ลอรีอัล เตรียมเผยโฉมนวัตกรรมความงามแห่งอนาคตที่งาน Viva Technology 2019

ลอรีอัล กรุ๊ป เตรียมแสดงวิสัยทัศน์ “ความงามไร้ขีดจำกัด”  (Limitless Beauty)เพื่อความงามแห่งอนาคตและยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ผ่านการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีเสมือนจริง (AR) และเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียง (Voice) ที่งานวีวา เทคโนโลยี ปารีส 2019  (Viva Technology Paris)

นางลูโบมิรา โรเช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลของลอรีอัล กล่าวว่า “เราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ด้านความงามซึ่งมาพร้อมความหลากหลาย ทุกคนสามารถเข้าถึงได้  อีกทั้งยังสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการและความปรารถนาของคนทั่วโลก นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล อาทิ AR, AI และเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียง เปิดโอกาสให้เราสามารถมอบบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถผลิตสินค้าได้อย่างรวดเร็วในแนวทางที่ยั่งยืน นอกจากนั้นยังสามารถผสานผู้บริโภคเข้ากับกระบวนการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่และทุกเวลา”

เทคโนโลยีที่ไร้ขีดจำกัด Limitless Tech

  • นวัตกรรมหลักในปีนี้ ลอรีอัลจะนำเสนอเวอร์ชวลแฮร์แอดไวเซอร์  (Virtual Hair Advisor) ที่สร้างสรรค์โดย ModiFaceบริษัทเทคโนโลยี AR และ AI ของลอรีอัล โดยใช้เทคโนโลยีการสั่งการด้วยเสียง เพื่อทดลองประสบการณ์เปลี่ยนสีผมแบบเสมือนจริงจาก Virtual Hair Advisor รวมถึงรับคำแนะนำต่าง ๆ จากทีมงานช่างผมมืออาชีพของแบรนด์ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล
  • สกินคอนซัลท์ โดยวิชี่ (SkinConsult) เป็นเทคโนโลยีวิเคราะห์ผิวแบบดิจิทัล ที่ลอรีอัลได้พัฒนาร่วมกับแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจจับสัญญาณการร่วงโรยแห่งวัย และให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเฉพาะบุคคล เทคโนโลยีดังกล่าวเกิดขึ้นจากการทำงานระหว่าง ModiFace และฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมของลอรีอัล โดย SkinConsult เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาจากงานวิจัยทางวิทยาศาตร์เกี่ยวกับสัญญาณร่วงโรยแห่งวัยที่ได้มีการศึกษามากว่า 15 ปี
  • เอฟฟาคลาร์ สปอตสแกน โดยลา โรช-โพเซย์ (Effaclar Spotscan) เป็นเว็บแอปพลิเคชันที่ลอรีอัลได้พัฒนาร่วมกับแพทย์ผิวหนัง เพื่อวิเคราะห์ผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิว ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI และข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ โดยสามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่ตรงกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล เพื่อรักษารอยสิว ป้องกันไม่ให้สิวอักเสบรุนแรงมากขึ้น รวมถึงสามารถรับคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนังได้ในกรณีที่มีความจำเป็น

บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลแบบไร้ขีดจำกัด Limitless Personalization

  • เชด ไฟเดอร์ โดยลังโคม (Shade Finder) เป็นเทคโนโลยีสุดล้ำที่อาศัยความชาญฉลาดของ AI โดย Shade Finder สามารถแนะนำเฉดสีรองพื้นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ณ จุดขายได้โดยตรง สำหรับบริการนี้ได้เริ่มนำไปให้บริการแล้วทั่วโลก ณ จุดขายกว่า 1,000 แห่ง ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี 2562
  • ครั้งแรกที่ลอรีอัลเผยโฉมมายลิตเติลแฟคทอรี (My Little Factory) นวัตกรรมเทคโนโลยีที่จะเปิดทางสู่การผลิตครีมรองพื้นแบบที่ตรงกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าในจำนวนมากในอนาคต

ความสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัด Limitless Creativity: โซน 360° immersion ที่เปิดโอกาสให้สัมผัสกับเทรนด์ความงามจากทั่วโลก ซึ่งรวบรวมมาจากโซเชียลมีเดียโดยฝีมือของ AI

ความว่องไวไร้ขีดจำกัด Limitless Agility: นำเสนอเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติและการผลิตตามคำสั่งพิเศษ ผ่านการออกแบบน้ำหอมใหม่ของลังโคม และ วิคเตอร์แอนด์รอล์ฟ รวมถึงทดลองเครื่องจำหน่ายลิปสติก จิออร์จิโอ อาร์มานี แบบอัตโนมัติ ซึ่งสามารถลองเฉดสีแบบเสมือนจริงได้จากเทคโนโลยี ModiFace

เกี่ยวกับลอรีอัลกรุ๊ป

ลอรีอัลทุ่มเทในธุรกิจความงามมายาวนานกว่า 100 ปี โดยมีพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ความงามระดับโลกที่หลากหลายและเกื้อหนุนกัน 36 แบรนด์ ในปี 2561 ลอรีอัลกรุ๊ป มียอดขายผลิตภัณฑ์ 26.9 พันล้านยูโรและมีพนักงานทั้งสิ้น 86,000 คนทั่วโลก ในฐานะองค์กรด้านความงามชั้นนำของโลก ลอรีอัลมีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ครอบคลุมถึงตลาดมวลชน ห้างสรรพสินค้า เภสัชกรรมและร้านขายยา ซาลอน ร้านค้าในสนามบิน ร้านค้าปลีก และ อี-คอมเมิร์ส

ลอรีอัลยึดมั่นในกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กรในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องโดยทีมงานวิจัยกว่า 3,885 คน ที่มุ่งตอบสนองต่อความปรารถนาด้านความงามของผู้คนทั่วโลก นอกจากนี้ ลอรีอัลมีพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับปี 2020 “Sharing Beauty With All” หรือ  “แบ่งปันความงดงามให้ทุกสรรพสิ่ง” เป็นแนวทางกำหนดเป้าหมายเพื่อการพัฒนาด้านความยั่งยืนในทุกภาคส่วนของลอรีอัลกรุ๊ป สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชม: www.loreal.com