แม้ ‘PLAYMOBIL’ (เพลย์โมบิล) ของเล่นสัญชาติเยอรมันรายใหญ่ชื่อดังของโลกที่เริ่มก่อตั้งในปี 1974 มียอดขายรวมกว่า 3,000 ล้านชิ้น แต่ดูเหมือนภาพยนตร์อนิเมชั่น ‘Playmobil The Movie’ จะส่องแวว ‘พัง’ มากกว่าปัง เพราะสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเก็บรายได้ในอเมริกาไปแค่ 668,000 ดอลลาร์ จากโรงฉาย 2,337 โรง ส่วนทั่วโลกทำเงินไปแค่ 12 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 75 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดูเหมือนความพังดังกล่าวจะเป็นผลมาจากการทำการตลาดที่ไม่ดี โดยเฉพาะการเข้าถึงของเด็กกับแบรนด์ในระดับโลก อย่าง ‘Lego’ เป็นของเล่นที่ทั่วโลกรู้จักในระดับสากลจึงสามารถสร้างการรับรู้และสามารถดึงดูผู้ชมได้ง่าย ขณะที่ผู้ชมส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีภาพยนตร์เรื่อง Playmobil ฉาย อีกทั้งยังมีการเลื่อนฉายจากเดิมที่วางไว้เดือนมกราคมปี 2019 เนื่องจากบริษัท ‘Open Road Films’ ผู้จัดจำหน่ายเดิมประสบปัญหาล้มละลาย
อีกสัญญาณที่ไม่ดีของ Playmobil คือ คำวิจารณ์ที่ย่ำแย่ โดยบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes มีคะแนนเพียง 19% และ 29% จาก Metacritic นักวิจารณ์ให้เกรดหนังอยู่ที่ “C+” กับ “D” เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าโรงภาพยนตร์ลดราคาพิเศษเหลือ 5 ดอลลาร์เพื่อชมภาพยนตร์
“Playmobil นับเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่เปิดตัวได้ล้มเหลว มีเพียง ‘The Oogieloves in The Big Balloon Adventure’ ที่ และ ‘Delgo’ ที่เปิดตัวได้แย่กว่า โดยทำได้เพียง 443,901 ดอลลาร์ และ 511,920 ดอลลาร์ ตามลำดับ”
ตัดมาที่ ‘Frozen II’ ของ ‘Disney’ ที่ยังทำรายได้ต่อเนื่อง โดยสัปดาห์ที่ 3 ยังทำเงินได้ถึง 34.7 ล้านดอลลาร์ รวมรายได้ทั่วโลก 919.7 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก และคงไปถึง 1 พันล้านดอลลาร์ได้ไม่ยาก
ที่ผ่านมาดิสนีย์เก่งในเรื่องแฟรนไชส์ภาพยนตร์ อย่าง ‘Toy Story 4’ ก็ทำเงินทั่วโลกกว่า 1 พันล้านเหรียญ ซึ่งปัจจัยส่วนใหญ่มาจากเนื้อหาการเล่าเรื่องที่เข้าถึงได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อีกทั้งชื่อเสียงของดิสนีย์ก็มีส่วนสำคัญ
อย่างไรก็ตาม สตูดิโอของคู่แข่งบางแห่งบางรายก็สามารถสร้างภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศ อาทิ ‘Shrek 2’ ขอ Dream Work และ ‘Minions’ จาก Universal ที่เป็นภาพยนตร์การ์ตูนทำรายได้สูงสุดอันดับสามของโลก
#playmobil #playmobilthemovie #frozen #frozenii #disney