มิถุนายน 2553 เป็นเดือนที่นิตยสาร POSITIONING ครบรอบ 6 ปี เพื่อก้าวขึ้นสู่ปีที่ 7 เป็นอีกปีที่เราต้องเตรียมพร้อมกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ
ที่ผ่านมา เราได้ยินนักธุรกิจหลายคนให้ความเห็นเหมือนกันว่า การทำธุรกิจทุกวันนี้ต้องเจอโจทย์ยากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคซับซ้อน มีความเป็นตัวเองมากขึ้น สินค้าประเภท Mass ทำได้ยากมากขึ้น การทำตลาดก็ยิ่งต้องลงรายละเอียด จะอิงทฤษฎีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องลงมือทำ คิดนอกกรอบให้เป็น
สกู๊ปปกฉบับนี้ก็เช่นกัน ใครจะคิดว่า iPad ที่เคยถูกค่อนขอดว่าเป็นแค่ไอโฟนขนาดใหญ่ ดูท่าแล้วจะไปไม่รอด แต่พอเอาเข้าจริงกลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ตัวเลขล่าสุดที่สตีฟ จ็อบส์ บอกในงาน WWDC ว่า iPad ขายได้ 2 ล้านเครื่องภายใน 2 เดือน กลายเป็นว่าอุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่าง iPad กลับมาแรง สวนกระแสกับคำว่า ยิ่งเล็ก ยิ่งแรง ของ Gadget ยุคนี้ไปแบบลอยลำ เพราะการคิดนอกกรอบของสตีฟ จ็อบส์
กระแสของ iPad ในไทยเองก็ตาม ไม่ธรรมดา แม้ยังไม่มีวางขายจากตัวแทนอย่างเป็นทางการ แต่เหล่าสาวกแอปเปิลก็หาซื้อได้ตามตู้ในห้างมาบุญครอง ที่สำคัญหลายธุรกิจนำ iPadไปประยุกต์ใช้งานแล้ว ส่วนใครจะทำอะไร และใช้ได้ผลแค่ไหน ต้องไม่พลาดกับการหาคำตอบกับสกู๊ปปกฉบับนี้ได้ทุกแง่ทุกมุม
พลิกวิกฤตเป็นโอกาส
อีกกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ตัน ภาสกรนที แห่งโออิชิ ได้ชื่อว่า พลิกวิกฤตเป็นโอกาสระดับตัวพ่อ
ไม่ต้องดูอื่นไกล หลังวิกฤตการเมืองรอบนี้สงบลงหลายแบรนด์ออกมาช่วยเหลือผู้ประสบความเดือดร้อนจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ไม่มีใครทำแล้วดัง และโดนเท่ากับตัน
เมื่อเขาประกาศให้ใช้พื้นที่ “อารีน่า เท็น” ทองหล่อซอย 10 ให้เป็นศูนย์อำนวยความสะดวกในการช้อปปิ้ง หรือ ศอช. ให้กับผู้ค้าที่เดือดร้อนมาขายของได้ฟรี
ความกล้า และความรวดเร็วในการตัดสินใจ ข่าวนี้เลยโด่งดังไปทั่ว ทั้งทีวี วิทยุ โทรทัศน์ นิวมีเดีย Social Media ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก เรียกว่า ได้ใจและได้พื้นที่สื่อไปเต็มๆ
ได้ใจคนแบบนี้ แบรนด์โออิชิมีลูกค้ามาอุดหนุนมากขึ้น ส่วนอารีน่า เท็น ที่ตันลงทุนไป แต่ยังไม่ติดตลาดเท่าไหร่นัก เพราะคู่แข่งในซอยทองหล่อก็ไม่น้อย ก็ได้เวลาแจ้งเกิด ดังเปรี้ยงปร้างกับเขาเสียที
เวลานี้ลูกสาวคนโต น้องกิฟต์- วริษา ภาสกรนที ก็ได้แจ้งเกิดกับเวที ศอช. ไปเรียบร้อยแล้ว ในฐานะเซเลบฯคนใหม่ ได้ขึ้นปกนิตยสาร และปรากฏเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ ถอดรหัส ทั้งประวัติชีวิต และธุรกิจ ดังยิ่งกว่าเซเลบฯคนไหนๆ
ส่วนตันเอง ยังสร้าง Value Creation แบรนด์ของตัวเองให้ขยายมาอีก เมื่อเขาได้มาพบกับโน้ส อุดม แต้พานิช ที่กำลังเป็น “คู่หู ดูโอ” สหายต่างวัย แต่ใจตรงกัน เตรียมโปรเจกต์ใหญ่ เดี่ยวไมโครโฟน ฉบับตัน โออิชิ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
โน้สนั้น นอกจากเป็นเป็นเจ้าของไอเดีย คิดชื่อ ศอช. ยังเป็นหุ้นส่วนร้านแซ่บอีลี่ ที่โน้สลงขันร่วมกับน้องกิฟต์และก๊วนเพื่อนของโน้ส ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ แห่งร้านไอเบอรี่ และอินทิรา แดงจำรูญ
เชื่อได้ว่า นับจากนี้ร้านแซ่บอีลี่ ซึ่งตั้งอยู่ในอารีน่า เท็น คงได้แฟนคลับมากระชับพื้นที่ กลายเป็นอีกร้านยอดฮิตติดเทรนด์ต่อไป
เป็นการต่อยอด Value Chain พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ฉบับตัน โออิชิ ที่หลายธุรกิจต้องศึกษาเพื่อCase Study ต่อไป
ใครไม่อยากตกเทรนด์ต้องไม่พลาดกับสกู๊ปการมาของ ฟิกซี่ จักรยานที่เคยอยู่ในลู่แข่งถูกนำมาใช้งานบนท้องถนน กลายเป็นที่นิยมคนรุ่นใหม่วัยทำงาน เอเยนซี่โฆษณา นักดนตรี ทำให้ฟิกซี่สะท้อนความเป็นตัวตนและพลังของคอมมูนิตี้ในอีกรูปแบบหนึ่ง
ฟิกซี่ เทรนด์นี้เราได้ข้อมูลเบื้องต้นมาจาก “สเกาต์ทีม” ของมายด์แชร์ มีเดียเอเยนซี่ ที่มีสองสาวอัจฉรา มัสอูดี และ ศิธมา สินธวานนท์ ทำหน้าที่ตามเทรนด์ใหม่ๆ ของวัยรุ่น
ฉบับนี้ ยังพาไปพบกับ 3 ร้านขนมชื่อดัง ถ้าใครไม่อยากเชยไม่ควรพลาด เป็นเรื่องราวที่สะท้อนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น และมีความต้องการเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
นอกจากตัวขนมต้องดีแล้ว หลักคิดในการทำธุรกิจ อย่าง กรณี “ปีเตอร์ ทวีผลเจริญ” ผู้ก่อตั้ง “แด๊ดดี้ โด” โดนัทสัญชาติไทย แจ้งเกิดท่ามกลางคู่แข่งข้ามชาติ
เห็นสำเร็จแบบนี้แต่ปีเตอร์ก็เคยผ่านความล้มเหลวถึงกับปิดสาขาพัทยามาแล้ว เพราะพฤติกรรมฝรั่งไม่เหมือนคนไทย ฝรั่งกินชิ้นเดียวจบ แต่คนไทยถ้าอร่อยมักจะซื้อไปฝากพี่น้อง เพื่อนฝูง
บทเรียนครั้งนั้นทำให้เกิดกลยุทธ์ขายราคาเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการคิดราคา ยิ่งซื้อมากยิ่งได้ส่วนลด และการออกแบบแพ็กเกจจิ้งให้ดูดี ถูกใจลูกค้าคนไทย ช่วงเทศกาลก็เลยกลายเป็นของฝากยอดฮิต เพราะซื้อง่าย ดูดี แถมราคาไม่แพง
เป็นแค่ตัวอย่างเดียว ยังมีสูตรการปั้นธุรกิจจากประสบการณ์จริงไม่อิงทฤษฎี ที่ยังคงเป็นเนื้อหาสำคัญของเรา
ขึ้นปีที่ 7 สำหรับPOSITIONING เรายังคงเชื่อเสมอว่า “Content is the king” ยังคงเป็นเป้าหมายสูงสุดที่ทีมงานยังคงยึดถือตลอดไป