ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประมาณการยอดขายค้าปลีกปี 2563 ว่าจะลดลง 2.6-3% จากปี 2562 ส่งผลให้เติบโตเพียง 3.1% นับเป็นอัตราที่ลดลงต่อเนื่องมาตลอด 5 ปี แต่ ‘เซ็นทรัล’ ยังเชื่อว่ากำลังซื้อในปีนี้มีทิศทางบวก เนื่องจากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายของภาครัฐ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องจากภาคเอกชน อีกทั้งปีนี้ที่เป็นปี ‘หนูทอง’ ที่ 60 ปีมีครั้งเดียว ดังนั้นมั่นใจว่าจะช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคจับจ่ายสินค้าเสริมดวงในช่วง ‘ตรุษจีน’ นี้
ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด-ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด บริษัทย่อยของเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า หลายคนมองว่าช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี กำลังซื้อจะแผ่ว แต่เมื่อดูจากฐานข้อมูลของเซ็นทรัลพบว่า ผู้บริโภคยังจับจ่ายเหมือนเดิม ขณะที่เทศกาล ‘ตรุษจีน’ ถือเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนตลาดต้นปี โดยปีที่ผ่านมาตรุษจีนมีเงินสะพัดถึง 13,000 ล้านบาท ขณะที่เซ็นทรัลมีอัตราการเติบโตในช่วงตรุษจีนเฉลี่ยปีละ 12-15% โดยปีนี้คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 10-15%
“ปีนี้เป็นปี หนูทอง ที่ 60 ปีมีครั้ง ดังนั้นเชื่อว่าคนยังซื้อของที่เป็นสิริมงคลเสริมดวงในช่วงตรุษจีนนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้มากขึ้น”
ล่าสุด เซ็นทรัลได้จัดแคมเปญ ‘Happy Chinese New Year 2020’ ต้อนรับปีหนูทอง ฉลองแด่นักช้อป ทุ่มงบ 50 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงตรุษจีนนี้ ทั้งเซ็นทรัลรีเทล และกลุ่มเซ็นทรัล (กลุ่มธุรกิจ: เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป (เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์, ท็อปส์มาร์เก็ต,ท็อปส์ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท, มัทสึโมโตะคิโยชิทุกสาขา และท็อปส์ออนไลน์)
สำหรับภาพรวมปีนี้ เซ็นทรัลมั่นใจว่าสามารถเติบโตได้ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแรง ทั้งยุทธศาสตร์การขยายสาขา การดำเนินธุรกิจแบบออมนิชาแนล ที่สามารถเติบโตได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และมีข้อมูลผู้บริโภคจาก The One Card ที่มีกว่า 28.8 ล้านรายทั่วโลก (เฉพาะประเทศไทย 17 ล้านราย) ที่ช่วยให้ทำการตลาดแบบ Personalize หรือการตลาดแบบเฉพาะบุคคล
“ปัจจัยบวกปัจจัยลบมีมาตลอด แต่เราต้องติดตามสถานการณ์ให้ดีมากกว่า อย่างช่วงนี้น้ำประปามีปัญหา เราก็ต้องเตรียมขายน้ำมากขึ้น หรือมีปัญหาภัยแล้งแล้งเราก็ต้องร่วมกับภาครัฐ ภาคการเกษตรเพื่อเตรียมผลผลิตให้พร้อม และเรามีข้อมูลจำนวนมากจาก The One member ทำให้เราเห็นโอกาสที่จะเติบโตอย่างมั่นคง”
อย่างไรก็ตาม ความท้ายทายของเซ็นทรัลจากนี้คือ การหาเครื่องมือที่นำเสนอสินค้าที่ตรงใจลูกค้า อย่างเทรนด์ที่เซ็นทรัลเห็นในปีนี้คือ สินค้า Health and wellness และ Aging Population ที่ต้องเตรียมสินค้าให้พร้อม
ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์ออมนิชาแนลของเซ็นทรัลมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยความสำเร็จของแคมเปญ 11.11 ที่ผ่านมา ยอดขายเพิ่มขึ้น 14 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงปกติ และเพิ่มขึ้น 5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อรวมยอดขายทั้งจากสโตร์และออนไลน์ ก็โตเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่แคมเปญ 12.12 ก็ได้รับความสำเร็จเช่นเดียวกัน และเมื่อแบ่งการเติบโตของรายได้ตามประเภทพบว่า สินค้าแฟชั่นเติบโต 14% อิเล็กทรอนิกส์โต 8% เฟอร์นิเจอร์โต 15% และฟู้ดโต 22%
ขณะที่เทรนด์พฤติกรรมของผู้บริโภคในปี 2020 นั้น มีความต้องการสินค้าที่มีความเฉพาะตัวมากขึ้น ยอมจ่ายเพื่อซื้อประสบการณ์ และความเป็นเอกสิทธิ์มากขึ้น
ทั้งนี้ การจับจ่ายในช่วงตรุษจีนปีที่ผ่านมา 5 อันดับ ได้แก่ 1.เครื่องเซ่นไหว้ 2.ท่องเที่ยว 3.อั่งเปา 4.เสื้อผ้าและเครื่องประดับ 5.เครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่สินค้าขายดี 5 อันดับของเซ็นทรัล ได้แก่ 1.เครื่องสำอาง 2.เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก 3.เสื้อผ้ากีฬา 4.เครื่องเซ่นไหว้ และ 5.เครื่องประดับ โดยปีนี้สินค้าประเภทผลไม้และของเซ่นไหว้ เป็นสิ่งที่เซ็นทรัลโฟกัส
#Central #ตรุษจีน #Retail #Positioning