ยุคนี้ใครๆ ก็หันมาช้อป ออนไลน์แล้วทั้งนั้น ไม่เว้นกระทั่งสินค้าราคาแพงหลัก “ล้านบาท” อย่างคอนโดมิเนียมก็ต้องเปิดหน้าร้านออนไลน์ เกาะเทรนด์ “อีคอมเมิร์ซ”ขาขึ้นด้วยเช่นกัน
ปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์โครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแสนสิริ ได้เริ่มใช้ Property Technology ในการทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2552 หรือ 10 ปีก่อน ด้วยการทำ Digital Sale Kit ดูรายละเอียดโครงการผ่านหน้าจอ “มัลติ สกรีน” จากนั้นช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้เริ่มเปิดจองที่อยู่อาศัยผ่าน Online Booking ซึ่งถูกจองเต็มโควตาทุกโครงการ
ปัจจุบันประชากรไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแล้วกว่า 82% มีพฤติกรรมซื้อสินค้าทุกอย่างบนออนไลน์ รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ High Involvement ราคาแพง เช่น รถยนต์ มองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะอายุ 25-35 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มหลักนักช้อป ออนไลน์ ต้องการความสะดวกในการจองที่อยู่อาศัยผ่านออนไลน์ด้วยเช่นกัน
“เราพบว่า Customer Journey ของคนที่ซื้อที่อยู่อาศัย จะเสิร์ชหาข้อมูลออนไลน์ ดูเว็บไซต์โครงการ อ่านรีวิว ก่อนตัดสินใจซื้อ 70% เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ควรมีช่องทางให้ลูกค้าสามารถจองซื้อผ่านออนไลน์ได้ตลอดเวลาไว้บริการด้วยเช่นกัน”
เปิดหน้าร้านออนไลน์ Lazada
ที่ผ่านมาแสนสิริ ยังไม่มีดิจิทัล แพลตฟอร์มให้ลูกค้าเข้ามาจองซื้อที่อยู่อาศัย ยกเว้นช่วงที่ทำ พรีเซล โครงการใหม่ที่จะเปิด Online Booking เท่านั้น แต่เชื่อว่าพฤติกรรมลูกค้าปัจจุบันสนใจจองออนไลน์ ในทำเลที่ศึกษาข้อมูลมาอย่างดีแล้ว
ดังนั้นจึงร่วมมือเป็นพันธมิตรกับอีคอมเมิร์ซ Lazada เปิด Official Store บน LazMall เพื่อเข้าถึงกลุ่มนักช้อปบนลาซาด้าที่มีฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านคน มองว่าสัดส่วนเพียง 1% ของลูกค้าลาซาด้า ที่สนใจเข้ามาที่หน้าร้านแสนสิริ ก็ถือว่าเป็นจำนวนมหาศาลในการเข้าถึงฐานลูกค้าอีคอมเมิร์ซกลุ่มใหม่ๆ
“การเปิดหน้าร้านออนไลนบนลาซาด้า เป็นอีกสเต็ปของการต่อยอด พร็อพเทค ที่แสนสิริ เริ่มต้นเมื่อ 10 ปีก่อน การเข้าสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เปิด Official Store ครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการนำคู่แข่งไปอีกก้าว”
สิ่งที่ต้องการได้จากความร่วมมือกับลาซาด้า คือ ฐานข้อมูลและพฤติกรรมลูกค้า กลุ่มที่ตัดสินใจซื้อบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อต่อยอดเครื่องมือการตลาดใหม่ๆ ตอบโจทย์ความสนใจลูกค้าออนไลน์ได้ดีขึ้น
การเปิดออฟฟิเชียล สโตร์ บน LazMall เบื้องต้นได้นำคอนโดมิเนียมจำนวน 45 ยูนิต จาก 9 โครงการ พร้อมอยู่และที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปีนี้มาเปิดให้จอง ราคาอยู่ที่ 2-6 ล้านบาทต่อยูนิต เปิดให้จองเริ่มต้น 10,000 บาท หรือลดราคาจองจากปกติ 60-80% เชื่อว่าความร่วมมือกับลาซาด้า จะช่วยสร้างยอดขายคอนโดมิเนียมปีนี้มียอดขายตามเป้าหมาย 21,600 ล้านบาท
Lazada ขยายสินค้าที่อยู่อาศัย
ธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่าที่ผ่านมา LazMall ซึ่งเป็น ออฟฟิเชียล สโตร์ ของแบรนด์สินค้าต่างๆ กว่า 800 ร้านค้า มีสินค้าจำหน่ายกว่า 400 ล้านเอสเคยู สำหรับสินค้า High Involvement ราคาแพง มีเปิดช้อปจำหน่ายเช่นกัน แต่เป็น นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์ดัง ราคาหลักแสนบาท
การเปิด ออฟฟิเชียล สโตร์ ของ แสนสิริ ถือเป็นธุรกิจที่อยู่อาศัยแบรนด์แรก และเป็นการขยายเซ็กเมนต์ใหม่ของลาซาด้า ที่เปิดให้จองคอนโดมิเนียมราคาหลักล้านบาท โดยความร่วมมือนี้ ลาซาด้า จะได้ค่าคอมมิชชั่นจากราคาจอง
หลังจากแสนสิริเปิดหน้าร้านออนไลน์ได้ราว 2 สัปดาห์ พบว่ามีคนเยี่ยมชมกว่า 4,500 คน และมีผู้ติดตามแล้วกว่า 500 คน ทั้งแสนสิริและลาซาด้าจะนำข้อมูลที่ได้จากการเยี่ยมชมสโตร์ออนไลน์ มาวิเคราะห์ เพื่อออกแบบกลยุทธ์การสื่อสารและแคมเปญการตลาดที่ตรงกับความสนใจของลูกค้า ผ่านเครื่องมือต่างๆ ของลาซาด้า ที่จะเข้าถึงลูกค้าแบบเรียลไทม์
มาร์เก็ตเพลสในจีน มีหน้าร้านออนไลน์ธุรกิจที่อยู่อาศัยเช่นกัน รวมทั้งมีการซื้อขายที่ดิน ซึ่งถือเป็นกลุ่มสินค้าราคาสูง สำหรับในไทยถือเป็นครั้งแรกของ ลาซาด้า ในการเปิด ออฟฟิเชียล สโตร์ ธุรกิจที่อยู่อาศัย
“ความร่วมมือกับแสนสิริครั้งนี้ ถือเป็น Online Booking Collaboration ในตลาดอีคอมเมิร์ซกับอสังหาฯ ครั้งแรกของลาซาด้า ในอนาคตจะมีความร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ในทุกกลุ่มธุรกิจให้เห็นอย่างต่อเนื่อง”