หลังจาก “เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์” ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ โดยให้เหตุผลว่า มีภารกิจมากขึ้นทำให้ไม่มีเวลาปฏิบัติงานให้แก่บริษัทฯ ได้อย่างเต็มที่ โดยมีผลทันที (24 เม.ย.)
กระแสข่าวนี้ สร้างกระแสฮือฮาและถูกวิเคราะห์กันไปมากมาย บ้างว่าเจ้าสัวธนินท์ในวัย 80 ปี ต้องการพักผ่อน บ้างลือกันไปใหญว่าท่านประธานของชาวซีพีจะไปเล่นการเมือง
แต่เบื้องหลัง จากแหล่งข่าวใกล้ชิดได้ยืนยันว่า ไม่ได้ไปพักผ่อน หรือเล่นการเมือง แต่เจ้าสัวธนินท์ต้องการทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP Leadership Institute ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ที่ก่อกำเนิดขึ้นจากวิสัยทัศน์เจ้าสัวเอง โดยต้องการสร้างและพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่รองรับอนาคตของธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมถึงการสนับสนุนให้คนไทยได้เป็นผู้นำระดับโลก
เครือธุรกิจของเครือซีพีนั้นมากมายมหาศาล ตั้งแต่ธุรกิจเกษตร อาหาร ปศุสัตว์ สื่อสารโทรคมนาคม ผู้ให้บริการมือถือ ทีวีดิจิทัล ธุรกิจด้านดิจิทัลอีคอมเมิร์ซ อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ ร้านสะดวกซื้อ เซว่นอีเลฟเว่น ล่าสุดยังได้ขยายเข้าสู่เมกกะโปรเจกต์ มูลค่าหลายแสนล้าน โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ไม่ใช่แค่ในประเทศแต่ยังขยายการลงทุนไปในหลายประเทศทั่วโลก
ด้วยเครือข่ายธุรกิจมากขนาดนี้ เฉพาะลูกหลานและเครือญาติที่จะมาดูแลธุรกิจย่อมหายากขึ้นเรื่อยๆ และการแข่งขันของธุรกิจยุคนี้ จำเป็นที่ต้องใช้คนที่มีความรู้ความสามารถ ก้าวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง
เจ้าสัวธนินท์จึงต้องหันมาให้ความสำคัญต่อการสร้างคน เพราะถือว่าเป็น “ทุนมนุษย์” หรือ “Human Capital” ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนทุกสิ่งทุกอย่าง
สถาบันผู้นำแห่งนี้ จึงเป็น “ศูนย์กลาง” ที่ตั้งความหวังไว้ว่าจะใช้ในการหล่อหลอมผู้นำรุ่นใหม่จากทั่วโลกของซีพี เพื่อเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจต่อไปในอนาคต
เจ้าสัวจึงต้องลงมากำกับดูแล เลือกเฟ้นด้วยตัวเอง ยิ่งถ้าโคลนนิ่งแบบเจ้าสัวเองได้ ก็น่าจะเป็นกำไร คนจึงเป็น “จิ๊กซอว์” ตัวสุดท้ายของเจ้าตัวธนินท์อย่างแท้จริง.