จัดพอร์ตลงทุน 2020 : เศรษฐกิจโลกจับตานโยบายการคลัง ลุ้นตลาดหุ้นไทยฟื้น

  • KTBST ประเมินเศรษฐกิจโลก 2020 วัดฝีมือรัฐบาลดำเนินนโยบายการคลังแทนนโยบายการเงิน อัดเงินเข้าระบบ ลดภาษีกระตุ้นการลงทุน
  • แนะลงทุนหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วยกเว้นฮ่องกงและเกาหลี พ่วงลงทุนกองรีทซึ่งยังมีแววโตดีต่อเนื่อง
  • ตลาดหุ้นไทยอาจฟื้นตัวได้ 8.2% ลุ้นประเด็นการเมืองต่อปีหน้า แนะลงทุนหุ้นกลุ่มที่มีเสถียรภาพ เช่น สัมปทานภาครัฐ สินเชื่อรายย่อย สาธารณสุข เครื่องดื่ม

เตรียมตัวสำหรับปีหน้า KTBST วิเคราะห์เศรษฐกิจและตลาดหุ้นปี 2020 โดย “ชาตรี โรจนอาภา” กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST SEC และ “มงคล พ่วงเภตรา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน KTBST SEC ไฮไลต์ปีหน้าจะมีอะไรบ้าง ติดตามอ่านได้ที่นี่

 

“นโยบายการคลัง” ตัวชี้วัดเศรษฐกิจประเทศ

จากปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกต่างเติบโตช้าลง และหลายประเทศใช้นโยบายทางการเงินนั่นคือการลดดอกเบี้ยกันจนถึงขีดสุด แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงไม่เพิ่มขึ้น ทำให้มองว่าปี 2020 จะเป็นปี “วัดฝีมือรัฐบาล” เพราะแต่ละประเทศต้องหันมาใช้นโยบายทางการคลังทดแทน มีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบโดยภาครัฐ หรือลดภาษีโดยเฉพาะภาษีนิติบุคคลเพื่อกระตุ้นให้ภาคเอกชนนำเงินลงทุน

“ประเทศที่น่าจะมีศักยภาพพอที่จะทำได้ เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี จีน ส่วนประเทศกำลังพัฒนามีพื้นฐานการคลังไม่ค่อยแข็งแกร่ง” ชาตรีกล่าว

“จีน” เป็นประเทศเด่นที่คาดว่าจะใช้นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจได้ผล ทำให้ส่งผลดีกับตลาดหุ้น

ดังนั้น ปีหน้าแนะนำการลงทุนในตราสารทุนกลุ่มประเทศพัฒนาดังกล่าว ยกเว้นฮ่องกงและเกาหลีเนื่องจากอยู่ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวและได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ส่วนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ประเทศไทยเองแม้การใช้นโยบายการคลังจะไม่ได้ผลนัก แต่ตลาดหุ้นในปี 2019 เติบโตต่ำสวนทางตลาดหุ้นโลก ดังนั้นปีหน้ามีความน่าสนใจว่าตลาดหุ้นไทยอาจจะกลับมาโต

 

กองรีท: ดาวเด่นปี 2020

สินทรัพย์ทางเลือกที่น่าสนใจปีหน้า KTBST แนะนำกองทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากมีอัตราเงินปันผลสูง ช่วงที่ผ่านมาให้ผลตอบแทน 4-5% สูงกว่าดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น ประกอบกับกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่จะเริ่มต้นปีหน้าจะเปิดให้ลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ อย่างเสรี น่าจะทำให้มีเงินลงทุนเข้ามาในกองรีทมากขึ้น

การเปิดกองรีทใหม่ๆ น่าจะยังเป็นเทรนด์ในปีต่อไป เชื่อว่าการเปิดกองรีทจะยังโตอีก 2-3 เท่า และบริษัทอสังหาฯ มักจะคัดเลือกสินทรัพย์ที่ดีของบริษัทมาจัดตั้งเป็นกองรีททำให้มีผลตอบแทนดี

 

ลุ้นตลาดหุ้นไทยฟื้นปีหน้า

มาต่อกันที่ตลาดหุ้นไทย มงคลฉายภาพตลาดหุ้นไทยปีนี้อาจจะปิดตลาดที่ติดลบ 5% หรืออยู่ที่ไม่เกิน 1600 จุดในปีนี้ แต่เชื่อว่าปี 2020 ตลาดหุ้นไทยน่าจะฟื้นตัวในกรอบ 1588-1725 จุด เป็นการโตจากฐานต่ำ เชื่อว่าตลอดปีกำไรตลาดหุ้นจะเติบโตราว 8.2%

มองปัจจัยบวกปัจจัยลบปีหน้า สำหรับปัจจัยบวกเกิดจาก “สงครามการค้า” ที่ส่งสัญญาณคลี่คลายเนื่องจากปี 2020 จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ตลาดหุ้นน่าจะตอบสนองเร็วตั้งแต่ไตรมาสแรก รวมถึงปัจจัย “ดอกเบี้ย” ยังอยู่ในระดับต่ำ ตลาดหุ้นจึงยังเป็นแหล่งลงทุนสำคัญ

ส่วนปัจจัยลบจะเกิดจาก “ดิสรัปชัน” ลุกลามไปยังอุตสาหกรรมอื่นมากขึ้น โดยมีกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบหนักขึ้นคือ ธนาคาร ค้าปลีก และสื่อ และจะฉุดให้ตลาดหุ้นไทยโตต่ำลง อีกส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยลบคือ “การเมือง” ช่วงปีนี้การเมืองไทยต้องเผชิญภาวะสภาปริ่มน้ำทำให้การบริหารประเทศติดขัด มีผลต่อความมั่นใจในการลงทุน

จับตา “การเมือง” กระทบตลาดหุ้นปี 2020 (photo: Facebook พรรคพลังประชารัฐ)

อย่างไรก็ตาม มงคลมองว่าช่วงโค้งท้ายปีนี้ ตลาดหุ้นปรับตัวในเชิงบวกต่อข่าวการยื่นฟ้องร้องเพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากหากมีการยุบพรรคฝ่ายค้านขึ้นจริงจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ส่วนสัญญาณการชุมนุมประท้วงแม้ต้องจับตามอง แต่เชื่อว่าน่าจะไม่ร้ายแรง

 

ชี้เป้าหุ้นเด่น: สัมปทานรัฐ สินเชื่อรายย่อย สาธารณสุข เครื่องดื่ม

สำหรับหุ้นเด่นปี 2563 ช่วงไตรมาส 1 KTBST แนะนำแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ

1.กลุ่มที่ผลการดำเนินงานดีต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เช่น กลุ่มสัมปทานภาครัฐ สินเชื่อรายย่อย สาธารณสุข เครื่องดื่ม เช่น BTS, BEM, BCH, CBG, GUNKUL, PRM, SPALI, BGC, MTC, SAWAD, OSP, BDMS, JMT อย่างไรก็ตาม กลุ่มโรงไฟฟ้านั้นได้ผ่านปีทองไปแล้วทำให้ไม่แนะนำลงทุน เช่น GULF, BGRIM, GPSC

2.กลุ่มที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมากในปี 2019 แต่ผลประกอบการอยู่ในทิศทางดีและน่าจะทำให้ราคาหุ้นเติบโตในปี 2020 เช่น กลุ่มน้ำมัน ปิโตรเคมี ส่งออก โรงแรม เช่น ERW, BCP, CPF, TKN, IRPC, PTTEP และ HANA