บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป หรือ THG ประกาศผลงานไตรมาส1/2562 ทำรายได้รวม 1,872 ล้านบาท เติบโต 11.2% จากรายได้โรงพยาบาลในประเทศที่เพิ่มขึ้น และยอดขายโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ แต่กำไรสุทธิยังถูกกระทบจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายการดำเนินงานของโครงการใหม่ ทั้งโรงพยาบาลในต่างประเทศและโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ที่เปิดบริการใหม่ ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2 คาดรายได้เติบโตต่อเนื่องจากกิจการโรงพยาบาล และเตรียมทยอยรับรู้รายได้จากการโอนห้องชุดโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ที่มีแบ็กล็อกในมือ 104 ยูนิต
นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด ‘ปกป้องดูแลความสุขและสุขภาพคนไทยทุกช่วงชีวิต’ (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2562 (มกราคม-มีนาคม 2562) มีรายได้รวม 1,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,683 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจรักษาพยาบาลเติบโตได้ดี โดยโรงพยาบาลในประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น และเริ่มรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ที่เปิดให้บริการเฟสแรกเพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้บริการระดับพรีเมียมและกลุ่มเมดิคอล ทัวริสซึม นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพักอาศัยในโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ รังสิต (Jin Wellbeing County) อีก 25 ยูนิต รวมมูลค่าขายเกินกว่า 100 ล้านบาทอีกด้วย
ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 1/2562 อยู่ที่ 11 ล้านบาท ชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 161 ล้านบาท ซึ่งรวมกำไรพิเศษ 65 ล้านบาท กำไรสุทธิในไตรมาสนี้ได้รับผลกระทบจากการรับรู้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานของโครงการใหม่ ทั้งโรงพยาบาลในต่างประเทศและในไทย ซึ่งปัจจุบันยังมีรายได้ไม่ถึงจุดคุ้มทุน ได้แก่ Welly Hospital ในเมืองเวยไห่ ประเทศจีน ที่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบปลายปี 2560 โรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ ที่เปิดบริการอย่างเป็นทางการเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ในประเทศไทยที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่งมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งโรงพยาบาล Welly Hospital และโรงพยาบาล Ar Yu International Hospital มีผู้ป่วยใช้บริการเฉลี่ยเพิ่มขึ้น จากความไว้วางใจในมาตรฐานบริการและทีมแพทย์ อีกทั้งยังมีศูนย์ตรวจรักษาใหม่ ๆ ที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้น ส่วนโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง มีรายได้เพิ่มขึ้นจากผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น ผู้ป่วยจากตะวันออกกลางที่เดินทางมารักษาแผลที่เกิดจากโรคเบาหวาน และมีแนวโน้มเพิ่มความสามารถการให้บริการแก่ผู้ป่วยในอนาคต
รองประธานกรรมการ THG กล่าวว่า บริษัทยังคงมุ่งสร้างรายได้จากการเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลและกระตุ้นการขายและโอนที่อยู่อาศัยในโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ จึงคาดการณ์รายได้ไตรมาส 2/2562 จะยังคงเติบโตต่อไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ 1. รายได้จากโรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลธนบุรี 2 และโรงพยาบาลในเครือข่ายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2. โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ที่เตรียมเปิดบริการศูนย์ตรวจรักษาเพิ่มขึ้น เช่น ศูนย์ IVF รักษาผู้มีบุตรยาก ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากชาวจีนจำนวนมาก 3. โรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้าใช้บริการรักษาโรคข้อและกระดูกเพิ่มขึ้นหลังเสริมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ 4. แผนงานทยอยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพักอาศัยในโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ รังสิต ซึ่งปัจจุบันมีแบ็กล็อกหรือยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์อีก 104 ยูนิต
นอกจากนี้ คาดว่าภายในไตรมาส 3 ปีนี้นี้จะเปิดให้บริการสถาบันจิณณ์ เวลเนส เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม การทำกิจกรรมและออกกำลังกาย รวมถึงโรงพยาบาลธนบุรี บูรณา ภายในโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ รังสิต เพื่อให้บริการตรวจรักษาและดูแลสุขภาพแก่ผู้สูงวัย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มยอดขายห้องชุดพักอาศัยภายในโครงการดังกล่าว ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนวัยเกษียณและผู้รักสุขภาพ
ทั้งนี้ THG ยังคงให้ผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา ที่อัตราหุ้นละ 0.35 บาท รวมเป็นเงิน 297 ล้านบาท หรือคิดเป็น 85.5% ของกำไรสุทธิปีที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ตามที่ปรากฏในรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผล