กางแผน ‘One Origin’ ปั้นโรงแรม, ออฟฟิศ, รีเทล มูลค่า 20,000 ล้าน ภายใน 3 ปี

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ฝั่งคอนซูเมอร์ไทยจะไม่สดใสนัก แต่ตลาดคอมเมอร์เชียล หรืออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ยังมีโอกาสเติบโต เนื่องจากภาครัฐที่ผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี), การมอบสิทธิประโยชน์ดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุน รวมถึงต้นทุนที่ต่ำลงในช่วงเศรษฐกิจปรับฐาน ดังนั้น ‘วัน ออริจิ้น’ เครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จึงเตรียมแผนสร้างรายได้ประจำให้กับกลุ่ม

“บริษัทเราพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ อาทิ โรงแรม, อาคารสำนักงาน, พื้นที่ค้าปลีก จึงมองเห็นเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน โดยวางแผนการพัฒนาโครงการเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว พร้อมกับแนวคิดธุรกิจใหม่ คือ โมเดล โอเพ่น แพลตฟอร์ม : เติบโตไปด้วยกัน” กมลวรรณ วิปุลากร ประธานกรรมการ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด กล่าว

กมลวรรณ วิปุลากร ประธานกรรมการ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ไม่น้อยกว่า 11 โครงการ โดยจะทยอยเปิดให้บริการจนถึงปี 2566 โดยจะเน้นทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าสายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญอย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมมูลค่าโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท (ประมาณการมูลค่าสินทรัพย์รวม)

ประกอบด้วย 1.โรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ รวมไม่น้อยกว่า 3,420 ห้องพัก เน้นเจาะลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (Business Purpose) และกลุ่ม Budget Hotel 2.กลุ่ม Commercial Space เช่น อาคารสำนักงานให้เช่า พื้นที่ค้าปลีก รวมไม่น้อยกว่า 16,000 ตร.ม. โดยโครงการส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะ Mixed-use เพื่อสร้างรายได้จากหลายรูปแบบ และทำให้แต่ละโครงการมีศักยภาพพร้อมเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของทำเลนั้น ๆ

โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง

ปัจจุบันมี 2 โครงการที่สร้างเสร็จและเปิดให้บริการแบบ Soft Opening แล้ว ได้แก่ โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง รวม 650 ห้องพัก โดยเราได้พันธมิตรดั้งเดิมอย่างบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และ เครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG)”

“พื้นที่พาณิชย์ปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก ความสมบูรณ์ของการพัฒนาโครงการไม่ว่าโรงแรม พื้นที่สำนักงาน หรือรีเทลต้องถูกออกแบบและพัฒนาไปด้วยกัน จากนี้ไป การตอบสนองความต้องการของโครงการ ไม่ได้แข่งกันด้วยขนาดพื้นที่และความใหญ่โตอย่างเดียว แต่แข่งกันด้วยความสามารถและศักยภาพของพื้นที่ที่ถูกพัฒนามา รวมถึงร้านค้าภายในพื้นที่ และสำนักงานในพื้นที่ที่ตอบโจทย์”

โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ

ทั้งนี้ บริษัทยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่รอการพัฒนาและอยู่ระหว่างการพัฒนาในหลากทำเล อาทิ พญาไท สุขุมวิท รามอินทรา ศรีราชา ระยอง ฯลฯ โดยมีพันธมิตรใหม่สนใจร่วมลงทุนเพิ่มใน 3 โครงการ ขณะเดียวกัน บริษัท ยังมองหาโอกาสการควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) เพื่อช่วยสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย จากแผนงานของบริษัทฯ ภายในปี 2568 บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างกำไรให้กับกลุ่มได้ 500 ล้านบาทต่อปีตามแผน

สำหรับพันธมิตรของกลุ่มบริษัทในปัจจุบันมีหลายรูปแบบ ได้แก่ 1.การลงทุนในลักษณะพันธมิตรร่วมทุน (JV Partner) 2.การเข้ามาเป็นผู้บริหารจัดการโรงแรมในเครือ (Hotel Operator) 3.การเข้ามาเป็นผู้เช่าพื้นที่ (Tenant) 4. ผู้บริหารพื้นที่เช่า (Property Leasing and Management) 5.เจ้าของที่ดิน (Land Owner) ที่มีที่ดินพร้อมร่วมลงทุนพัฒนากับวัน ออริจิ้น ซึ่งโมเดลนี้ บริษัทเปิดกว้างสำหรับบริษัทอื่น ๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ