ไมโครซอฟท์มุ่งสร้างอนาคตยุค AI เพื่อคนไทย จับมือทุกภาคส่วน วางรากฐานการพัฒนาดิจิทัล เปิดโอกาสให้กับทุกคน

  • ประสานภาครัฐ สร้างสรรค์ AI เพื่อความยั่งยืนผ่านการสนับสนุน3 ด้าน วางแนวทางปฏิรูป เพิ่มทักษะ และร่วมสร้างรากฐาน
  • ผนึกกำลังกระทรวง DES จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา AIเปิดเวทีให้นักคิดไทยได้ร่วมขับเคลื่อนภาคการเกษตรและสมาร์ทซิตี้ พร้อมจับมือ สพธอ. เสริมความเข้าใจในนวัตกรรมล่าสุดให้กับผู้บริหารไทย ด้วยหลักสูตรระดับโลก AI Business School
  • หนุนภาคการศึกษาอย่างทั่วถึง เสริมศักยภาพทางเทคโนโลยีให้นิสิต-นักศึกษาใน 25 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ พร้อมลงพื้นที่ EEC เพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรครู ขยายผลให้เข้าถึงเยาวชนกว่า 50,000 คน
  • สนับสนุนการสร้างมาตรฐานเชิงจริยธรรมในการพัฒนาและใช้งาน AI ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลและกระทรวง DES

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เผยความร่วมมือกับหลากหลายภาคส่วนตลอดปีที่ผ่านมา ภายใต้พันธกิจการขับเคลื่อนประเทศไทยบนเส้นทางดิจิทัลด้วยนวัตกรรม AI ระดับโลก ผ่านการวางรากฐานทางเทคโนโลยีแนวทางการปฏิรูปและการเพิ่มทักษะให้บุคลากรทุกระดับ พร้อมจุดประกายมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ เพื่อให้ AI อยู่เคียงข้างสังคมไทยอย่างปลอดภัยและยั่งยืน

จากผลสำรวจที่เปิดเผยไปในช่วงต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่ามีองค์กรในประเทศไทยเพียง 26% เท่านั้น ที่ได้นำ AI เข้ามาเป็นองค์ประกอบหลักในกลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับอนาคต ไมโครซอฟท์จึงได้ลงนามในความร่วมมือกับหน่วยงานมากมาย เพื่อปูทางไปสู่ก้าวต่อไปที่แข็งแกร่ง สมบูรณ์ และสมดุล ในการพัฒนาเชิงนวัตกรรมดิจิทัลของไทยในปี 2563 ไม่ว่าจะเป็นในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม การวิจัยและพัฒนา การศึกษา หรือสังคม

จับมือกระทรวง DES ตั้งศูนย์ AI มุ่งหนุนการเกษตรและสมาร์ทซิตี้

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA)กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES)เพื่อจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา AI ขึ้นในประเทศไทย ภายใต้จุดมุ่งหมายสูงสุดในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม โดยในระยะแรก ศูนย์วิจัยแห่งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การยกระดับภาคการเกษตรและการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ให้เป็นรูปธรรม

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “การพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้กลายเป็นองค์ประกอบที่สร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างเต็มที่นั้น ต้องอาศัยความเข้าใจที่ลึกซึ้งในทุกระดับ การจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา AI แห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นช่องทางให้ไมโครซอฟท์สามารถนำแนวทางปฏิบัติที่ผ่านบทพิสูจน์ความสำเร็จบนเวทีโลกมาแบ่งปันให้นักคิดไทยได้นำไปปรับใช้เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีที่เชื่อมโยงทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้เชี่ยวชาญในวงการเทคโนโลยี สถาบันการศึกษา หรือแม้แต่นักลงทุน ให้ผสานกันเป็นระบบนิเวศเชิงนวัตกรรมที่เอื้อต่อการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น”

ศูนย์วิจัยและพัฒนา AI นี้ จะประกอบไปด้วย 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่

  • National AI Platformบนแพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure ที่เป็นรากฐานสำหรับการขับเคลื่อนนวัตกรรม บ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ และสนับสนุนงานวิจัยด้าน AI
  • Innovation Hubศูนย์กลางการพัฒนาโครงการเชิงนวัตกรรมให้ก้าวจากแนวคิดสู่ความเป็นจริง เฟ้นหาจุดตั้งต้นที่เหมาะสมในการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถก้าวข้ามความท้าทายที่คนไทยยังต้องเผชิญ และให้การสนับสนุนในการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ
  • Education & Talent Developmentการวางโครงสร้าง แพลตฟอร์ม เครื่องมือ และคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่จะเสริมสร้างความเข้าใจทางธุรกิจและเทคโนโลยีอย่างสอดคล้องกัน จนเกิดเป็นบุคลากรคุณภาพที่พร้อมผลักดันโครงการเชิงนวัตกรรมไปสู่จุดหมาย
  • National AI Clusterศูนย์กลางสำหรับนักคิดนักพัฒนาจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ที่เปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันคิด คัด เลือก และต่อยอดนวัตกรรม AI ไปสู่ผลงานที่เป็นรูปธรรม โดยในระยะแรกจะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมภาคการเกษตรด้วยโซลูชั่น FarmBeats ซึ่งเป็นการยกระดับศักยภาพของเกษตรกรด้วยข้อมูล
  • Incubatorพื้นที่สำหรับหน่วยงาน องค์กร และนักลงทุนที่ต้องการสนับสนุนและบ่มเพาะสตาร์ทอัพหน้าใหม่ให้เติบโต สามารถเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ ที่จำเป็น และก้าวสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเชิงพาณิชย์ต่อไป โดยถือเป็นช่องทางสำคัญในการเปิดโอกาสให้นักคิด นักพัฒนาได้เข้าถึงทรัพยากรจาก 4 องค์ประกอบข้างต้นนี้อย่างครบถ้วน

ยกระดับองค์ความรู้ เติมความเข้าใจ ให้นักวิจัยผู้บริหารและภาคการศึกษาได้คว้าโอกาสจาก AI

ในปี 2563 นี้ ไมโครซอฟท์และสถาบันเศรษฐกิจอนาคตและธรรมาพิบาลอินเทอร์เน็ต โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) จะร่วมกันเสริมสร้างความเข้าใจในนวัตกรรม AI ให้กับกลุ่มผู้นำและผู้บริหารระดับสูงทั่วไทย ผ่านทางโครงการ e-Training ในหลักสูตร AI Business School ซึ่งไมโครซอฟท์ได้พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างพื้นฐานให้ผู้นำยุคใหม่สามารถกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ขององค์กรในโลกยุค AI พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างมั่นใจ

หลักสูตร AI Business School สำหรับผู้บริหารไทยนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Future Economy and Internet Governance – Executive Program (FEGO) โดยมีเนื้อหาที่ครอบคลุม 4 ด้านหลัก ได้แก่

  • AI Strategy– การวางโครงสร้างทางความคิด เพื่อกำหนดบทบาทของ AI ในกลยุทธ์ขององค์กรอย่างรอบคอบและตรงเป้า
  • AI Culture – การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้เปิดรับ AI อย่างทั่วถึงในทุกด้าน ทุกแผนก โดยรวมถึงหน่วยงานที่โดยทั่วไปอาจห่างไกลจากเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเงิน การตลาด ฝ่ายขาย หรือฝ่ายบริการลูกค้า เป็นต้น
  • Responsible AI– การวิเคราะห์ผลกระทบที่แท้จริงของ AI ที่มีต่อธุรกิจในแง่การบริหารงาน ความโปร่งใส การจัดการทรัพยากรบุคคล และจริยธรรม
  • Technology of AI – การทำความรู้จักกับนวัตกรรม AI ล่าสุดที่องค์กรสามารถนำมาใช้งานได้

ไมโครซอฟท์ยังได้ออกแบบเนื้อหาในหลักสูตร AI Business School ให้ตรงกับความต้องการที่แตกต่างกันไปของแต่ละธุรกิจและองค์กร โดยตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2563 จะมีการจัดอบรมสำหรับกลุ่มธุรกิจสถาบันการเงิน (เดือนมกราคม) สาธารณสุขและการแพทย์ (กุมภาพันธ์) ค้าปลีก (มีนาคม) ภาคการผลิต (เมษายน) การศึกษา (พฤษภาคม) และหน่วยงานของภาครัฐ (มิถุนายน)

ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้ประกาศความร่วมมือเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านงานวิจัยเชิงเทคโนโลยีให้กับทั้งนักเรียน-นักศึกษา นักวิจัยใน 25 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดของกระทรวง อว. โดยที่มีการนำแพลตฟอร์มคลาวด์ระดับโลกเพื่อการเรียนรู้มาปรับใช้ถึงสองแพลตฟอร์ม ได้แก่ Microsoft Imagine Academy แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้สำหรับสถานศึกษา ที่มีเนื้อหาหลักสูตรสอดคล้องกับการสอบใบประกาศนียบัตรวิชาชีพของไมโครซอฟท์ และ Microsoft Learn แหล่งทรัพยากรเรียนรู้ทักษะเชิงดิจิทัลแบบเปิดที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ขณะที่นักวิจัยในสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการก็จะมีโอกาสได้เข้าถึงความรู้ความเชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยของไมโครซอฟท์ทั่วโลก เพื่อนำมายกระดับงานวิจัยของคนไทยต่อไป

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้สานต่อความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของนักเรียน ครู โรงเรียน และหน่วยงานทางการศึกษา ภายใต้โครงการ “การขับเคลื่อนการศึกษาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” (Digital Transformation in Education)ซึ่งครอบคลุมถึงการวางกรอบโครงสร้างเพื่อปรับรูปแบบการเรียนการสอนด้วยเทคโนโลยีการยกระดับทักษะความสามารถเชิงดิจิทัลของบุคลากรครู และการมอบซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง Office 365 เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ในสถานศึกษาในเครือ สพฐ. ทั่วประเทศเป็นเวลา 3 ปีเต็ม

ความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์กับ สพฐ. นับเป็นการขยายผลจากโครงการที่ไมโครซอฟท์ร่วมจัดทำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) และวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา เพื่อจัดหลักสูตรอบรมทักษะเชิงดิจิทัลให้กับครูอาจารย์ 500 ท่านจาก 500 โรงเรียนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อถ่ายทอดทักษะดังกล่าวจากบุคลากรครูไปสู่นักเรียนระดับมัธยมศึกษากว่า 50,000 คน

ผลักดันมาตรฐานเชิงจริยธรรม สร้างกรอบการพัฒนา AI อย่างยั่งยืน

อีกหนึ่งความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาในรูปของการสนับสนุนนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อร่างเอกสารหลักการและแนวทางเชิงจริยธรรมสำหรับการพัฒนาและใช้งาน AI ภายใต้ชื่อ “Digital Thailand – AI Ethics Guideline” ซึ่งมุ่งวางกรอบแนวทางปฏิบัติใน 6 ด้านใหญ่ ๆ ได้แก่ ความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาอย่างยั่งยืนความสอดคล้องกับกฎหมาย จริยธรรม และมาตรฐานสากลความโปร่งใสและภาระความรับผิดชอบความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวความเท่าเทียม หลากหลาย ครอบคลุม และเป็นธรรมและความน่าเชื่อถือ

“การที่ประเทศไทยเป็นชาติแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไมโครซอฟท์เข้ามาให้คำปรึกษาในด้านจริยธรรม AI นั้น สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสรรค์สังคมที่ดีกว่าด้วยเทคโนโลยี โดยไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความล้ำสมัยของนวัตกรรมเพียงอย่างเดียว” นายธนวัฒน์กล่าวเสริม “เรายังคำนึงถึงโอกาสในการเติบโตและประสบความสำเร็จที่คนไทยทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับความสามารถควรจะมีสิทธิ์ได้รับจากเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียมกัน และมุ่งหวังให้ AI เป็นฟันเฟืองที่นำพาความก้าวหน้ามาสู่ประเทศไทยอย่างยั่งยืน

ข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์ 

บริษัท ไมโครซอฟท์ (Nasdaq “MSFT” @Microsoft) เป็นผู้ขับเคลื่อนการปฎิรูปด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ในโลกแห่งอัจฉริยภาพของเทคโนโลยีคลาวด์ที่ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงถึงกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นกำลังสำคัญให้ทุกคนและทุกองค์กรทั่วทุกมุมโลกได้บรรลุผลสำเร็จที่ดียิ่งกว่า

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536  มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้คุณภาพชีวิตคนไทย 70 ล้านคน ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์  ไมโครซอฟท์ ส่งเสริมให้คนไทยและภาคธุรกิจได้ตระหนักถึงศักยภาพที่มีอย่างเต็มเปี่ยมผ่านการใช้เทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง ในการทำงาน การใช้ชีวิต และการสื่อสาร  ไมโครซอฟท์ให้บริการซอฟต์แวร์ บริการ และดีไวซ์ ที่สามารถก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ  มีความสะดวกทันสมัย  และช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ไมโครซอฟท์ ไม่หยุดนิ่งในการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตร อย่างต่อเนื่องในการนำพลังของเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย