เจาะลึก 4 พฤติกรรม ‘ช้อปออนไลน์’ ของคุณแม่ชาวไทย ซื้ออาวุธ “ป้อนอาหาร” มากสุด

รูปแบบธุรกิจ e-commerce ที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ ประเภททั่วไป รองลงมาคือสายไอที และแฟชั่น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ e-commerce เฉพาะกลุ่มก็กำลังมาแรง อาทิ เครื่องสำอาง, ของตกแต่งบ้าน, สินค้าสำหรับแม่ และเด็ก เป็นต้น iPrice จึงจับมือกับ Motherhood Thailand ร้านค้าอีคอมเมิร์ซสินค้าแม่และเด็กในประเทศไทย เผยพฤติกรรมการช้อปออนไลน์ของคุณแม่ชาวไทยปี 2019 โดยมี 4 ไฮไลต์ที่น่าสนใจ ดังนี้

แม่วัย 25-34 ปี นิยมหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ

จากผลการศึกษาข้อมูลพบว่า มีคุณแม่ชาวไทยช่วงอายุ 25-34 ปี กว่า 45.1% ที่นิยมอ่านเคล็ดลับการเลี้ยงลูก หรือวิธีเลือกซื้อสินค้าก่อนสั่งซื้อสินค้าจริง รองลงมาคือ 35-44 ปี และคุณแม่วัยใสช่วงอายุ 18-24 ปี ที่ต่างก็นิยมหาเคล็ดลับเลี้ยงบุตรก่อนเลือกซื้อสินค้าเช่นกัน โดยคาดว่าคุณแม่ช่วงอายุ 35-44 ปี ส่วนใหญ่อาจผ่านการเลี้ยงดูบุตรคนแรกมาแล้ว ทำให้มีภาวะการเลี้ยงดูบุตรที่รอบคอบขึ้น ส่วนกลุ่มคุณแม่วัยใสที่อาจไม่มีประสบการณ์เลี้ยงเด็กมาก่อน ทำให้ต้องหาข้อมูลเพื่อเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ที่น่าแปลกใจคือ จำนวนผู้ซื้อที่เป็นเพศชายมีสัดส่วนใกล้เคียงเพศหญิง (หญิง 57.48% และชาย 42.52%) โดยคาดว่าส่วนใหญ่คุณแม่จะเข้ามาหาข้อมูลและเลือกสินค้า ก่อนที่จะส่งให้คุณพ่อเป็นผู้ดำเนินการชำระเงิน ซึ่งโดยปกติธุรกิจ e-commerce มักมีโปรส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ ทำให้คุณพ่อและคุณแม่ต่างก็มีบัญชีสมาชิกเป็นของตนเอง

‘อุปกรณ์การป้อนอาหาร (Feeding)’ มีการสั่งซื้อมากที่สุด

จากการศึกษาข้อมูลพบว่า ‘อุปกรณ์การป้อนอาหาร’ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีอายุการใช้งานจำกัด เช่น จุกขวดนม, ขวดนม, พาหนะบรรจุน้ำนม เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ต้องดูแลเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษจึงต้องซื้อบ่อยครั้งหากเกิดการชำรุด ปนเปื้อนสิ่งสกปรก หรือเด็กมีอายุเดือนที่มากขึ้น ส่งผลให้สินค้าชนิดนี้มักถูกสั่งซื้อทางออนไลน์มากที่สุด

รองลงมาคือ ‘อุปกรณ์อาบน้ำ’ ที่มักมีราคาถูก จัดโปรโมชั่นทางออนไลน์บ่อย และมีรูปแบบให้เลือกมากกว่าร้านค้าทั่วไปจึงเป็นสินค้าที่คุณแม่ชาวไทยนิยมสั่งซื้อทางออนไลน์เป็นอันดับที่สอง ถัดมาคือสินค้าประเภท ‘รถเข็นเด็ก’ ที่มีขนาดใหญ่ และร้านค้าออนไลน์มักแจ้งฟังก์ชันของสินค้าได้ละเอียดกว่า (บางรุ่นมีการรับประกัน) ทำให้สินค้าชนิดนี้มียอดการสั่งซื้อสูงเป็นอันดับที่สาม

ตบท้ายด้วยสินค้าประเภท ‘ผ้าอ้อมเด็ก’ ที่ล้วนจัดจำหน่ายเป็นหีบห่อขนาดใหญ่ โดยทั่วไปจำนวนการซื้อในแต่ละครั้งจะมากกว่า 1 ชิ้น จึงไม่สะดวกต่อการออกไปซื้อด้วยตนเอง ส่งผลให้สินค้าประเภทนี้ได้รับความนิยมในการสั่งซื้อมากเป็นอันดับที่สาม

การชำระเงินแบบ ‘เก็บเงินปลายทาง’ นิยมสุด

ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเงินปลายทางเคอรี่, ไปรษณีย์ไทย, DHL หรือบริษัทขนส่งเอกชนทั่วไป ต่างก็ต้องมีบริการนี้กันทั้งนั้น ผู้ซื้อจะรู้สึกปลอดภัยเพราะต้องชำระเงินพร้อมรับสินค้า ทำให้รูปแบบการชำระเงินประเภทนี้กำลังมาแรง หากไม่นับการจ่ายด้วยบัตรที่สามารถผ่อนชำระเป็นงวดกับทางธนาคารได้ รูปแบบการชำระเงินและการขนส่งนี้คือรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย รองลงมาคือ Online Banking ที่ปัจจุบันเพียงแค่สแกน QR Code หรือระบุข้อมูลส่วนตัวไม่นานก็ชำระเงินเสร็จสมบูรณ์แล้ว แถมยังไม่เสียค่าธรรมเนียมกวนใจเหมือนเมื่อก่อนอีกด้วย

คุณแม่ชาว ‘เชียงใหม่’ ช้อปออนไลน์มากสุดในต่างจังหวัด

ชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑลต่างนิยมซื้อสินค้าออนไลน์เป็นทุนเดิม ไม่ว่าจะด้วยความรวดเร็วในการขนส่งก็ดี หรืออาจเป็นไลฟ์สไตล์ก็ตาม แต่ที่น่าสนใจคือ หากดูจากข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ของคุณแม่ชาวไทยเฉพาะต่างจังหวัดปี 2019 พบว่า คุณแม่ชาวจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้ซื้อสินค้าทางออนไลน์มากที่สุด ถือเป็นอันดับที่สาม รองจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาจเพราะตามร้านค้าทั่วไปในจังหวังมีตัวเลือกน้อยจึงไม่ครอบคลุมความต้องการเท่าที่ควร

Source

#Ecommerce #Iprice #MotherhoodThailand #Positioning