แม้จะถูกข่าวสกัดดาวรุ่งไปเมื่อ 2 เดือนก่อน แต่ที่สุดแล้ว Huawei ยังคงผงาดไม่เกรงใจใคร ครึ่งปีแรก 2019 ยอดขายทั่วโลกพุ่งขึ้นเป็นตัวเลขกว่า 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.8 ล้านล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของธุรกิจสมาร์ทโฟนและการเติบโตของสัญญาเครือข่าย 5G
ข้อมูลนี้ชี้ชัดว่า ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมของแดนมังกร ขายอุปกรณ์โทรคมนาคมมากกว่าบริษัทอื่นๆ ในโลก และเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เข้ามาเบียดตำแหน่งของยักษ์ตัวอื่นๆ ทั้ง Samsung และ Apple
Liang Hua ประธานของ Huawei กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ผลการดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นแม้จะมีข้อจำกัดของสหรัฐฯ แต่ “ผลิตภัณฑ์หลักของพวกเขาไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ” และแม้จะถูกขึ้นบัญชีดำเรื่องการค้า “ซึ่งมีผลกระทบต่อการพัฒนาของ Huawei แต่ขอบเขตของผลกระทบนั้นสามารถควบคุมได้”
แม่ทัพใหญ่ Huawei ยังเสริมอีกว่า กระแสเงินสดเป็นบวกตลอดหกเดือนแรกของปี ซึ่งทำให้ Huawei สามารถใช้เงินสดเพื่อรักษา “การพัฒนาระยะยาว” แต่ก็ยอมรับว่ามีความท้าทายเช่นกัน
“เป้าหมายของ Huawei ยังคงเผชิญกับความยากลำบากอยู่ข้างหน้า” ประธานของ Huawei กล่าว “ในช่วงครึ่งหลัง (ของปีนี้) และปีหน้า Huawei จะยังคงเผชิญกับปัญหาเหล่านี้”
และในขณะที่ยอดขายสมาร์ทโฟนของ Huawei เพิ่มขึ้น 24% เป็น 220.8 พันล้านหยวน (32 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 ประธานของ Huawei ได้ยอมรับว่า “Huawei ได้สูญเสียตลาดนอกประเทศจีน”
ข้อจำกัดของสหรัฐอเมริกาได้สร้างความไม่แน่นอนสำหรับความสัมพันธ์ของ Huawei กับพันธมิตรหลักรวมถึง Google และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ขายสมาร์ทโฟน
ด้วยสมาร์ทโฟน Huawei ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android ของ Google และมาพร้อมกับแอปยอดนิยม เช่น Google Maps และ Gmail หากไม่สามารถเข้าถึงบริการของ Google อุปกรณ์ของ Huawei จะดึงดูดผู้ใช้นอกประเทศจีนได้น้อยลง
แม้รุ่นเรือธงในวันนี้อย่าง Mate 20 X จะได้รับการอนุมัติให้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และบริการของ Google แต่แม่ทัพใหญ่ Huawei กล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับสหรัฐอเมริกา” จะตัดสินใจให้ Huawei สามารถใช้ซอฟต์แวร์ Google บนโทรศัพท์ที่กำลังจะมาถึงได้หรือไม่
และถึงวันนี้ Huawei จะสามารถพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองได้แล้ว แต่ยักษ์ใหญ่แดนมังกร ยืนยันว่าจะใช้บริการซอฟต์แวร์ของ Google แทนหากเป็นไปได้
