อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เดินเกมขยายตลาดต่างประเทศ ปักธงแฟรนไชส์ประเทศเวียดนามรับเศรษฐกิจบูม ขอชิงเค้กตลาดเฟอร์นิเจอร์มูลค่า 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
ประเดิมสาขาแรกที่โฮจิมินห์
โดยการบุกตลาดเวียดนามครั้งนี้ เป็นโมเดลให้สิทธิ์แฟรนไชส์แก่ VI Furniture Joint Stock Company บริษัทย่อยของ Vietnam Investment Group (VI Group) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจค้าปลีก อาหาร เครื่องดื่ม แฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และได้ทีมงานที่มีประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์เข้ามาบริหารธุรกิจ
ประเดิมเปิดสาขาแรกในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เป็นศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ มีพื้นที่ 990 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนถนน Nguyen Thi Minh Khai ในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งเป็นถนนสายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุด
ส่วนในเดือนธันวาคมมีแผนเปิดให้บริการสาขาที่ 2 อย่างต่อเนื่อง มีพื้นที่ประมาณ 800 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้เช่นเดียวกัน โดยคาดว่าภายในปี 2563 จะมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 6 สาขา เน้นทำเลที่มีศักยภาพในแหล่งช้อปปิ้งและย่านการค้า มีพื้นที่สาขาละ 600 – 1,000 ตารางเมตร
กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
บริษัทได้วางนโยบายขยายธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในต่างประเทศภายใต้โมเดลให้สิทธิ์แฟรนไชส์แก่พาร์ตเนอร์ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นความร่วมมือกับผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญการทำตลาดในประเทศนั้นๆ โดยที่บริษัทไม่ต้องใช้เงินลงทุนเอง หลังจากที่ขยายการลงทุนในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระจายการลงทุนในประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งทำให้แบรนด์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น เติบโตเป็นโกลบอลแบรนด์
จับตลาดเฟอร์นิเจอร์–อสังหาฯ ในเวียดนาม
เหตุผลที่เข้าลงทุนในเวียดนามนั้น เพราะเวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 6 – 7% มาตลอด มีจำนวนประชากรกว่า 96 ล้านคน หรือเกือบ 27 ล้านครัวเรือน มีสัดส่วนประชากรวัยหนุ่มสาวเป็นจำนวนมาก มีรายได้เฉลี่ยประชากรในปัจจุบันอยู่ที่ 2,551 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของเศรษฐกิจ
ภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์ในเวียดนามปัจจุบัน มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับปัจจัยบวกจากภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยปีละ 10.7% โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับกลางและพรีเมียมที่ขยายตัวได้ดี
ส่วนแนวโน้มในอีก 5 ปีข้างหน้าคาดว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเวียดนามยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาจชะลอความร้อนแรงลงบ้าง แต่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดความต้องการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เพื่อการตกแต่งและปรับปรุงที่อยู่อาศัยตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
พฤติกรรมของชาวเวียดนามเปิดรับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์ เช่น สแกนดิเนเวียน, คอนเทมโพรารี่ (ร่วมสมัย) ฯลฯ ทำให้อัพสเกลในการเติบโตได้
ปัจจุบันอินเด็กซ์ฯ ได้ขยายแฟรนไชส์แล้วใน 7 ประเทศ รวม 16 สาขา ได้แก่ อินโดนีเซีย เนปาล มัลดีฟส์ สปป.ลาว กัมพูชา ปากีสถาน และเมียนมา.