วีซ่า ประกาศความร่วมมือกับ เรเซอร์ เปลี่ยนโฉมวงการการชำระเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เรเซอร์ (Razer™) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสำหรับเกมเมอร์ร่วมกับ วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิตอลระดับโลก ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจอย่างเป็นทางการในการปฏิวัติอุตสาหกรรมเกมส์ให้ผู้ใช้งาน เรเซอร์ เพย์ (Razer Pay) สามารถเข้าถึงเครือข่ายของวีซ่าทั่วโลกได้อย่างเต็มที่

ความร่วมมือในครั้งนี้จะเปิดทางให้ เรเซอร์ ฟินเทค (Razer Fintech) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านเทคโนโลยีทางการเงินภายใต้การบริหารงานของเรเซอร์ เข้าร่วมโครงการ วีซ่า ฟินเทค ฟาสแทรค (Visa Fintech Fast-track) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้กลุ่มฟินเทคสามารถเข้าถึงเครือข่ายการชำระเงินทั่วโลก นอกจากนั้นความร่วมมือในครั้งนี้ยังได้ผนวกโซลูชันการเติมเงินจากวีซ่าและฝังเข้าไปใน เรเซอร์ เพย์ อี-วอลเลท (Razer Pay e-wallet) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานเรเซอร์ กว่า 60 ล้านราย สามารถใช้จ่ายบนเครือข่ายร้านค้าของวีซ่ากว่า 54 ล้าน ร้านค้าทั่วโลก

คริส คลาร์ก ประธานบริหารวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเรเซอร์ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินแบบดิจิตอลให้แก่ผู้บริโภค การประกาศความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำจุดยืนของวีซ่า ที่มุ่งมั่นในการช่วยเร่งศักยภาพการเติบโตด้านระบบดิจิตอลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ วีซ่า และ เรเซอร์ ฟินเทค ยังได้เพิ่มโอกาสด้านการใช้จ่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่สำหรับกลุ่มเกมเมอร์ แต่ยังครอบคลุมไปถึงกลุ่มคนที่อยู่นอกระบบธนาคารและผู้ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงระบบการชำระเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมากอีกด้วย”

มิน-เลียง ตัน ผู้ร่วมก่อตั้ง และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรเซอร์ กล่าวว่า “เรเซอร์ ฟินเทค ถือเป็นกลุ่มธุรกิจหลักของ เรเซอร์ ที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านการการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอลสำหรับตลาดที่เกิดใหม่ภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรารู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสเป็นตัวกลางในการสร้างนวัตกรรมด้านการชำระเงินที่เชื่อมโยงผู้ใช้งานนับล้านเข้ากับเครือข่ายร้านค้าทั่วโลกของวีซ่า ซึ่งการร่วมมือทางธุรกิจกับวีซ่าในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับให้ เรเซอร์ ฟินเทค กลายเป็นเครือข่ายการชำระเงินดิจิตอลที่เชื่อมต่อออฟไลน์มาออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคฯ อีกด้วย”

บูรณาการบริการแบบเติมเงินของวีซ่า สู่ เรเซอร์ เพย์

เรเซอร์ ฟินเทค และ วีซ่า ได้ร่วมบูรณาการโซลูชั่นบริการเติมเงินของวีซ่าภายใต้แบรนด์สุดเอ็กซ์คลูซีฟของ เรเซอร์ อย่าง เรเซอร์ เพย์ ที่ให้บริการผ่านมินิแอพพลิเคชั่น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ เรเซอร์ เพย์ สามารถก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอี-วอลเลตชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลกของวีซ่า ช่วยให้ผู้ใช้บริการ เรเซอร์ เพย์ สามารถชำระเงินได้ในทุกจุดรับชำระเงินของวีซ่า โดย เรเซอร์ เพย์ ไม่เพียงแต่เป็นโซลูชั่นบริการแบบเติมเงินเท่านั้น แต่ยังมอบบริการในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเติมเงินมือถือ บัตรเครดิตเสมือนจริง เลือกซื้อความบันเทิงผ่านเพลงและสตรีมมิ่ง เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังจะเพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์และรางวัลต่าง ๆ เมื่อใช้จ่ายบนโลกออนไลน์หรือในต่างประเทศผ่านบัตรเติมเงิน

โซลูชั่นบัตรเติมเงินแบบบูรณาการโดย เรเซอร์ เพย์ จะเพิ่มความสะดวกสบายต่อวิธีการเติมเงินและถอนเงินสด ซึ่งดำเนินการภายใต้ระบบรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอย่างรัดกุม ทั้งยังร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรเชิงนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมุ่งขยายสู่บริการต่าง ๆ อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น อาทิ บริการเพื่อใช้เรียกยานพาหนะ การจองบัตรชมภาพยนตร์ และ ชำระค่าสาธารณูปโภค

เพิ่มโอกาสด้านการใช้จ่ายให้ครอบคลุม สำหรับกลุ่มบุคคลนอกระบบธนาคาร

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีประชากรจำนวนมากที่ไม่มีบัญชีธนาคาร รวมถึงกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงการชำระเงินแบบดิจิตอลกว่า 438 ล้านคน ดังนั้นความร่วมมือระหว่าง เรเซอร์ ฟินเทค และ วีซ่า ในครั้งนี้ จะช่วยขยายการให้บริการทางการเงินไปยังกลุ่มคนดังกล่าวซึ่งรวมถึงกลุ่มเด็ก เยาวชน และมิลเลนเนียลกว่า 213 ล้านคนอีกด้วย

การร่วมมือระหว่าง เรเซอร์ ฟินเทค และวีซ่า มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการเงินในกลุ่มผู้ใช้งานในกลุ่มหัวก้าวหน้าที่ชอบทดลองนวัตกรรมใหม่ๆ (Early Adopters) ผ่านเกมการวางแผนทางการเงินที่เข้าใจง่าย และจะช่วยยกระดับความรับรู้ทางการเงินของประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เรเซอร์ ฟินเทค และวีซ่า ได้ช่วยตอบสนองความต้องการของตลาดใหม่ที่กำลังเติบโตนี้ ด้วยการมอบนวัตกรรมโซลูชันทางการเงินสำหรับเยาวชน และกลุ่มมิลเลนเนียล เพื่อให้สามารถเข้าสู่สังคมไร้เงินสดได้อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต

เรเซอร์ ฟินเทค และวีซ่า วางแผนเปิดใช้โซลูชั่นนี้อย่างต่อเนื่องในประเทศต่างๆ ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า และมีแผนขยายตัวเพื่อครอบคลุมอีกหลายประเทศทั่วโลกในลำดับต่อไป

เกี่ยวกับ RAZER

Razer™ เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำของนักเล่นเกมทั่วโลก ซึ่งสัญลักษณ์รูปงูสามหัวของ Razer นั้นถือเป็นหนึ่งในโลโก้ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในกลุ่มเกมเมอร์และกลุ่มอีสปอร์ตในระดับสากล ด้วยฐานแฟนของ Razer ที่ครอบคลุมในทุกทวีปทั่วโลก บริษัทฯจึงได้ออกแบบและสร้างระบบ ecosystem สำหรับฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์และบริการที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อให้เกมเมอร์ที่มีอยู่ทั่วโลกใช้งานได้สอดคล้องกันมากขึ้น

อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Razer นั้นได้รับการยอมรับและได้รับรางวัลมาอย่างมากมาย ทั้งอุปกรณ์ต่อพ่วงเกมที่มีประสิทธิภาพสูง, Blade แล็ปท็อปสำหรับการเล่นเกม และ Razer Phone ซึ่งก็ได้รับรางวัลมาเช่นกัน ปัจจุบันแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของ Razer มีผู้ใช้งานแล้วมากกว่า 60 ล้านคนทั่วโลก รวมถึง Razer Synapse (Platform Internet of Things), Razer Chroma (ระบบเทคโนโลยี RGB ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Razer และ Razer Cortex) เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพเกมและโปรแกรมเข้าเกม) ตลอดจนบริการของ Razer Gold) ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยเงินสำหรับการเกมที่ครอบคลุมที่สุดในโลก รวมไปถึง Razer Pay กระเป๋าเงินอิเลคทรอนิส์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับคนรุ่นใหม่

Razer ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 และมีสำนักงานใหญ่สองแห่ง ทั้งในซานฟรานซิสโกและสิงคโปร์ โดย Razer มีสำนักงานอีก 18 แห่งทั่วโลก และได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำสำหรับนักเล่นเกม ทั้งในสหรัฐอเมริกา, ยุโรปและจีน Razer เป็น บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Stock Code: 1337)

เกี่ยวกับวีซ่า

Visa Inc. (NYSE:V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยมากที่สุด ช่วยให้ผู้บริโภค ธุรกิจต่าง ๆ และเศรษฐกิจสามารถเจริญเติบโตได้ VisaNet (วีซ่าเน็ต) ซึ่งเป็นเครือข่ายประมวลผลระดับโลกที่ทันสมัยของเราให้บริการชำระเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ทั่วโลก และมีความสามารถในการจัดการธุรกรรมมากกว่า 65,000รายการต่อวินาที บริษัทมีความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการสร้างนวัตกรรมเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วของการค้าที่เชื่อมโยงโดยอุปกรณ์ใด ๆ ก็ได้  และเป็นแรงผลักดันความฝันในการสร้างสังคมไร้เงินสดในอนาคตสำหรับทุกคนและทุกสถานที่ ในขณะที่โลกเปลี่ยนจากอนาล็อกเป็นดิจิทัล วีซ่าจะใช้แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ พนักงาน เครือข่ายและขอบเขตธุรกิจของเรา ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพาณิชย์ในอนาคต ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาได้จาก About Visa และ visacorporate.tumblr.com และ @VisaNews