ปัจจุบันคนไทยมีไลฟ์สไตล์เดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนมากขึ้น จึงต้องการความสะดวกสบายและใช้บริการจาก “จุดแวะพัก” หรือ Rest Area บนเส้นทางถนนสายหลัก จะเห็นได้ว่าสถานีบริการน้ำมันที่เป็นจุดแวะพักของนักเดินทางปัจจุบัน ต่างปรับตัวเสริมร้านค้าใหม่ๆ เข้ามาให้บริการลูกค้าเช่นกัน
สุเทพ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ในต่างประเทศเมืองท่องเที่ยวหลักๆ มีธุรกิจ “จุดแวะพัก” หรือ Rest Area เปิดให้บริการจำนวนมาก และเป็นที่นิยมของนักเดินทางแวะใช้บริการ ในประเทศไทยมองว่าธุรกิจนี้ยังเป็นตลาด “บลูโอเชี่ยน” เพราะจำนวนรถยนต์และนักเดินทางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่ยังไม่มีผู้ประกอบการเข้ามาทำธุรกิจนี้อย่างจริงจัง
รูปแบบใกล้เคียงจุดแวะพัก คือ สถานีบริการน้ำมัน ที่ปัจจุบันมีการเพิ่มบริการร้านค้าต่างๆ เข้ามาในพื้นที่มากขึ้น แต่ธุรกิจหลักยังคงเป็นปั๊มน้ำมันอยู่ดี การใช้บริการร้านค้าจึงมีไม่มาก และยังไม่สะดวกมากนักในการเป็นจุดแวะพัก ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือห้องน้ำ
เปิดสาขา 2 “พอร์โต้ โก” ท่าจีน
หลังจากดี-แลนด์ ซึ่งอยู่ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มา 17 ปี ได้เปิดตัว “พอร์โต้ ชิโน่” ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งแรกในจังหวัดสมุทรสาครเมื่อ 7 ปีก่อน จากนั้นได้ต่อยอดและขยายธุรกิจ “จุดแวะพัก” โครงการแรกในปี 2560 ชื่อ “พอร์โต้ โก บางปะอิน” ตั้งอยู่บนถนนสายเอเชีย กิโลเมตรที่ 4 ฝั่งขาออกจากกรุงเทพฯ ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยเห็นโอกาสทางธุรกิจ จากการศึกษาข้อมูลพฤติกรรมของนักเดินทางที่ใช้ถนนสายหลัก พบว่ามีรถยนต์วิ่งเฉลี่ย 14.8 ล้านคันต่อปี หรือ 40,000 คันต่อวัน และเกือบทั้งหมดจอดแวะจุดพักรถ เพื่อเข้าห้องน้ำและทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น แวะพักผ่อน รับประทานอาหาร ซื้อกาแฟ พบว่าแต่มีเพียง 30% เท่านั้นที่แวะเติมน้ำมัน
โครงการ “พอร์โต้ โก” จึงให้บริการทั้งสถานีบริการน้ำมัน ห้องน้ำสะอาด และบริการร้านค้าต่างๆ เช่น 7-eleven, Café Amazon, Starbucks, KFC, McDonald’s และ Dunkin ถือเป็นจุดพักรถ 24 ชั่วโมง ที่เข้ามาเป็น “ตัวเลือก” ใช้บริการจุดแวะพักแทนปั๊มน้ำมันทั่วไปในปัจจุบัน
ปีนี้ได้ขยายธุรกิจจุดแวะพักโครงการที่ 2 ด้วยงบลงทุน 400 ล้านบาท ใช้ชื่อ “พอร์โต้ โก ท่าจีน” อยู่บนพื้นที่ 23 ไร่ ตำบลบางโทรัด อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เจาะกลุ่มนักเดินทางที่ขับรถลงภาคใต้บนถนนพระราม 2 ซึ่งมีปริมาณการจราจรเฉลี่ยถึงวันละ 1.2 แสนคัน
จุดที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์โครงการนี้ จะมีทั้ง ห้องน้ำติดแอร์พร้อมระบบสุขภัณฑ์แบบไร้การสัมผัส สถานีบริการน้ำมัน ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านของฝาก ร้านกาแฟ ร้านค้าแบรนด์ดัง จำนวน 30 ร้านค้า รวมไปถึงบริการชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ และที่จอดรถกว่า 200 คัน พร้อมที่จอดรถทัวร์
ชูกิมมิกทำคลอด ร้าน “ไดรฟ์ทรู” แบรนด์ดัง
ตั้งแต่เปิดให้บริการ “พอร์โต้ ชิโน่” ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งแรก มีกิมมิกดึงร้านค้าแบรนด์ดังเปิดบริการรูปแบบ Drive Thru สาขาแรก คือ ร้านกาแฟ Starbucks จากนั้นโครงการ “พอร์โต้ โก บางปะอิน” ก็ดึงร้าน Dunkin เปิดสาขา “ไดรฟ์ทรู” แห่งแรกเช่นกัน
สำหรับ “พอร์โต้ โก ท่าจีน” มีพันธมิตร 2 แบรนด์ดังสัญชาติไทย คือ วราภรณ์ ซาลาเปา และ ชาตรามือ มาเปิดให้บริการไดรฟ์ทรู สาขาแรกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมี Starbucks และ KFC เปิดให้บริการไดรฟ์ทรู จนถึง 22.00 น.ทุกวันแล้ว
“ดี-แลนด์ ถือเป็นคนทำคลอดสาขาไดรฟ์ทรูของแบรนด์ดังๆ ในประเทศไทย เพราะเห็นว่าเป็นเซอร์วิสที่เหมาะกับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว โดยยังมีพันมิตรร้านค้าอื่นๆ ที่กำลังเจรจาเพื่อเปิดสาขาไดรฟ์ทรูกับโครงการเพิ่มเติมอีก ที่น่าจะทำได้คือร้านชาไข่มุก”
สำหรับ “พอร์โต้ โก ท่าจีน” ได้เริ่มทยอยเปิดให้บริการร้านค้าต่างๆ แล้ว วราภรณ์ ซาลาเปา จะเปิดวันที่ 27 ก.ย. นี้ ส่วน ชาตรามือ จะเปิดวันที่ 10 ต.ค. นี้ คาดว่าโครงการจะสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบในต้นปี 2563 และยังมองโอกาสขยายโครงการจุดแวะพัก “พอร์โต้ โก” บนถนนสายหลักเพิ่มเติมอีก ทั้งเส้นทางตะวันตกและตะวันออก.