KBank เดินหน้าจับมือพันธมิตรรายใหญ่ต่อเนื่องครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ รุกสร้าง “อีโคซิสเต็ม” ให้ “เติบโต เข้มแข็ง ไปด้วยกัน”


จะเห็นว่าเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา KBank คือธนาคารไทยที่ลุกขึ้นมาให้ความสำคัญกับการเดินหน้าทำงานร่วมกับพันธมิตร รายใหญ่ระดับประเทศ และยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่มีอีโคซิสเต็ม (eco-system) เกี่ยวพันกับหลากหลายไลฟ์สไตล์ของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านการขนส่ง การเดินทาง เช่น Grab, แพลตฟอร์มดิจิทัลที่เป็นเจ้าแห่งสื่อสังคมออนไลน์ อย่าง Facebook และ LINE, กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ เช่น Central JD FINTECH และ JD Central, กลุ่มธุรกิจพลังงาน อย่าง PTTOR, สถาบันการศึกษา เช่น โครงการ CUNEX ที่ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ความร่วมมือกับกลุ่มสตาร์ทอัพต่างๆ เช่น YouTech สตาร์ทอัพน้องใหม่มาแรงที่เริ่มธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในสิงคโปร์ และล่าสุด KBank ยังขยายความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ปีนี้จับมือกับยักษ์ใหญ่ของประเทศทั้ง 2 ราย คือ Shopee และ Lazada

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญกับการผนึกกำลังในรูปแบบ “Better Together” ร่วมกับพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อนำศักยภาพของธนาคารกสิกรไทยที่เป็นผู้นำทางด้านดิจิทัล แบงกิ้ง และมีความเชี่ยวชาญในการให้บริการโซลูชั่นทางด้านการเงินอย่างครบวงจร และตอบโจทย์ทุกกลุ่มความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า New Gen ลูกค้ากลุ่มคนทำงานทั้งที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือทำงานมาจนอยู่ในระยะสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ลูกค้ากลุ่มที่เป็นผู้ขายและผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ และลูกค้าอีกหลายกลุ่ม นำไปผสานกับพันธมิตรขนาดใหญ่ในแต่ละอุตสาหกรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนหลากหลายกลุ่ม เพื่อสร้างโซลูชั่นหรือแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุคปัจจุบันให้ได้มากที่สุด

การเดินหน้าความร่วมมือเพื่อผสานความเชี่ยวชาญซึ่งกันและกัน ทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่แค่จับมือเท่านั้น แต่ยังมี Action ให้เห็น และเกิดความคืบหน้าแล้วในหลาย โครงการ ยกตัวอย่างเช่น

· โครงการกับ Grab – เริ่มให้สินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับพาร์ทเนอร์คนขับของ Grab, สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์สำหรับพาร์ทเนอร์คนขับของ Grab, GrabPay Wallet Powered by KBank บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บน Grab Application ซึ่งให้บริการโดยธนาคารกสิกรไทยก็ได้เปิดให้บริการแล้ว และยอดผู้ใช้บริการ GrabPay Wallet เติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความสะดวกสบาย ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องพกเงินสด และยังมีโปรโมชันต่างๆ มากมาย เช่น ส่วนลดพิเศษ เครดิตเงินคืน และ GrabRewards

· โครงการกับ LINE – ที่ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัทกสิกรไลน์ จำกัด เพื่อทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวผู้บริหารพร้อมทั้งสรรหาทีมงานเพื่อเสริมทัพ และได้ทีมงานในตำแหน่งหลักๆ เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดตัวแบรนดิ้งในนาม LINE BK และเตรียมความพร้อม เพื่อ launch ผลิตภัณฑ์ ทั้งในด้าน Banking และ Lending ในปี 2563

· โครงการกับ Central JD – ร่วมสนับสนุน โครงการ Dolfin Application ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลและบริษัทเจดีดอทคอม ซึ่งเป็น eCommerce รายใหญ่จากประเทศจีน โดยสนับสนุนการทำธุรกรรมการเงินกับผู้ใช้บริการช่วยให้การเติมเงิน และทำการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นได้อย่างสะดวก ผลักดันการขยายร้านค้า และจุดรับชำระเงิน e-payment เพื่อช่วยขยายวงจรธุรกิจการชำระเงินของ Dolfin Wallet ให้ครบสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีแผนทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านช่องทาง Dolfin Application อีกด้วย

· โครงการกับ JD Central – การเชื่อมต่อกันระหว่าง JD Central และ K PLUS สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าได้ช้อปปิ้งออนไลน์แบบไร้รอยต่อที่เมนู K+ Market บน K PLUS เพื่อนำเสนอสินค้าดีมีคุณภาพ การันตีของแท้ บริการส่งถึงมือแบบทันใจภายใน 24 ชม. โดยสามารถเลือกชำระค่าสินค้าด้วยบัญชีใน K PLUS หรือคะแนนสะสมของบัตรเครดิตกสิกรไทยได้

· โครงการกับ OR – ร่วมสนับสนุน OR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ในหลายโครงการ ล่าสุดร่วมสนับสนุนการพัฒนา แอปพลิเคชัน Blue CONNECT สำหรับใช้จ่ายในระบบนิเวศน์ของ ปตท. ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้

· โครงการกับ YouTech – เปิดตัว YouTrip บริการ Multi-Currency Travel Wallet (กระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อการเดินทาง) ที่มีการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นพิเศษสำหรับนักเดินทางโดยเฉพาะ และบัตร YouTrip เพื่อให้นักเดินทางสามารถใช้จ่ายสกุลเงินต่างประเทศได้ด้วยเรทที่ดีกว่าร้านแลกเงินและธนาคาร ชูจุดเด่นไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ในการใช้จ่ายและใช้บริการ ไม่มีค่าธรรมเนียมแลกเงิน 2.5% ไม่มีค่าธรรมเนียมออกบัตร และค่าธรรมเนียมรายปี แลกเปลี่ยน 10 สกุลเงินในแอปฯ ได้ตลอดเวลาก่อนการใช้จ่ายด้วยบัตรเติมเงินแบบคอนแทคเลส มาสเตอร์การ์ด หรือสามารถให้ระบบ SmartExchange™ เทคโนโลยีแลกเงินอัตโนมัติ ดำเนินการให้ สามารถใช้จ่ายได้มากกว่า 150 สกุลเงินทั่วโลก ผสานการทำงานแบบไร้รอยต่อกับแอปพลิเคชัน K PLUS เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเติมเงิน

ในปีนี้ความร่วมมือกับพันธมิตรของ KBank ที่ถือว่าโดดเด่น และแสดงให้เห็นทิศทางรุกของธนาคารฯที่ชัดเจนมาก จากการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทย ที่ภาพรวมตลาดเติบโตร้อนแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีหลากหลายแพลตฟอร์มระดับโลกตบเท้าเข้ามาชิงส่วนแบ่งเงินในกระเป๋านักช้อปชาวไทยกันอย่างต่อเนื่อง มีการจัดเต็มโปรโมชั่น ดึงดูดให้ลูกค้าทดลองใช้แพลตฟอร์มของตนจนเกิดความเคยชิน และหันมาใช้ออนไลน์ช้อปปิ้งเป็นช่องทางแรกๆ ในการเลือกซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันเป็นปัจจัยช่วยกระตุ้น ดันตัวเลขตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยให้เติบโตขึ้นถึง 14% ในปี 2561 ที่ผ่านมา และคาดว่าในปี 2562 นี้ จะเพิ่มตัวเลขการเติบโตไปที่ 20% ได้ไม่ยาก คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมราว 1.24 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

เมื่อการค้าขายออนไลน์ในประเทศไทยคึกคักขนาดนี้ และเป็นช่องทางการขายที่จำเป็นสำหรับธุรกิจยุคใหม่ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้มากขึ้นได้ ทำให้มีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หน้าใหม่เข้าสู่ธุรกิจนี้จำนวนมาก แต่ปัญหาที่สำคัญของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เลยก็คือ ปัญหาการเข้าถึงเงินทุน ด้วยสาเหตุหลายประการ เช่น เอกสารไม่เพียงพอ ไม่เดินบัญชี ไม่มีหลักประกัน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน จึงเป็นที่มาของการที่ KBank ร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นเจ้าแห่งอีคอมเมิร์ซในตลาดไทยทั้ง 2 ราย คือ Shopee และ Lazada ในเวลาไล่เลี่ยกัน ในการให้บริการโซลูชั่นทางการเงินสำหรับผู้ขายบนแพลตฟอร์มทั้ง 2 แพลตฟอร์ม

· โครงการกับ Shopee – พัฒนาโซลูชั่นการเงินครั้งแรกบนแพลตฟอร์มของช้อปปี้ ตอบโจทย์การเติบโตตลาดอีคอมเมิร์ซ สานฝันพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้นด้วยการเสนอ สินเชื่อเงินด่วน (Xpress Loan) เพื่อร้านค้า Shopee ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความคล่องตัวให้กับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์โดยเฉพาะ ไม่ต้องยื่นเอกสาร ไม่ต้องมีหลักประกัน ให้ร้านค้าบนช้อปปี้ ผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS การเข้าถึงเงินกู้โดยเฉพาะช่วงเวลาสำคัญที่มีโปรโมชันพิเศษ และต้องการสต๊อกสินค้าไว้ขาย สามารถทำได้ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส โดยเข้าไปเช็คได้ที่รายการ Update จาก Shopee บน Shopee Application และรอรับ Notification จาก K PLUS เพื่อทำการสมัครสินเชื่อได้เลย พร้อมกันนี้ KBank ยังเสนอ โซลูชันผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบครบวงจร ผ่าน MADHUB ให้กับร้านค้าออนไลน์บน Shopee ที่ต้องการขยายโอกาสให้กับธุรกิจด้วยหลากหลายวิธีการ ทั้งองค์ความรู้สำคัญในการประกอบธุรกิจออนไลน์ คำแนะนำ หลักสูตร และดีลพิเศษที่จะเป็นการส่งเสริมให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ให้ทำธุรกิจอย่างมืออาชีพได้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ นอกจากนี้ความร่วมมือระหว่าง KBank และ Shopee ยังมีในส่วนของผู้ซื้อ ด้วยการมอบโปรโมชันพิเศษให้ลูกค้าที่ช้อปบนช้อปปี้และจ่ายด้วยบัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย


· โครงการกับ Lazada – ร่วมสนับสนุนเงินกู้ให้กับผู้ขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม Lazada ด้วยสินเชื่อเงินด่วนเพื่อธุรกิจออนไลน์ ให้ผู้ขายสินค้าเข้าถึงเงินกู้ง่ายขึ้น กดปุ่มเงินกู้แล้วรู้ผลอนุมัติไว 1 นาทีรับเงิน ด้วยสินเชื่อเงินด่วน (Xpress Loan) เพื่อร้านค้า Lazada ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีหลักประกัน ไม่ต้องยื่นเอกสาร และฟรีค่าธรรมเนียม พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ในการขอสินเชื่อ ด้วยการเปิด API เชื่อมต่อ App to App โดยเริ่มต้นขอสินเชื่อที่แอป Lazada Seller Center ซึ่งเป็นแอปที่ผู้ขายใช้อยู่เป็นประจำ และเชื่อมต่อข้อมูลมาพิจารณาอนุมัติ และรับเงินที่แอป K PLUS เป็นประสบการณ์ในการขอสินเชื่อที่ทำให้ผู้ขายรู้สึกว่าง่าย สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจออนไลน์คล่องตัว มีเงินทุนเพื่อหมุนเวียนและต่อยอดได้ทันความต้องการของธุรกิจ

ผู้บริหาร KBank ได้กล่าวในตอนท้ายว่า การดำเนินงานร่วมกับพันธมิตร ทุกๆ รายยังเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ และเรายังคงเดินหน้าในการร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่นๆ ทั้งในอุตสาหกรรมเดิมที่มีพันธมิตรแล้ว และอุตสาหกรรมใหม่ เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว ผู้บริโภคต้องการทางเลือกใหม่ๆ สำหรับเขา และเราพร้อมที่จะหาทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าของเราเสมอ