Jay-Z ลงทุนจนได้ดี ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีของ Forbes คนแรกในวงการฮิปฮอป

ตื่นเต้นกันทั้งวงการฮิปฮอปเมื่อ Jay-Z หรือชื่อเดิมคือ Shawn Carter ถูกเพิ่มรายชื่อในทำเนียบมหาเศรษฐีระดับโลกของ Forbes อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำความสำเร็จของศิลปินดังที่หันมาเป็นผู้ประกอบการจนทำให้อาณาจักรธุรกิจขยายผลทะลุ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ กลายเป็น 1 ในคนบันเทิงไม่กี่คนที่สามารถยกระดับเป็นมหาเศรษฐี แถมยังเป็นศิลปินฮิปฮอปคนแรกที่พัฒนาตัวเองจนติดอันดับทำเนียบคนรวยระดับโลก

จากข้อมูลของ Forbes พบว่าอาณาจักรธุรกิจ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐนั้นรวมส่วนของ Jay-Z และภรรยาคือ Beyoncé โดยเฉพาะ Beyoncé ก็ไม่ธรรมดา ล่าสุดถูกประเมินว่ามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 355 ล้านเหรียญสหรัฐทีเดียว

Source : Facebook Beyoncé

คู่สามีภรรยาพันล้านดอลล์นี้ถูกจัดอันดับเข้าทำเนียบคู่รวยตั้งแต่ปี 2017 ท่ามกลางคนบันเทิงรายอื่นที่ถูกยกเป็นมหาเศรษฐีเช่นผู้สร้าง “Star Wars” อย่าง George Lucas, ผู้สร้างภาพยนตร์ดัง Steven Spielberg, Oprah Winfrey ที่สร้างแบรนด์ของตัวเองจนสำเร็จ และตำนานบาสเกตบอลอย่าง Michael Jordan

Jay-Z ลงทุนจนเงินหนา

Jay-Z เติบโตขึ้นในย่านที่ไม่ค่อยจะมีฐานะเท่าใดนักในเมือง Brooklyn ปี 1996 ชื่อ Jay-Z จึงแจ้งเกิดเมื่อเขาอายุเกิน 20 ปีพร้อมอัลบัมแรก “Reasonable Doubt” ในนามค่ายเพลงอินดี้ Roc-A-Fella Records ซึ่งเขาร่วมเปิดกับเพื่อน วันนี้ Jay-Z ในวัย 49 ปีกำลังง่วนอยู่ในห้องประชุมคณะกรรมการบริหารหลายบริษัท ผลจากการขยายพอร์ตโฟลิโอของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ด้วยการลงทุนสุดชาญฉลาดทั้งในและนอกวงการเพลง

ย้อนไปเมื่อปี 1999 หนุ่ม Jay-Z ก็เปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้า Rocawear ก่อนจะขายให้กับบริษัทแฟชั่น Iconix ด้วยมูลค่า 204 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2007 อีก 1 ปีต่อมา Jay-Z ก็เปิดตัวบริษัทด้านความบันเทิงชื่อ Roc Nation ซึ่งตอนนี้มีมูลค่าประมาณ 75 ล้านดอลลาร์ จนถึงปี 2015 ฮิปฮอปคนดังก็ยื่นประมูลเพื่อซื้อบริษัทแม่ของบริการสตรีมมิงสัญชาติสแกนดิเนเวียชื่อ Tidal ด้วยมูลค่าน้อยกว่า 60 ล้านเหรียญ

บริการสตรีมมิงที่เขา relaunch หรือเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งในปีนั้นเดียวกัน ถูกประเมินมูลค่าตลาดไว้ราว 100 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ Forbes

Source : Facebook JAY-Z

Jay-Z ยังลงทุนในงานด้านศิลปะด้วย ส่วนนี้มีการระบุรายละเอียดไว้ในเพลงภายในอัลบั้ม “4:44” ซึ่งเป็นอัลบั้มลำดับที่ 13 หนุ่ม Jay-Z แต่งเพลงโดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนซื้องานศิลปะเมื่อหลายปีก่อนด้วยราคา 1 ล้านดอลล์ ปัจจุบันคาดการณ์ว่างานสะสมศิลปะของ Jay-Z มีมูลค่าประมาณ 70 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกเหนือจากการลงทุนด้านศิลปะและดนตรี เจ้าพ่อฮิปฮอปยังขยายอาณาจักรของตัวเองเพื่อรวมทุนในบริษัทหลายรูปแบบ เช่น Uber, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสุรา จุดนี้ Forbes รายงานว่าสัดส่วนการถือหุ้นของ Jay-Z ใน Uber มีมูลค่าประมาณ 70 ล้านเหรียญ

ขณะที่การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของ Jay-Z มีมูลค่าประมาณ 50 ล้านเหรียญ และสินค้ากลุ่มเหล้าคอนยัค D’Ussé ของ Jay-Z มียอดขายได้เกือบ 200,000 เคสต่อปี คิดเป็นมูลค่าราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ

ยังมีการลงทุนของ Jay-Z ในบริษัทแชมเปญชื่อ Armand de Brignac ก็คาดว่ามีมูลค่าประมาณ 310 ล้านเหรียญสหรัฐ

Source : Facebook JAY-Z

ยกเป็นต้นแบบคนรุ่นใหม่

Warren Buffett ผู้ปรากฏตัวบนหน้าปกของ Forbes คู่กับ Jay-Z ในปี 2010 กล่าวยกย่องว่า Jay-Z ถือเป็นกรณีศึกษาให้คนกลุ่มใหญ่กว่าตัว Buffett เอง โดยอธิบายว่า Jay-Z สามารถเป็นแบบอย่างให้กับคนหนุ่มสาวที่กำลังก่อร่างสร้างตัว ซึ่ง Jay-Z เป็นคนที่ทุกคนจะเรียนรู้เพื่อนำบทเรียนไปปรับใช้กับชีวิตได้

Zack O’Malley Greenburg บรรณาธิการ Forbes ก็ยกย่อง Jay-Z ในทางเดียวกัน โดยบอกว่าการเดินทางของ Jay-Z ถือเป็น American dream ยุคใหม่ เรียกว่าเป็นศูนย์รวมของความฝันแบบอเมริกันในยุคปัจจุบันได้แบบไม่เก้อเขิน ส่งให้ Jay-Z เป็นพิมพ์เขียวและแรงบันดาลใจที่มีค่าต่อผู้ประกอบการรุ่นใหม่

สำหรับ Zack O’Malley Greenburg นั้นเป็นผู้แต่งหนังสือเรื่อง Empire State of Mind: How Jay-Z Went from Street Corner to Corner Office ตอกย้ำอีกครั้งว่า Jay-Z สามารถเติบโตจากชีวิตข้างถนนไปสู่สำนักงานหรูหราได้อย่างสง่างาม

Source