Visa และ Mastercard ยื่นข้อเสนอ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ยุติคดีผูกขาด แต่ผู้พิพากษาสหรัฐฯ เตรียมปัดตกดีลดังกล่าว

ภาพจาก Shutterstock
วีซ่า (Visa) และ มาสเตอร์การ์ด (Mastercard) ได้ยื่นข้อเสนอที่จะยอมความในคดีผูกาขาด ซึ่งมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรที่เหล่าภาคธุรกิจในสหรัฐฯ มองว่าแพงมากเกินไป อย่างไรก็ดีในคดีความดังกล่าวผู้พิพากษาในคดีความนี้เตรียมที่จะปัดตกในข้อตกลงยอมความ

Visa และ Mastercard ได้ยื่นข้อเสนอมากถึง 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1.1 ล้านล้านบาท ในการยุติคดีผูกขาดซึ่งกินระยะเวลาเกือบ 20 ปี หลังจากที่ผู้ประกอบการรายย่อยในสหรัฐอเมริกาได้ฟ้องร้องว่าทั้ง 2 นั้นผูกขาดในธุรกิจ ทำให้เกิดต้นทุนในการจ่ายค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตและบัตรเดบิตสูงเกินไป

ตามบันทึกของศาลในสหรัฐอเมริกา Margo Brodie ผู้พิพากษาในเขตบรูคลิน ได้กล่าวกับทนายความของฝั่ง Visa และ Mastercard ในการพิจารณาคดีว่าเธอ “มีแนวโน้มจะไม่อนุมัติข้อตกลงในข้อเสนอดังกล่าว”

ผู้พิพากษาในเขตบรูคลินรายนี้ยังกล่าวว่า “ฉันไม่รู้ว่าข้อตกลงที่เหมาะสมจะเป็นอย่างไร แต่ฉันรู้ว่าฉันรู้สึกหนักใจกับข้อตกลงนี้ และไม่มีข้อตกลงใดๆ ที่ฉันได้ยินในวันนี้แล้วสามารถเปลี่ยนใจได้ว่า ข้อตกลงนี้ควรจะได้รับการอนุมัติ”

สำหรับคดีความดังกล่าวผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในสหรัฐอเมริกาได้ฟ้องร้อง Visa และ Mastercard ในปี 2005 ว่าทั้ง 2 นั้นมีการผูกขาดตลาด ส่งผลทำให้ต้นทุนในการจ่ายค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตและบัตรเดบิตสูงเกินไป และยังมีการขัดขวางไม่ให้ธุรกิจต่างๆ ในการหาวิธีที่ทำให้มีการจ่ายเงินได้ถูกลง

คดีความดังกล่าวนี้ได้มีการยอมความเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา โดย Visa และ Mastercard จะลดค่าธรรมเนียมลงอย่างน้อยปีละ 0.04% เป็นเวลา 3 ปี และสามารถขยายได้ถึง 5 ปี รวมถึงสามารถให้ลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กสามารถให้ทางเลือกในการจ่ายเงินรูปแบบอื่นแก่ลูกค้าได้

ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกามากกว่า 90% ของผู้ค้าที่ตกลงที่จะยุติคดีความดังกล่าวกับ Visa และ Mastercard

สมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐ (NRF) มองว่าการยุติคดีดังกล่าวนั้นไม่ได้มอบผลประโยชน์ให้เหล่าธุรกิจมากพอ รวมถึงข้อเสนอจาก Visa และ Mastercard ถือว่ามีระยะเวลาสั้นไป รวมถึงการลดค่าธรรมเนียมลงนั้นถือว่าน้อยมาก และข้อตกลงดังกล่าวยังทำให้ 2 บริษัทควบคุมค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรต่อไปได้

ปัจจุบันค่าธรรมเนียมรูดบัตรของ Visa และ Mastercard อยู่ในช่วง 1.5% ถึง 3.5%

ภาคธุรกิจในสหรัฐอเมริกาได้มีความพยายามอย่างหนักในการที่จะลดค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรลงมา อย่างไรก็ดีนอกจาก Visa และ Mastercard ที่ได้รับค่าธรรมเนียมแล้ว ทางธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น JPMorgan Chase Bank of America และ Citibank รวมถึงธนาคารรายอื่นก็ได้รับค่าธรรมเนียมดังกล่าวด้วย

ในกรณีการยอมความดังกล่าวผู้พิพากษา Margo ยังเตรียมวางแผนที่จะเขียนความคิดเห็นเพื่ออธิบายการตัดสินใจพร้อมทั้งยกเหตุผลว่าทำไมเธอถึงปัดตกในเรื่องการยุติคดี

ที่มา – Reuters, Bloomberg