ในภาวะที่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 กำลังปกคลุมไปทั่วเมือง จนทำให้คุณภาพอากาศตามรายงานของ AirVisual ที่รายงานสถานการณ์ฝุ่นรอบโลก ระบุว่าพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณฝุ่นในภาพรวมที่ 174 USAQI และปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าเฉลี่ยที่ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้กลายเป็นเมืองที่มีฝุ่นเยอะเป็นอันดับ 8 ของโลก ดังนั้น หลายคนจึงเลือกที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) คือการอยู่อาศัยภายในบ้าน หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในพื้นที่โล่งแจ้งในช่วงระยะเวลาที่สภาพอากาศย่ำแย่ ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน
แต่ใช่ว่า “บ้าน” จะเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไร้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะฝุ่นล่องลอยอยู่ในอากาศและสามารถเข้าสู่บ้านเราได้หลายทาง เช่น เวลาเปิดประตู หรือหน้าต่าง วันนี้ 3เอ็มจะมาเปิดเคล็ด (ไม่) ลับในการเลือกเครื่องฟอกอากาศเพื่อสุขภาพคนที่คุณรักมาให้ได้รู้กัน
“เครื่องฟอกอากาศ” ของมันต้องมี
ในยุคฝุ่นครองเมืองเครื่องฟอกอากาศ Air Cleaner หรือ Air Purifier เป็นหนึ่งสิ่งที่ของมันต้องมี เพื่อกรองอากาศบริสุทธิ์ให้กับทุกคนในครอบครัว ช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและโรคทางเดินหายใจได้มากขึ้น นอนหลับสนิทได้มากขึ้น เพราะเจ้าเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพมาตรฐานตามมาตรฐานสากล เช่น 3เอ็มสามารถจับอนุภาคต่าง ๆ ของฝุ่นละออง ไรฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นควันสารก่อภูมิแพ้แบคทีเรียรวมไปถึงอนุภาคที่เกาะกลุ่มกันของเชื้อไวรัสโดยการทำงานของเครื่องฟอกอากาศก็คือการดูดอากาศเข้าตัวเครื่องและผ่านตัวกรองให้ดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศ อากาศที่ออกมาก็จะบริสุทธิ์และสะอาดมากขึ้น
6 เคล็ดลับเลือก “เครื่องฟอกอากาศ” ให้ตรงใจ
- คำนึงถึงประสิทธิภาพการกรองควรเลือกใช้แผ่นกรองที่มีประสิทธิภาพสูง ที่ระบุว่าสามารถดักจับอนุภาคในอากาศได้เล็กกว่า 3 ไมครอน หรือแผ่นกรองแบบเส้นใยไฟฟ้าสถิตที่ใช้หลักการกรองแบบเดียวกับแม่เหล็กดูดฝุ่น ควรหลีกเลี่ยงแผ่นกรองที่ทำให้เกิดประจุไฟฟ้าที่ปล่อยก๊าซโอโซนออกมา เพราะบางครั้งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ
- เลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับขนาดพื้นที่เพราะเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นมีประสิทธิภาพในการทำงานครอบคลุมพื้นที่ที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อ ควรทราบขนาดของห้องที่ใช้งาน โดยแนะนำให้เลือกสเปคที่รองรับพื้นที่มากกว่าขนาดห้องจริงได้ แต่ก็ไม่ควรมากเกินไปเพราะจะทำให้เปลืองไฟ แต่ไม่ควรเลือกสเปคต่ำกว่าขนาดห้องเพราะจะทำให้เครื่องกรองอากาศทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และควรพิจารณาพื้นที่ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน เช่น ในห้องเด็ก หรือห้องผู้สูงอายุ
- ประหยัดค่าไฟ หากมีเครื่องฟอกอากาศที่ทั้งช่วยทำความสะอาดอากาศและคุ้มค่า ประหยัดด้วย ก็คงจะดีไม่น้อย โดย 3เอ็ม แนะนำว่าควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรองแบบที่อากาศไหลผ่านได้ดี เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศไม่ต้องทำงานหนัก และที่สำคัญคือควรเลือกสินค้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ร่วมด้วยเพราะแสดงว่ามีคุณภาพในการใช้พลังงานที่คุ้มค่าที่สุด ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่ายได้นั่นเอง
- ทำงานเงียบเวลาเปิดเครื่องฟอกอากาศทิ้งไว้ทั้งคืน ควรเลือกเครื่องที่ไม่ส่งเสียงดังขณะทำงาน เพื่อให้ทุกคนพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
- อะไหล่หาง่าย เพราะหากเกิดปัญหาในภายหลัง จะได้สามารถหาซื้อและซ่อมแซมได้สะดวก โดยเฉพาะพวกแผ่นกรองและไส้กรองต่างๆ
- วัตถุประสงค์การใช้งานปัจจุบันในท้องตลาดมีเครื่องฟอกอากาศจำนวนมาก มีฟังก์ชั่นที่หลากหลายนอกเหนือจากการดักจับฝุ่น อาทิ กำจัดกลิ่น และเชื้อโรค บางรุ่นมีอุปกรณ์ตรวจวัด แจ้งเตือนแบบอื่นๆ ทางที่ดีควรเลือกที่วัตถุประสงค์ของการใช้งานเป็นหลัก แล้วเปรียบเทียบคุณสมบัติกับราคาที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานจริงๆ เพื่อจะได้คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด
นอกจากเครื่องฟอกอากาศแล้ว สิ่งที่เราไม่ควรละเลยหรือมองข้ามก็คือ การทำความสะอาดตามจุดต่างๆ ในบ้านอยู่เสมอ เพื่อลดเชื้อโรคและฝุ่นละออง รวมถึง รวมกันใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
*ขอบคุณข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO)
**ขอบคุณข้อมูลจาก 3เอ็ม ประเทศไทย