จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้วสำหรับ ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม โดยในไทยเริ่มจัดการประกวดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 โดยกำหนดโจทย์ทางการตลาดให้นักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 3-4 สวมบทบาทของการเป็น Brand Manager นับเป็นการแข่งขันแผนธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกของอุตสาหกรรมความงาม ทั้งนี้ ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกเมื่อ 18 ปีที่แล้ว
สดับพิณ คำนวณทิพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บอกว่า แต่ละปีจะมีโจทย์ที่แตกต่างกัน แต่ล้วนมีความท้าทายด้วยกันทั้งสิ้น บทสรุปในปี 2552 ที่ผ่านมา มีนักศึกษากว่า 6,200 คน จากมหาวิทยาลัย 270 แห่ง ใน 38 ประเทศทั่วโลก โดยเธอบอกเล่าถึงวัตถุประสงค์ของการแข่งขันนี้ว่า “เพื่อที่ลอรีอัลจะได้ใกล้ชิดกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสของนักศึกษาได้แสดงความสามารถที่ได้ร่ำเรียนมากับบริษัทที่มีชื่อเสียง ได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง และมีหลายครั้งที่ลอรีอัลเองได้แรงบันดาลใจจากไอเดียของนักศึกษา เป็นการแชร์คุณค่าของกันและกัน”
งานนี้แบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตนอย่าง “ดีเซล” ถูกคัดเลือกมาเป็นโจทย์ประจำปี 2010 ว่าจากแบรนด์น้ำหอมที่ประสบความสำเร็จจะสามารถแตกไลน์ออกเป็นผลิตภัณฑ์ในเซ็กเมนต์ใดและด้วยคอนเซ็ปต์แบบไหนที่จะโดนใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
ความยากอยู่ที่ว่าที่ผ่านมามีน้อยแบรนด์นักที่เลื่องชื่อในตลาดน้ำหอมแต่เมื่อแตกไลน์มาสู่ Category อื่นแล้ว กลับไม่รุ่งเรืองดังหวัง และหากเป็นดีเซลแบรนด์ที่ได้รับการกล่าวขานถึงความกบฏและฉีกกรอบมาโดยตลอดนั้นจะเป็นอย่างไร
สำหรับลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2010 ของไทยเริ่มต้นการประกวดตั้งแต่ปลายปี 2009 ก่อนที่จะได้ทีมชนะเลิศจาก 6 ทีมสุดท้ายที่แข่งขันประชันไอเดียกันอย่างบรรเจิด
ชัยชนะตกเป็นของ ทีม Phtire D’Armour จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่นำเสนอไลน์ผลิตภัณฑ์ “สกินแคร์” ในนามของ”DIESEL RIPPER RANGE” ซึ่งได้รับการตัดสินจากคณะกรรมการ 4 คน คือ ฌอง ฟรองซัวร์ คูเว่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด วริศรา ไพรสานฑ์กุล ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ไบโอเธิร์ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำหอม มาร์ค อินโกรอิลล์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปัปลิซีส (ประเทศไทย) จำกัด และ คำรณ ปราโมช ณ อยุธยา บรรณาธิการบริหาร นิตยสารอิมเมจ
พวกเขาเสนอคอนเซ็ปต์ว่า Rapid & Smooth อันเป็นที่มาจาก Consumer Insight ของผู้ชายยุคใหม่ที่ไม่ใช่เฉพาะ Real Men แต่รวมถึง Metrosexual และไม่เว้นแม้แต่ Homosexual ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากในการดูแลผิวหน้าของตนเอง การใช้งานที่ง่ายในบรรจุภัณฑ์ที่มีดีไซน์ดึงดูดเป็นคำตอบที่ลงตัว นอกจากนี้พวกเขายังเล็งเห็นถึงกลุ่มผู้หญิงที่เป็นแฟนและเพื่อนของชายหนุ่มว่าจะเป็น Shopper ของ DIESEL RIPPER RANGE เนื่องจากเป็นกลุ่ม Influencer ของผู้ชายอยู่แล้ว
นำเสนอผ่านรูปแบบของ Military (ทหารสื่อถึงความรวดเร็วในการปฏิบัติการในทุกๆ พื้นที่) ในทุกๆ Touch Point รวมถึงโทนสีของบรรจุภัณฑ์และสื่อต่างๆ จะเป็นสีเขียวและสีเหลือง
“อาวุธและกลิ่นอายของทหาร สามารถสื่อถึงคอนเซ็ปต์นี้ได้”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น หนึ่งในทีมบอกถึงที่มาของ DIESEL RIPPLE RANGE ว่าเขาได้แรงบันดาลใจจาก “เจลล้างมือ” ในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นแบบไม่ต้องล้างออก เขาจึงคิดว่าหากนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าแบบไม่ต้องล้างออกและทำได้อย่างรวดเร็วก็น่าจะดีไม่น้อย จึงเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์เด่น Speed Cleanser แบบไม่ใช้น้ำล้าง โดยมีสกินแคร์อื่นๆ ตามมาเป็นตัวเสริม
ในด้านการใช้สื่อพวกเขาวางแผนแบบ IMCเช่น นอกเหนือจากสื่อ Traditional Media แล้วยังโฆษณาในห้องน้ำ รวมถึง Innovative Media อย่าง Video Ad บนกระจกในห้องน้ำชาย โดยเน้นการสร้าง Brand Experience ขณะที่งานเปิดตัวเลือกใช้ใจกลางสยามสแควร์ด้วยการกั้นพื้นที่ด้วยเทปเหลือง แสดงเขตพื้นที่อันตรายก่อนวันเปิดตัว 1 วัน และในวันเปิดตัวจะมีกิจกรรม BB Gun ในพื้นที่นั้น ส่วนของ Print Ad จะเป็นรูปผู้ชายในสงครามที่แม้ว่าชุดจะเปื้อนฝุ่นและขาดจากการสู้รบแต่ใบหน้าของเขากลับหล่อเนี้ยบและใสสะอาด เป็นต้น
สิ่งที่น่าสนใจคือ ทีมนี้ปฏิเสธที่จะใช้ Brand Ambassador
“พวกเราเห็นว่าคอนเซ็ปต์เราแรงและชัดเจนมาก ดังนั้นกลยุทธ์นี้จึงไม่จำเป็นเลย”
แม้วริศาจะให้ความเห็นว่าทีมนี้ควรจะให้ความสำคัญและไม่หลุดจากต้นกำเนิดของแบรนด์ดีเซลที่มาจากยีนส์ แทนที่จะเป็น Military แต่กระนั้นเสียงจากกรรมการอีก 3 คน กลับชื่นชอบและดูจะเห็นดีเห็นงามกับกลยุทธ์และแนวคิดที่แรงและชัดเจนของทีมนี้ค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม วริศาบอกเพิ่มเติมว่าทีมนี้มีความพร้อมในเรื่องของพรีเซนเตชั่นมากที่สุด แต่ก็ยังไม่ถือว่าสมบูรณ์หากจะต้องไปแข่งกับนานาชาติ แต่พวกเขาก็โดดเด่นที่สุด เข้าใจผู้บริโภคและเลือกที่จะตอบโจทย์การดูแลผิวหน้าในชีวิตประจำวันของผู้ชายด้วย Basic Function และรู้สถานการณ์ตลาดว่าสกินแคร์สำหรับผู้ชายกำลังเติบโตดี
แต่งานนี้ชื่อผลิตภัณฑ์อาจพาคว้าน้ำเหลวได้ เมื่อมาร์คบอกว่าคำว่า RIPPLE ที่ใช้กันใน UK นั้นเป็นศัพท์แสลงที่มีความหมายเชิงลบ ดังนั้น ก่อนที่ทีมนี้จะไปแข่งขันต่อที่ปารีส จะต้องเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์ก่อนอื่นใด
นอกจากนี้สิ่งที่คณะกรรมการชื่นชมมาก คือ บรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นและเชื่อมโยงถึงคอนเซ็ปต์ของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี โดยกระสุนปืนใหญ่ ไปป์บอมบ์ และอาวุธชนิดอื่นๆ ช่วยทำให้คอนเซ็ปต์ Rapid & Smooth เด่นชัดเป็นรูปธรรมมากขึ้น
“ใช้บรรจุภัณฑ์รูปทรงกระสุนปืนใหญ่ สำหรับ Speed Cleanser สื่อถึงความหมายของการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างรวดเร็วและสะอาดหมดจด“
ด้านสดับพิณให้ความเห็นว่า ชื่นชอบกับบรรจุภัณฑ์ของทีมนี้มาก เพราะสะดุดตาและหากเป็นผู้ชายก็อยากจะซื้อไปใช้เช่นกัน
นอกเหนือจากพวกเขาจะได้รับเงินรางวัล 60,000 บาทแล้ว ยังเป็นตัวแทนของประเทศไทยแข่งขันต่อภายใต้โจทย์เดียวกันนี้ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
แม้ว่าที่ผ่านมาทีมผู้ชนะจากประเทศไทยจะไม่เคยคว้าแชมป์หรือได้รางวัลใหญ่กลับมาเลยก็ตาม
แต่สิ่งที่ทีมนี้จะต้องเพิ่มดีกรีความเข้มข้น คือ พรีเซนเตชั่นที่จะต้องคล่องแคล่วชัดเจนขึ้น ตลอดจนการตอบคำถามในช่วง Q&A ที่ต้องเจอกับซีอีโอ ลอรีอัล และกูรูที่มีชื่อเสียงระดับโลก
“พวกเรารู้ดีว่ายังขาดการสื่อสารในช่องทางดิจิตอล โดยเฉพาะ Viral Marketing ซึ่งจะต้องมีการเพิ่มเติมให้คมคายมากขึ้นก่อนไปแข่งขันที่ปารีส”
Brand ดีเซล
Category สกินแคร์
Product Name DIESEL RIPPLE RANGE
Concept Rapid & Smooth
Messege Danger Charming Exposion
Execution Military
Media Plan IMC ที่เน้น Innovative Media