แอปพลิเคชัน “xCash” ครั้งแรกในไทยเขย่าวงการ สมาร์ทคอนซูมเมอร์ ยิ่งใช้ยิ่งได้แต้มเงินคืน ตั้งเป้า 3 ปี มีผู้ใช้แอปฯ 3 ล้านราย

บริษัท ดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (DLC) ภายใต้กลุ่มบริษัทดีที (DTGO) เปิดตัวการให้บริการ “xCash” (เอ๊กซ์แคช) แอปพลิเคชันที่มอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการ ที่มาพร้อมสโลแกน “ชีวิตสมาร์ท ฉลาดใช้… โหลด xCash” พร้อมเปิดตัวดาราดัง “ฟิล์ม ธนภัทร” เป็นพรีเซนเตอร์ ตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีผู้ใช้บริการ 3 ล้านราย เชื่อมั่นกระแสตอบรับดี สิ้นปีนี้จะเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 250 ล้านบาท พร้อมจับมือพันธมิตรแบรนด์ดังและร้านค้าเอสเอ็มอีเพิ่มอีกกว่า 2,000 ราย

ภายในงานแถลงข่าววันนี้ ได้รับเกียรติจาก คณะผู้บริหารนำโดย นายรัช ตันตนันตา ประธานผู้อำนวยการ กลุ่มบริษัทดีที (DTGO), นายวิฑิต อาภาพาส ประธานผู้อำนวยการ และ นายนนทิ ศัพทเสวี ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ท่ามกลางผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนร่วมงานจำนวนมาก

นายรัช ตันตนันตา ประธานผู้อำนวยการ กลุ่มบริษัทดีที (DTGO) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทดีที (DTGO) เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านธุรกิจและสังคม เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของคน และสังคมทุกรุ่น โดยผ่านกระบวนการทางความคิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจในพฤติกรรมของมนุษย์ ควบคู่ไปกับระบบสิ่งแวดล้อม และสังคมที่เปลี่ยนแปลง ด้วยเหตุนี้ องค์กรของเราจึงมุ่งพัฒนาธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ปรับเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต โดยจัดตั้ง บริษัท ดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ DLC ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มในระดับสากล ที่พร้อมจะสร้างสรรค์คุณค่า และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับผู้บริโภค พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม อาทิ e-Loyalty Platform, e-Logistic Platform, e-Commerce Platform และ e-Donation Platform

“นอกจากนี้ ดิจิต้าไลฟ์ ยังพร้อมจะเปิดเวทีให้กับคนรุ่นใหม่ ที่มีไอเดียดีๆ ด้านดิจิทัลไลฟ์สไตล์ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพและความคิด ในการสร้างสรรค์ Innovative Service หรือ Products ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้อีกด้วย”

นายรัช กล่าวด้วยว่า กลุ่มบริษัทดีที เล็งเห็นว่า การพัฒนา และให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มในระดับสากล ถือเป็นพันธกิจสำคัญ จึงได้เปิดตัว xCash โดยเชื่อมั่นว่า xCash จะเป็นมิติใหม่แห่งดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่สามารถสร้างสรรค์คุณค่า และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับผู้บริโภค พันธมิตรทางธุรกิจและสังคมโดยรวมดังที่กล่าวมา พร้อมสร้างความพึงพอใจสูงสุด ผ่านสิทธิประโยชน์มากมาย ในทุกการใช้จ่าย

“ด้วยปรัชญาการดำเนินธุรกิจของ DTGO ที่ว่า “Adding Value in Everything We Do” เราใส่ใจทุกสรรพสิ่งที่เราสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มคุณค่าในทุกสิ่ง ที่เราสร้างสรรค์ให้กับสังคม อย่างดีที่สุด ดังนั้น xCash จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์คุณภาพ ที่กลุ่มบริษัทดีทีภูมิใจนำเสนอ เพื่อส่งมอบคุณค่า เพื่อทุกการใช้จ่ายให้กับสังคมไทย” นายรัช กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน นายวิฑิต อาภาพาส ประธานผู้อำนวยการ บริษัท ดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะผู้พัฒนา และให้บริการแอปพลิเคชัน xCash เรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาและให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม ในระดับสากล ที่สร้างสรรค์คุณค่าให้กับผู้บริโภค พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวมอย่างดีที่สุด ด้วยการขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม และบุคลากรที่มีความมุ่งมั่น และมีจริยธรรม พร้อมนำเสนอนวัตกรรมสินค้า และบริการที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน และสร้างประสบการณ์ได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค

นายวิฑิต กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันในตลาดเมืองไทย มีการแจกแต้มหรือคะแนนสะสมกันจำนวนมาก ปีหนึ่งๆ มีกว่า 6-7 หมื่นล้านคะแนน ซึ่งคะแนนมักจะถูกลืมปล่อยให้หมดอายุ หรือไม่ก็ใช้คะแนนกับสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือยังไม่ต้องการจริงๆ ซึ่งคะแนนเหล่านี้คิดรวมเป็นเม็ดเงินมูลค่ากว่า 6-7 ร้อยล้านบาท เราจึงเห็นว่า คะแนนเหล่านี้ สามารถเอามาทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นได้ ถ้าแต้มเหล่านี้สามารถเอามาใช้แลกแทนเงินสดได้ตามร้านค้าต่างๆ และสามารถส่งเสริมเรื่อง Cashless Society ให้เกิดขึ้นในเมืองไทยได้ จึงเกิด concept xCash ขึ้นมา นอกจากนี้ เรายังได้เตรียมแพลตฟอร์มที่อำนวยประโยชน์ต่อกิจกรรมการกุศล ในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้ร่วมสนับสนุน และช่วยเหลือสังคมได้สะดวกยิ่งขึ้น

“จากไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป ทำให้เชื่อได้ว่า ในอนาคตอันใกล้ 1-3 ปีข้างหน้านี้ ผู้บริโภคจะพกเงินสดน้อยลง เมื่อแนวโน้มไลฟ์สไตล์ของคนทั่วโลกกำลังมุ่งไปเช่นนั้น แอปพลิเคชัน xCash จึงเป็นอีกหนึ่งดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่เปิดตัวขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในยุคนี้ และพบว่ามีการตอบรับเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ในช่วงก่อนหน้านี้ แม้ยังไม่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ บริษัทฯ มีฐานสมาชิกราว 1 แสนราย ซึ่งเป็นกระแสการตอบรับจากผู้บริโภคโดยตรง และพันธมิตรธุรกิจ จากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มธนาคาร มี 8 บัตรเครดิตชั้นนำของประเทศ ได้แก่ บัตรเครดิตซิตี้แบงก์, บัตรเครดิตธนาคารออมสิน, บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเคทีซี (บมจ.บัตรกรุงไทย), บัตรเครดิต SCB (ธนาคารไทยพาณิชย์), บัตรเครดิตธนชาต (ธนาคารธนชาต) และบัตรเครดิตทีเอ็มบี (ธนาคารทหารไทย) ตลอดจนร้านค้า แบรนด์ดัง และเอสเอ็มอีต่างๆ ฯลฯ”

นายวิฑิต กล่าวย้ำว่า บริการของเรา จะมีความแตกต่างจาก e-Wallet ที่เป็นช่องทางการจ่ายเงินเท่านั้น แต่บริการของเรา คือ แพลตฟอร์มที่จะสร้างประโยชน์ด้วยการมอบ Privileged สำหรับการใช้จ่ายเงินในทุกช่องทาง กล่าวคือ xCash จะเป็นแอปพลิเคชันแรกในเมืองไทยที่มอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการ โดยมอบอภิสิทธิ์ที่มากกว่าเดิม จะได้รับส่วนลดเป็นแต้มเงินคืนสะสมจากการชำระค่าสินค้า และบริการ ที่ไม่ว่าจ่ายด้วยเงินสด บัตรเครติด/บัตรเดบิต พร้อมเพย์ หรือช่องทางอื่นๆ กับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะกิน ช้อป เที่ยว ที่ร้านไหนๆ ซึ่งเป็นพันธมิตรของ xCash ก็จะได้รับแต้มเงินคืนทุกการใช้จ่าย สำหรับแต้มเงินที่ได้รับคืนกลับไปนั้น สามารถนำไปแลกซื้อสินค้า หรือบริการจากร้านค้าพันธมิตรของ xCash หรือจะโอนไปให้สมาชิก xCash บุคคลอื่นได้ แม้กระทั่งการปันน้ำใจ บริจาคช่วยเหลือการกุศลของมูลนิธิในเครือพันธมิตร xCash ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ คะแนนสะสมจากบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้ สามารถเปลี่ยนมาเป็นแต้มเงิน xCash เพื่อนำไปใช้แลกแทนเงินสดได้อีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้น ถือเป็นครั้งแรกในธุรกิจการเงินของประเทศไทย ที่ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต ​สามารถได้แต้มเงินสะสม xCash เหมือนบัตรเครดิต

“สำหรับทุกท่านที่สนใจ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน xCash นี้ได้ที่ App store และ Play store รายละเอียด สามารถดูเพิ่มเติมที่ www.xcashrewards.com เราเชื่อมั่นว่า แอปพลิชัน xCash จะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ให้ได้รับประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ และเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จ อย่างแน่นอน” นายวิฑิต กล่าว

ขณะที่ นายนนทิ ศัพทเสวี ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เล่าถึงภาพรวม กลยุทธ์ และเป้าหมายทางการตลาด แอปพลิเคชัน xCash ที่มาพร้อมสโลแกน “ชีวิตสมาร์ท ฉลาดใช้…โหลด xCash” ว่า สำหรับกลยุทธ์การตลาด เราแยกเป็นกลยุทธ์สำหรับลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ มนส่วนกลยุทธ์สำหรับลูกค้าได้ปรับสัดส่วนการทำการตลาดในเชิงรุกเพื่อการสร้างการรับรู้ รวมทั้งกิจกรรมทางการตลาด ที่เน้นไปที่ Online 70% และ Offline 30% พร้อมทั้งลงสื่ออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โฟกัสลงไปยัง Target Segment เช่น กลุ่ม University และกลุ่มคนที่บัตรเครดิต บัตรเดบิต ภายใต้สโลแกน “ชีวิตสมาร์ท ฉลาดใช้…โหลด xCash” และเราได้ตั้งเป้าหมายผู้สนใจใช้บริการ xCash ปลายปีนี้จำนวนลูกค้า 7 แสนราย พร้อมเติบโต 3 ปีแรกนี้จำนวน 3 ล้านราย ส่วนกลยุทธ์สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ ทางเราได้ผนึกพลังกับพันธมิตรทางธุรกิจ ที่มีจำนวนมากขึ้นให้สามารถตอบโจทย์และครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งภายในสิ้นปีพร้อมมีพันธมิตรแบรนด์ดังและเอสเอ็มอีกว่า 2,000 ราย

“สำหรับการสร้างการรับรู้ผ่านสื่อทุกแขนงทุกช่องทางนั้น โอกาสนี้ ดิจิต้าไลฟ์ ได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Xtravolution” เพื่อตอกย้ำแนวคิด xCash Extra Benefits ยิ่งใช้ ยิ่งได้คืน ที่เป็นหัวใจหลักของแอปพลิเคชัน xCash และนับเป็นมิติใหม่ที่จะฉีกทุกนิยามเดิมของการใช้จ่ายซึ่งก็คือ Extravolution สื่อต่างๆ ในแคมเปญนี้จึงถูกใส่ความเป็นอนาคตเข้ามา ข้อความที่ใช้ในการสื่อสารทุกคนจะเข้าใจได้อย่างง่ายๆ ถึงนิยามของแอปฯ นี้ว่า ทุกการใช้จ่ายจากการที่เราใช้เงินสด ใช้บัตรเดบิต e-Wallet พร้อมเพย์ และบัตรเครดิต ซึ่งแต่ละคนใช้เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกาแฟ ซื้อเสื้อผ้า ของใช้ ในชีวิตประจำวัน ทุกคนสามารถรับแต้มเงิน xCash ได้ด้วย เพื่อนำแต้มสะสมจากการใช้จ่ายผ่านแอปฯ ไปใช้แทนเงินสดตามร้านค้าต่างๆ ได้จริง ซึ่งถือเป็นการฉีกทุกนิยามของการใช้จ่าย ที่เราเคยมีประสบการณ์มาก่อน นับเป็นไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดในรูปแบบใหม่ เป็นการคิดแบบสองเด้ง จึงรวมกันออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ xCash Xtravolution โดยดึง ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ ดาราชื่อดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ นอกจาก นี้ยังมีแคมเปญโปรโมชั่นจัดอย่างต่อเนื่อง อาทิ ในเดือนพฤษภาคมนี้เรามี 3 โปรโมชั่น ได้แก่ ลูกค้าใหม่ ดาวน์โหลดและลงทะเบียน รับฟรี 30 แต้มเงิน, ลูกค้าปัจจุบัน “xCash แจกไม่อั้น” ทุกการใช้จ่าย ลุ้นรับแต้มเงินเพิ่มรวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท และสำหรับลูกค้าบัตรเครดิต สามารถเปลี่ยนคะแนนสะสมเป็นแต้มเงิน xCash รับแต้มเงินเพิ่มอีก 50% เป็นต้น”

“การที่เรามองเห็นโอกาสทางการตลาดเกี่ยวกับ Point ในตลาดที่จะเกิดขึ้นจากการศึกษามูลค่าตลาดของกิจกรรม ด้านการส่งเสริมการขายส่วนที่เป็นการตอบแทนลูกค้า ในส่วนของ Instant Win / Redemption โดยรวมในตลาดประเทศไทยสูงถึง 600-700 ล้านบาท หากนำมูลค่าส่วนนี้มาคิดต่อยอดแล้วเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น จะทำให้ตลาดบัตรเครดิต 20 ล้านใบและจำนวนบัตรเดบิต 60 ล้านใบในตลาด มีการ Adding Value กลับไปยังผู้บริโภคและหรือองค์กรการกุศลต่างๆ และในส่วนของผู้บริโภคหรือนักช้อปก็จะรู้สึกว่าตัวเองได้สร้างสรรค์ประโยชน์จากการช้อปปิ้งอย่างหลากหลายไปด้วย กล่าวคือนอกจากสนุกจากการช้อปปิ้งแล้วก็ยังมีทางเลือกในการช่วยประหยัด ลดค่าใช้จ่ายหรือได้มีทางเลือกในการช่วยเหลือสังคมไปด้วย อาทิเช่น ปัจจุบันมูลค่าการใช้จ่ายต่อครัวเรือน 22,000 บาทต่อครัวเรือน เราคืนให้ลูกค้าจำนวน 5% เท่ากับ 1,100 บาท จากที่กล่าวมาข้างต้น เราเชื่อมั่นว่า จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็น 7 แสนราย ภายในสิ้นปีนี้ และเชื่อมั่นว่า จะสามารถเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 250 ล้านบาท พร้อมมีพันธมิตรแบรนด์ดังและเอสเอ็มอีกว่า 2,000 ราย” นายนนทิ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับใครยังไม่มีแอปฯ “xCash” ดาวน์โหลดวันนี้ถึง 31 พ.ค. 62 รับฟรี 30 xCashPoint สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งที่ App store และ Play store สำหรับรายชื่อร้านค้ากว่า 300 ราย ที่สามารถใช้แอปฯ “xCash” สามารถตรวจสอบได้ที่ https://www.xcashrewards.com/privilege สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 063-905 5888

Hashtag: #xCash #ชีวิตสมาร์ทฉลาดใช้ #โหลดxCash #AppxCash

เกี่ยวกับบริษัท ดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

บริษัทดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มในระดับสากล ที่สร้างสรรค์คุณค่าและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้กับผู้บริโภค พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม อาทิ e-Loyalty Platform, e-Logistic Platform e-Commerce Platform และ e-Donation Platform

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.xcashrewards.com

เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทดีที (DTGO)

กลุ่มบริษัทดีทีก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2536 เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านธุรกิจและการตอบแทนกลับคืนสู่สังคม เรามุ่งมั่นในการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ การออกแบบ การบริหารโครงการ การพาณิชย์และเทคโนโลยี การเงินและการลงทุน ที่สอดคล้องกับการสร้างเสริมสังคมและส่งเสริมการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในหลากหลายรูปแบบ

อันดับแรกเรามุ่งมั่นในปรัชญาการดำเนินธุรกิจ “We Adding in Everything, We Do” ด้วยการเพิ่มมูลค่าในทุกสิ่งที่เราทำคือการรับรู้ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่ปรับให้เหมาะกับลูกค้า เพิ่มพูนผลกำใรให้กับผู้ถือหุ้นและสร้างสิ่งตอบแทนกลับคืนสู่สังคม แบรนด์ชั้นนำของเราได้แก่ Magnolias และ Whizdom ที่มอบความสุขในทุกด้านของการอยู่อาศัยและให้คุณภาพชีวิตที่เป็นจริงด้วยนวัตกรรมโซลูชั่นที่ได้จากการวิจัยทั่งภายในและภายนอก

ประการที่สองเราเข้าร่วมกับมูลนิธิพุทธรักษาในประเทศไทยและมูลนิธิ DT Families ที่ฮ่องกงและพันธมิตรอื่น ๆ โดยทีมเราร่วมกันทำงานอย่างต่อเนื่อง ในการสร้างโอกาสให้แก่เด็กที่ขาดโอกาสนับพันในการเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองให้ประสบความสำเร็จและคิดค้นการใช้นวัตกรรมที่หลากหลายมาช่วยให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ประการสุดท้าย ด้วยค่านิยมหลักของ DTGO สปิริตของจิตอาสา จึงเป็นสิ่งที่ได้ปลูกฝังในใจทีมผู้บริหารและสมาชิกองค์กรทุกคน รวมถึง ลูกค้า ซัพพลายเออร์และคู่ค้า บุคลากรของเราทุ่มเทเพื่อแบ่งปันความมุ่งมั่นและการสละเวลาของพวกเขาเพื่อรังสรรค์สิ่งดีๆให้สังคมอย่างต่อเนื่อง

DTGO ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2562 ซึ่งถือเป็นองค์กรแรกในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งถูกรวบรวมเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2550 โดยสถาบัน Ethisphere จากสหรัฐอเมริกา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: www.dtgo.com

เกี่ยวกับบริษัท ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัดและจริยธรรม

บริษัทดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของ Global Compact Network Thailand (GCNT) ซึ่งเป็นองค์กรที่อุทิศตนเพื่อให้ภาคเอกชนเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามหลักการ 10 ข้อของ UN Global Compact ที่ต้องการสร้างความยั่งยืนขององค์กร โดยเริ่มจากการสร้างคุณค่าขององค์กร และแนวทางหลักในการทำธุรกิจ ซึ่งหลักการเหล่านี้ครอบคลุมถึงการใช้แรงงานด้านสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านคอร์รัปชั่น เพื่อช่วยพัฒนาความคิดริเริ่มของบริษัทดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อเป็นการปฎิบัติด้านจริยธรรม โดยบริษัทดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ก่อตั้งขึ้นด้วยพันธกิจที่ว่าการดำเนินงานขององค์กรจะต้องให้ประโยชน์ต่อ “คนส่วนใหญ่ สังคมที่เราอยู่ องค์กรของเรา และผู้มีส่วนร่วมอื่น ๆ “

เกี่ยวกับสถาบัน Ethisphere

สถาบัน Ethisphere® เป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมที่ขับเคลื่อนลักษณะขององค์กร ให้เกิดความไว้วางใจในตลาด และความสำเร็จทางธุรกิจ สถาบัน Ethisphere มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการวัดและกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกเป็นตัวช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถพัฒนาลักษณะขององค์กรและวัดผล พร้อมปรับปรุงวัฒนธรรม โดยสถาบัน Ethisphere ได้ยกย่องความสำเร็จขององค์กรต่าง ๆ ผ่านการคัดเลือกองค์กรที่มีการดำเนินงานอย่างมีจริยธรรม หรือ World’s Most Ethical Companies และสร้างชุมชนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ผ่าน Business Ethics Leadership Alliance (BELA) ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ethisphere สามารถดูได้ที่ https://ethisphere.com