษัทใหญ่ ภาครัฐจึงต้องเร่งสร้าง SMEs ที่มีศักยภาพในการส่งออกให้เพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพให้กับการค้าระหว่างประเทศของไทย กรมจึงมียุทธศาสตร์ชาติที่ให้ความสำคัญในการ มุ่งเน้นด้านการพัฒนาผู้ประกอบการทุกระดับ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้เป็นนักรบเศรษฐกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันทางการค้า ตั้งแต่การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ ตลอดจนขยายช่องทางตลาดใหม่ๆ ควบคู่กันไป และเพื่อให้เห็นภาพการดำเนินงานในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในการเข้าถึงโอกาสการขยายธุรกิจ และช่องทางการตลาด ซึ่งจะนำไปสู่การรวมกลุ่มและการสร้างพันธมิตรทางการค้า
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ตระหนักดีว่า “ความรู้” คือปัจจัยหลักในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทย ซึ่งนอกเหนือจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการทำธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการให้มีความพร้อมในการทำการค้าภายใต้เศรษฐกิจยุคใหม่แล้ว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังมุ่งเน้นยกระดับบริการภาครัฐด้วยนโยบาย “Sharing Economy” หรือ “เศรษฐกิจแบ่งปัน” ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ใหม่ของกรม ในการผลักดัน Local to Global โดยใช้หลักแนวคิดจากการเผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกร่วมกัน ทลายเส้นแบ่งประเภทธุรกิจ ขนาดธุรกิจ กลุ่มพื้นที่ ซึ่งในบริบทของการแบ่งปันความรู้ หมายถึง การช่วยให้ประชาชนทุกคนในประเทศไทย มีโอกาสได้เข้าถึงความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศจากบุคคลที่เก่งที่สุดในประเทศไทย ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค จึงได้ผนวกช่องทางการให้ความรู้ในช่องทาง Physical กับช่องทาง Digital เข้าด้วยกัน และเปิดโอกาสให้ได้พบปะกับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและพากันเดินหน้าไปสู่การค้าระหว่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ไปสู่ระดับโลกได้ในอนาคต
นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กล่าวว่า “เพื่อตอบสนองนโยบายของกรมในการขยายฐานผู้ส่งออกในระดับ SMEs ให้เพิ่มขึ้น สถาบันจึงได้จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฎิบัติการ “ผู้ส่งออกอัจฉริยะ : Smart Exporter” รุ่นที่ 17 ซึ่งที่ผ่านมาถือเป็นโครงการที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการในแต่ละรุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นโครงการที่พัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มธุรกิจ Startup กลุ่มทายาทธุรกิจ และผู้ประกอบการส่งออกรายใหม่ให้เป็นนักการค้าด้านการส่งออกมืออาชีพในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างครบวงจร ทั้งนี้การฝึกอบรมจะประกอบไปด้วยภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ การให้คำปรึกษาเชิงลึก และการศึกษาดูงานนอกสถานที่ โดยมีการปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันในเวทีการค้าสากล
“Smart Exporter” รุ่นที่ 17 เป็นหลักสูตรบ่มเพาะ 20 วัน ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาเข้มข้นเจาะลึกด้านการส่งออกอย่างครบวงจร เช่น กลยุทธ์การตลาดต่างประเทศ การสร้างแบรนด์ในตลาดโลก Operation Management การใช้เครื่องมือออนไลน์ การจัดการด้านการเงิน ทรัพย์สินทางปัญญา กลยุทธ์การเจาะตลาดจีนและฮ่องกง รวมทั้งการให้คำปรึกษาเชิงลึกจากทูตพาณิชย์ไทยประจำต่างประเทศ ผ่านการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ จากวิทยากรชั้นนำรวมทั้งการศึกษาดูงานนอกสถานที่ ภายใต้บริบทของเศรษฐกิจยุค Digital Disruption ตลอดจนผู้ผ่านหลักสูตรจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติทั้งในและต่างประเทศที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เช่น Top Thai Brands , Thailand Week , Mini Thailand Week และโครงการ SMEs Pro-active เป็นต้น นอกจากนี้ NEA ยังได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK โดยในปีนี้ ได้ร่วมกันจัดทำหลักสูตรต่อเนื่องในรูปแบบ Co-Course ซึ่ง EXIM BANK จะคัดเลือกผู้จบหลักสูตรเข้าโครงการฝึกอบรมของ EXIM BANK และร่วมเดินทางไปเจรจาธุรกิจในตลาดต่างประเทศต่อไป
โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “ผู้ส่งออกอัจฉริยะ : Smart Exporter” รุ่นที่ 17 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 เมษายน – 28 มิถุนายน 2562 อบรมในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ระหว่างเวลา 09.00 -17.00 น. ณ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ถนนรัชดาภิเษก) โดยมีค่าใช้จ่าย 25,000.- บาท
สำหรับผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจรายละเอียดในการเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://nea.ditp.go.th/activity/10547 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : 086-490-0139, 02-507-8131 หรือติดตามโครงการอบรมและสัมมนาดีดีได้ที่ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทรศัพท์ 02 507 7999 หรือ nea.ditp.go.th ,facebook.com/nea.ditp