แบรนด์เบอร์หนึ่งธุรกิจความงามระดับโลก “ลอรีอัล” จากฝรั่งเศส อายุกว่า 100 ปี มีพอร์ตโฟลิโอแบรนด์ความงามในมือ 36 แบรนด์ มุ่งสู่วิชั่น Beauty Tech ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลคิดค้นนวัตกรรมและสร้างประสบการณ์ผู้บริโภคสัมผัสแบรนด์ เพิ่มโอกาสเข้าถึงสินค้าและนำไปสู่การตัดสินใจซื้อ
ความมุ่งมั่นบุกเบิก Beauty Tech สะท้อนได้จากการลงทุนของลอรีอัลที่ปกติทุกปี “ลอรีอัล” จะประกาศการลงทุนใหม่ ด้วยการซื้อ “แบรนด์” ธุรกิจความงามที่มีอยู่ในตลาดเข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอเพื่อผลักดันการเติบโต แต่ปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีแรกที่ลอรีอัลไม่ใช้เงินซื้อแบรนด์ใหม่ แต่ซื้อบริษัทเทคโนโลยี ModiFace (โมดิเฟส) จากแคนาดา ซึ่งเป็นธุรกิจเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนและปัญญาประดิษฐ์ (Augmented Reality & Artificial Intelligence) เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้าน Beauty Tech
หลังจากซื้อธุรกิจ โมดิเฟส ในเดือนมีนาคม 2561 ต่อมาเดือนสิงหาคม 2561 ลอรีอัลได้ประกาศความร่วมมือกับ “เฟซบุ๊ก” โดยใช้โมดิเฟส สร้างประสบการณ์เทคโนโลยี AR แบบใหม่ผ่านเฟซบุ๊กคาเมร่า (Facebook Camera) เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองผลิตภัณฑ์เมคอัพจากแบรนด์ต่างๆ ของลอรีอัล ซึ่งถือเป็นช่องทางใหม่ทำให้ผู้บริโภคสามารถรับประสบการณ์เสมือนทดลองผลิตภัณฑ์จริงและมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ต่างๆ ของลอรีอัลได้เสมือนจริง
ไทยลุย Beauty Tech
ปัจจุบันไทยเป็นประเทศที่ตลาดความงามใหญ่ที่สุดในอาเซียน ปี 2561 เติบโต 7.31% มีมูลค่ากว่า 1.92 แสนล้านบาท โดยเติบโตต่อเนื่องที่ราว 7% มากว่า 5 ปี สำหรับ “ลอรีอัล ประเทศไทย” เป็นสาขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ล่าสุดได้แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ เพื่อดูแลตลาดไทย
อินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ด้านความงามได้กลายเป็นสินค้าที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคมากที่สุดประเภทหนึ่งบนช่องทางออนไลน์ โดยแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นปัจจัยเร่งสำคัญช่วยสร้างการเติบโตและเทคโนโลยีด้านข้อมูลใหม่ๆ ขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค พูดได้ว่าวันนี้ผลิตภัณฑ์ด้านความงามกำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ
จากเทรนด์ผู้บริโภคและการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดังกล่าว “ลอรีอัล” จึงมุ่งขับเคลื่อนบริษัทให้ก้าวสู่การเป็นผู้บุกเบิกและผู้นำระดับโลกด้าน Beauty Tech
ชู 2 เทคโนโลยีเจาะตลาด
โดย ลอรีอัล ประเทศไทย ได้เริ่มนำร่อง Beauty Tech ด้วย 2 เทคโนโลยี เริ่มด้วย นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ EFFACLAR SPOTSCAN จาก ลา โรช-โพเซย์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้กล้องมือถือสแกนใบหน้าผู้บริโภค จากนั้นจะช่วยวินิจฉัยปัญหาสิวพร้อมกับคำแนะนำการดูแลผิวรายบุคคล รวมทั้งแนะนำผลิตภัณฑ์จาก ลา โรช-โพเซย์ ซึ่งผู้บริโภคสามารถกดซื้อผ่านแอปพลิเคชั่นได้ทันที โดย EFFACLAR SPOTSCAN จะเริ่มให้บริการวิเคราะห์ปัญหาผิวกับผู้บริโภคไทยในเดือนเมษายนนี้
การนำนวัตกรรมดังกล่าวเข้ามาให้บริการในไทย เพราะเห็นว่าผู้บริโภคในประเทศไทยเพียง 10% เท่านั้นที่เข้าถึงการรักษาโดยแพทย์ผิวหนัง จึงมีโอกาสที่ผู้บริโภคไทยจะใช้นวัตกรรมจากลอรีอัลในการดูแลผิวและแก้ปัญหาสิว
อีกเทคโนโลยี คือ ModiFace โดยร่วมมือกับพันธมิตร “วัตสัน” ในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่อย่าง ColorMe แอปพลิเคชั่นการทดลองแต่งหน้าเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี ModiFace ของลอรีอัล เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลองผลิตภัณฑ์แต่งหน้าเสมือนจริงกว่า 300 รายการ ตั้งแต่รองพื้นไปจนถึงลิปสติก โดยผู้บริโภคไทยสามารถใช้ ColorMe ผ่านแอปพลิเคชั่นของวัตสันได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้ โดยแบรนด์เครื่องสำอางที่จะมีให้บริการบนแอปพลิเคชั่นคือ ลอรีอัล ปารีส และ เมย์เบลลีน นิวยอร์ก
จากสถิติข้อมูลในต่างประเทศของลอรีอัล พบว่าผู้บริโภคที่ “ไม่มี” ประสบการณ์ทดลองเครื่องสำอางไม่ว่าจะเป็นการทดลองจริงหรือการทดลองเสมือนผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ มีโอกาสที่จะสูญเสียลูกค้าในกลุ่มนี้ 5-10% ดังนั้นการมีช่องทางให้ผู้บริโภคได้มีประสบการณ์ในการทดลองสินค้า ก็มีโอกาสจะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ในแต่ละปี ลอรีอัล ทั้งระดับโลกและไทย จะมีการลงทุนด้านดิจิทัลสัดส่วน 30% ของงบลงทุน ไม่เพียงแต่ด้านสื่อสารและโฆษณาผ่านช่องทางดิจิทัล แต่ยังรวมถึงการลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสการเติบโตตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปีที่ผ่านมายอดขายของลอรีอัล ทั่วโลกมาจากช่องทางอีคอมเมิร์ซ 11% เติบโต 40%
“การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลในอุตสาหกรรมความงาม ถือเป็นปัจจัยบวก เพราะดิจิทัลกลายเป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญที่ช่วยเพิ่มการเติบโตให้ตลาด ลอรีอัลกำลังก้าวสู่ Beauty Tech พอร์ตผลิตภัณฑ์ความงามระดับไอคอนจำนวนมาก”