นับเป็นข่าวที่ทำให้พนักงาน Uber หายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อ Uber ได้ตัดสินใจเลิกจ้างพนักงาน 1 ใน 3 ของทีมการตลาดทั่วโลกหลังเผชิญความกดดันทางด้านรายได้ที่แม้จะเติบโตเร็วแต่ก็รู้สึกว่าชะลอตัวลงเช่นกัน
ข่าวใหญ่นี้เพิ่งถูกยืนยันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า พนักงงาน 400 คนจาก 1,200 คนทั่วโลกของทีมการตลาดจะถูกปลอดออกอันเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างแผนก
Uber สูญเสียรายได้ 1.01 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ ตามรายงานผลประกอบการครั้งแรกของบริษัทในฐานะ “บริษัท มหาชน” รายได้จากธุรกิจหลักเติบโตเพียง 9% จากปีก่อน ขณะที่ไตรมาสสองมีกำหนดแถลงในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า “แม้บริษัทจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าชะลอตัวลงเช่นกัน”
การปลดพนักงานเป็นเพียงความวุ่นวายล่าสุดใน Uber ภายในเวลาไม่ถึงสามเดือนนับตั้งแต่ที่เดินหน้าติดนามสกุลมหาชน
ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนแม่ทัพใหญ่ของ Uber ออกมาประกาศว่าผู้บริหารระดับสูงสองคนกำลังจะลาออกจากบริษัท รวมถึงหัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาด Rebecca Messina ซึ่งทำงานได้เพียงเก้าเดือน แต่ Khosrowshahi กล่าวว่าการจากไปของเธอเป็นการตอบสนองต่อการตัดสินใจที่จะรวมทีมการตลาด การสื่อสารและนโยบายเข้าด้วยกัน โดย Jill Hazelbaker ซึ่งเคยทำงานกับ บริษัทมาตั้งแต่ปี 2015 จะเป็นผู้นำทีม
โฆษกของ Uber กล่าวว่า Hazelbaker และ Khosrowshahi ได้ประกาศโครงสร้างทีมการตลาดใหม่สำหรับพนักงานในวันจันทร์ การเปลี่ยนแปลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงแบรนด์ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์และภูมิภาคต่างๆ
เนื่องจากทีมงานมีขนาดใหญ่เกินไปซึ่งสร้างผลงานทับซ้อนกัน ทำให้การตัดสินใจไม่ชัดเจนและอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ระดับปานกลาง ทั้งที่ความเป็นจริงสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น
“พูดง่ายๆ Uber ต้องเอาความได้เปรียบกลับมา” CEO ของ Uber กล่าวทิ้งท้ายใน E-Mail