เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ประกาศกลยุทธ์การตลาดยกกำลัง 2 รับไตรมาสสุดท้ายของปี อาศัยช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เปิดตัวกระเช้าของขวัญที่ระดมทุกสรรพกำลังสร้างสรรค์ออกมากว่า 72 แบบ เพื่อให้โดนใจผู้ซื้อ สร้างความภาคภูมิใจให้ผู้มอบและถูกใจผู้รับจนอยากกลับมาช้อปปิ้งต่อ มั่นใจคัดของดีมีคุณภาพช่วยลูกค้าเกิดลอยัลตี้และบอกต่อ
นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัดผู้บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์, แฟมิลี่มาร์ท และมัทสึโมโตะ คิโยชิ กล่าวว่า เทศกาลส่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนำกลยุทธ์การตลาดยกกำลังสอง (Exponential Marketing) มาใช้ผ่านกระเช้าของขวัญปีใหม่ให้ได้ผลลัพธ์สองแต้มต่อ ต่อแรกคือกระเช้าต้องเป็นที่ชื่นชอบของผู้ซื้อและต่อที่สองคือ กระเช้าต้องถูกใจผู้รับ จนกลายเป็นลูกค้ารายใหม่ที่กลับมาใช้บริการ ผู้ซื้อเองก็จะเกิดความภาคภูมิใจ มีความภักดีในแบรนด์ มั่นใจจนกล้าบอกต่อ บริษัทฯ จึงได้คัดสรรสินค้าของดีขึ้นชื่อในระดับชุมชนกว่า 140 ชุมชนใน 49 จังหวัดทั่วประเทศ เช่น ผลไม้ สินค้าแปรรูป ,กระเช้าจากกลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านบางตาแผ่น จ.อ่างทอง, วิสาหกิจชุมชนจักสานผักตบชวาบ้านคลองนกกระทุง จ.นครปฐม ,ผ้าทอมือจากวิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี จ.ตรัง ในระดับประเทศ เช่น บุญรอดฟาร์ม,ดอยตุง,ดอยคำ และระดับนานาชาติ เช่น ซวอฟซีเรียล,สมัคเกอร์ส, อาร์นอตส์ มาออกแบบในธีม Season’s Giving 2020: GIVING THE GREATEST HAPPINESS ภายใต้คอนเซ็ปต์ สุขยิ่งใหญ่จากใจเล็กๆ ที่ต้องการสื่อสารถึงความมุ่งมั่นในการเป็นตัวแทนของกลุ่มคนจากทุกๆภาคส่วน ทั้งผู้ผลิตสินค้า ผู้จำหน่ายสินค้า ผู้ซื้อ ผู้รับ และการส่งความสุขคืนกลับสู่สังคม ผ่านกระเช้า 72 แบบ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 350 – 19,500 บาท และเพิ่มจุด DIY ในอีก 10 สาขาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าและกระเช้าให้ถูกใจผู้รับด้วยตนเอง พร้อมประดับประดาสาขาให้สวยงามสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์สุดประทับใจจากการเลือกซื้อกระเช้าและยังสร้างคุณค่าเพิ่มให้ผู้ซื้อรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมจากการซื้อกระเช้า ด้วยการนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งจากทุกกระเช้าของขวัญ สมทบทุนสร้างอาคารส่วนขยายศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก (ระยะที่ 2) ผ่านโครงการ “ของขวัญเพื่อชีวิต” ที่บริษัทฯ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อสานต่อนโยบายในการช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน
เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อของลูกค้ายุคใหม่ บริษัทฯ ได้วางจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ ทั้งในช่องทางออฟไลน์ที่ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท และ มัทสึโมโตะคิโยชิ และยังได้ผนึกพันธมิตรจัดพื้นที่ขายพิเศษ หรือ Pop-up Store สำหรับวางจำหน่ายกระเช้าภายในศูนย์การค้าและร้านค้าในกลุ่มเซ็นทรัล ทั้งเซ็นทรัลพลาซา, โรบินสัน, ไทวัสดุ, บีทูเอส,เพาเวอร์บาย,ออฟฟิศเมท เพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) และเพิ่มเส้นทางการซื้อของลูกค้า(Customer Journey) ส่วนในช่องทางออนไลน์ www.tops.co.th บริษัทได้สร้างความพิเศษให้แตกต่างจากการขายหน้าร้าน ด้วยการครีเอทกล่องของขวัญเอ็กซ์คลูซีพขายเฉพาะในออนไลน์ 2 แบบ ได้แก่ แฮปปี้บ็อกซ์ 790 บาท และ สวีทบ็อกซ์ 1,159 บาท และยังได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์หลัก อย่าง แกร็บเอ็กซ์เพรส (GrabExpress) ในการจัดส่งไวภายใน 2 ชั่วโมง และส่งฟรีทันทีเมื่อซื้อครบ 888 บาท พร้อมรับคูปองส่วนลด 200 บาท เมื่อ ช้อปผ่านออนไลน์ ทุกออร์เดอร์กระเช้า
บริษัทยังได้มอบความคุ้มค่าให้ผู้ซื้อด้วยโปรโมชั่น “รับคืนสูงสุด 40 %” เมื่อช้อปกระเช้าของขวัญในแคตตาล็อคและร่วมกับพันธมิตรบัตรเครดิต 12 บัตรชั้นนำเพื่อเลือกรับส่วนลดเงินสดหรือบัตรของขวัญ และเลือกผ่อนชำระ 0 % นาน 3 เดือนกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.62 – 7 ม.ค.63 โดยตั้งเป้ายอดขายกระเช้าของขวัญปีใหม่ปี 2563 เติบโต 10% จากปี 2562 มาจากสัดส่วนลูกค้าทั่วไป 80% และลูกค้าองค์กร 20 % เติบโตจากกลยุทธ์มัดใจลูกค้าถูกใจทั้งผู้ซื้อและผู้รับ และดีกรีความเข้มข้นในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ผ่าน www.tops.co.th, แอพพลิเคชั่น Tops และ LINE: @TopsThailand และ @Topsonline
Related