บัซซี่บีส์ ร่วมเป็น Development พาร์ทเนอร์กับ LINE ประเทศไทย เดินหน้าต่อยอดพัฒนาออกแบบระบบ CRM และ Marketing Activation Platform บน LINE Official Account พร้อมชูกลยุทธ์ฟีเจอร์ใหม่ๆ โดยมีสัดส่วนองค์กรที่ใช้แพลตฟอร์มบนไลน์ถึง 25% พร้อมแชร์แนวคิด โอกาสทางธุรกิจของแบรนด์ และ Success Story บนแพลตฟอร์ม LINE รวมถึงกลยุทธ์ในการทำ CRM และ Marketing Activation Platform ซึ่งเป็นเทรนด์ด้านการตลาดที่มาแรงในยุคดิจิทัล ในงาน LINE Food Tech 2019 โดยมีผู้ร่วมสนใจเข้าร่วมงานกว่า 200 ราย ณ Gaysorn Urban Resort อาคารเกษรทาวเวอร์
ปัจจุบันการทำการตลาด CRM ในประเทศไทยเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จากการสำรวจของ Gartner พบว่าตลาด Customer Relationship Management (CRM) ทั่วโลกในปี 2015 ที่ผ่านมา เติบโตขึ้นถึง 12.3% จากปี 2014 จนมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 26,300 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 920,500 ล้านบาท ทั้งนี้ Asia Pacific ถือเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในธุรกิจ CRM โดยเติบโตจากปี 2014 ขึ้นมาถึง 21.9% ซึ่งประเทศไทยก็ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด CRM ด้วยการตลาดที่มีการแข่งขันสูงเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ประเทศจีนเติบโตรวดเร็วเป็นอันดับถัดมาที่ 18.4% ส่วนทางตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ มีการเติบโตที่ 10.7% และ 10.2% ตามลำดับ
ในฐานะที่ Buzzebees เป็นผู้นำในการออกแบบพัฒนาแพลตฟอร์ม CRM Privilege แบบ One Stop Solution กว่า 7 ปี และมีสัดส่วนครองตลาดไทยกว่า 90% นางสาวณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า “สำหรับประเทศไทย เริ่มเห็นได้ชัดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แบรนด์ใหญ่ๆ ในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มต้องการมีระบบ CRM เป็นของตนเองเพื่อเน้นสร้างความผูกพันกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพราะคุ้มค่ากว่า เกิดความผูกพันต่อแบรนด์มากกว่า และเห็นผลลัพธ์จาก ROI หรืออัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้หลายแบรนด์มักจะเน้นทำแคมเปญการตลาดแรงๆ หรือไม่ก็ต้องเป็นไอเดียสดใหม่ แต่ก็ต้องยอมแลกกับเม็ดเงินมหาศาลในการทุ่มทำโฆษณาการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ ทั้งในรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ ก็ยิ่งทำให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสารมากเกินไป โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่เข้ามาใน News Feed และช่องทางอื่นๆ ในแต่ละวันมีจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องยากที่แบรนด์จะสร้างความแตกต่างและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เกิดการรับรู้และจดจำแคมเปญการตลาดหรือโปรโมชั่นของตนเองได้”
นางสาวณัฐธิดา สงวนสิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบัน บัซซี่บีส์ ได้ร่วมพาร์ทเนอร์กับ LINE เพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจของแบรนด์ต่างๆ ที่ต้องการมีระบบ CRM เป็นของตนเอง โดยผ่านแพลตฟอร์ม LINE Official Account ซึ่งข้อโดดเด่นของ LINE คือมีฐานผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านรายทั่วประเทศ และยังเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับแบรนด์องค์กรหลายประการ อาทิ สามารถออกแบบและพัฒนาระบบได้อย่างรวดเร็ว สร้างฐานผู้บริโภคได้มากในระยะเวลาไม่นาน สามารถออกแบบลูกเล่นได้หลากหลายฟีเจอร์เพื่อช่วยดึงดูดใจผู้บริโภค ที่สำคัญยังสามารถทราบถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในเชิงลึกผ่านระบบ Eco-system และข้อมูล Big Data ของบัซซี่บีส์โดยมีฐานลูกค้ามากกว่า 50 ล้านรายในปัจจุบัน โดยระบบจะเก็บข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ทุกๆ พฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้สามารถออกแบบพัฒนาแคมเปญได้ตรงใจมากขึ้น รวมถึงยังนำเสนอแคมเปญเฉพาะกลุ่ม (Personalized Campaign) ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเทรนด์การทำตลาดในปัจจุบันและในอนาคตอีกด้วย”
โดยแบรนด์ต่างๆ สามารถเริ่มต้นได้จากการมี LINE Official Account จากนั้น Buzzebees สามารถทำงานร่วมกับแบรนด์ได้ตั้งแต่การนำเสนอกลยุทธ์ การออกแบบ Campaign Mechanic ได้ทั้งด้านของผู้บริโภค อาทิ การสร้างฐานลูกค้า การแจกสินค้าตัวอย่าง ให้ทดลองผ่านเครือข่ายพาร์ทเนอร์ของบัซซี่บีส์ การสะสมคะแนน การรับสิทธิพิเศษและของรางวัล การลุ้นรับรางวัล การซื้อของผ่านระบบ E-commerce การสำรวจความคิดเห็น การ drive คนจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ หรือการ drive คนจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ รวมถึงมีการทำการตลาดกับทางดีลเลอร์รายเล็กรายใหญ่ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงการวัดผลเพื่อให้ถึงตรงตามเป้าหมายที่กำหนด
นางสาวณัฐนันท์ ฉันทปริยวาท ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวเสริมว่า “บัซซี่บีส์มุ่งเน้นจะสร้างระบบ Eco-System ให้กับแบรนด์โดยการเชื่อมผู้บริโภคเข้ากับดีลเลอร์ของแบรนด์ บนแพลตฟอร์มดิจิทัลได้ทุกช่องทางทั้งบนเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น หรือบนช่องทาง LINE โดยสามารถกำหนดเงื่อนไขของแต่ละแคมเปญให้มีความน่าดึงดูดและตรงกับเป้าหมายทางธุรกิจของแต่ละแบรนด์ เช่น การให้สิทธิ์รับสินค้าตัวอย่างฟรี หรือแจกคูปองส่วนลด โดยให้ผู้บริโภคสามารถนำมารับสิทธิ์ที่เครือข่ายดีลเลอร์ของแบรนด์ได้ รวมถึงการขยายการทำ Loyalty Platform มายังส่วนดีลเลอร์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจให้มากขึ้นด้วย”
ปัจจุบัน Buzzebees ได้มีการพัฒนา Loyalty Platform จาก LINE Official Account ให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ มากกว่า 10 แบรนด์ในหลากหลายสาขาธุรกิจ อาทิ น้ำดื่มสิงห์ โคคา–โคล่า เนสกาแฟ เนสท์เล่เพียวไลฟ์ แดรี่ควีน คอนแทคเลนส์แอคคิววิว หลอดไฟฟิลิปส์ ธนชาต ซิตี้แบงก์ เดอะพิซซ่าคอมปะนี และเอ็ม150 เป็นต้น และยังมีแผนพัฒนากลยุทธ์และฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2562 จะมีแบรนด์บนแพลตฟอร์ม LINE มากกว่า 20 แบรนด์ และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ