นับเป็นข่าวน่ายินดีสำหรับประเทศไทย เมื่อผลสำรวจของ “มาสเตอร์การ์ด อิงค์” ประกาศว่า “กรุงเทพฯ” ยังสามารถเบียดเมืองท่องเที่ยวระดับโลก “ปารีสและลอนดอน” นั่งแท่นเมืองยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกสมัย หลังจากก่อนหน้านี้เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับยอดชาวต่างชาติขาเข้าที่ลดลง
ในการจัดอันดับประจำปีโดยมาสเตอร์การ์ด อิงค์ พบว่ากรุงเทพฯ ครองแชมป์เมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยปีที่ผ่านมา กรุงเทพฯ ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยว 22.78 ล้านคน และคาดว่าในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นอีก 3.3% ขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้นมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอังกฤษ
ปารีสและลอนดอน รั้งอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ โดยมีนักท่องเที่ยวขาเข้าเมืองละราวๆ 19.1 ล้านคน ตามมาด้วยดูไบ ซึ่งต้อนรับนักท่องเที่ยวประมาณ 15.9 ล้านคน
ส่วนเมืองอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเช่น สิงคโปร์และกัวลาลัมเปอร์ รั้งอันดับ 5 และ 6 ตามลำดับ ขณะที่นิวยอร์ก อิสตันบูล โตเกียวและเมืองอัลตัลยาของตุรกี ก็ต่างติดเข้ามาในท็อปเท็นของโลกเช่นกัน ในการจัดอันดับ 200 เมืองน่าเที่ยวของโลกวัดตามจำนวนนักท่องเที่ยวและข้อมูลการใช้จ่ายเงิน
ในผลสำรวจยังพบด้วยว่านักท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั่วทั้ง 200 เมืองนั้นเพิ่มขึ้นถึง 76% ในช่วง 10 ปีหลังสุด
แม้ กรุงเทพฯ ยังคงครองบัลลังก์แชมป์เอาไว้ได้อีกสมัย แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยกำลังเผชิญกับสภาวการณ์ที่สวนทางกัน ด้วยนักเดินทางขาเข้าในเดือนพฤษภาคม ลดลง 1.03% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ก่อนที่ในเดือนมิถุนายน จะฟื้นคืนสู่การเติบโต 0.89% เมื่อเทียบกับหนึ่งปีก่อนหน้านี้ ในขณะที่การท่องเที่ยวคิดเป็น 12% ของเศรษฐกิจไทย
ด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนค่อนข้างอ่อนแอและอุบัติเหตุเรือล่มเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังประเทศไทยลดลงพอสมควรในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตามตัวเลขที่ลดลงของนักท่องเที่ยวจีน ถูกชดเชยบางส่วนจากการเดินทางเข้าไทยมากขึ้นของนักท่องเที่ยวอินเดีย
ไทยคาดหมายว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากอินเดียมาเยือนในปี 2019 ราวๆ 2 ล้านคน มากกว่าที่วางเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้ ในขณะที่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลขยายเวลามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอตรวจลงตราเพื่อเข้าประเทศละ 2,000 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวขาเข้าจาก 18 ประเทศ ในนั้นรวมถึงจีนและอินเดีย.