จากการวิเคราะห์โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center (SCB EIC) จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่านักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเที่ยวนอกประเทศขยายตัวเฉลี่ย 12% ในช่วง 5 ปีหลัง อยู่ที่ 10 ล้านคนในปี 2561 โดยการใช้จ่ายในต่างประเทศมีมูลค่ารวมสูงถึง 3.2 แสนล้านบาท
ขณะเดียวกันข้อมูลจาก Euro Money ยังชี้ให้เห็นว่ามูลค่าการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากต่างประเทศผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตของผู้ที่อยู่ในประเทศไทยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 19% ทำให้มีมูลค่าสูงถึง 28,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลกของวีซ่า (Visa Global Travel Intentions Study) แสดงให้เห็นว่า ในปี 2562 นี้ คนไทยวางแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 3.9 ครั้งต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ 2.8 ครั้งต่อปี และเฉลี่ยทั่วโลกที่ 2.7 ครั้งต่อปี
สำหรับจุดหมายปลายทางยอดฮิตที่คนไทยนิยมไปเที่ยวคือ ประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าสองในสามของนักท่องเที่ยวชาวไทย หรือประมาณ 69% ยังคงนิยมแลกเงินสดจากร้านแลกเงินก่อนการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ถึงแม้คนไทยจะคุ้นเคยกับการชำระเงินแบบดิจิทัลก็ตาม
ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ “ธนาคารไทยพาณิชย์” (SCB) ตัดสินใจขับเคลื่อนกลยุทธ์ SCB Global Payment ประเดิมซีรีส์แรกโดยการเจาะกลุ่มผู้ใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยการผนึกกำลังพันธมิตรกับ วีซ่า ผู้ให้บริการด้านระบบชำระเงินเปิดตัวบัตร “PLANET SCB” (พลาเน็ต เอสซีบี) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “โลกเสรีแห่งการแลกเงิน”
เจาะกลุ่ม 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มที่ชื่นชอบการเดินทางต่างประเทศ กลุ่มช้อปปิ้งออนไลน์ และกลุ่มศึกษาในต่างประเทศ ชูไฮไลท์ แลกเงินเรทดีเท่าร้านแลกเงินชั้นนำ แลกได้มากถึง 13 สกุลเงินยอดนิยมในบัตรเดียว รองรับสกุลเงินบาท ใช้จ่ายได้ทุกสกุลเงินทั่วโลกไม่ชาร์จค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน 2.5% แลกเงินง่ายทุกที่ 24 ชั่วโมง สะดวก รวดเร็ว ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY
ตัวบัตรมีอายุการใช้งาน 3 ปี ยอดเงินคงเหลือในบัตรไม่มีวันหมดอายุ ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ และสามารถกดเงิน รูดใช้จ่าย ช้อปออนไลน์ ยอดเงินสูงสุดในบัตร 500,000 บาท/วัน
อรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า
“ตั้งเป้าภายในปีแรกจะมียอดสมัครบัตร PLANET SCB กว่า 200,000 ใบ และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรกว่า 5,000 ล้านบาท”
ความร่วมมือในครั้งนี้ SCB เชื่อว่า จะเป็นการเพิ่มศักยภาพและขยายขอบเขตการให้บริการ รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินแบบไร้รอยต่อ (Seamless Global Payment Experience) ให้กับลูกค้าบุคคลในทุกกลุ่มความต้องการ โดยนับจากนี้จะทยอยนำเสนอบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้าออกมาอีกต่อเนื่อง.