สำนักข่าว Reuters รายงานกลยุทธ์แก้โจทย์ของฟิตเนสหลายแห่งในประเทศจีน หลังจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ระบาด ทำให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเรือนเป็นหลัก สถานออกกำลังกายที่เป็นแหล่งชุมนุมชนจึงร้างผู้คน และผู้ประกอบการต้องพลิกหาโอกาสในวิกฤตครั้งนี้
Pilates ProWork Studio ใจกลางกรุงเซี่ยงไฮ้ หันมาใช้เทคโนโลยีไลฟ์สตรีมมิ่งทดแทน โดยให้ครูสอนพิลาทีสตั้งกล้องและ iPad ที่บ้านในการบรอดคาสต์แนะนำการออกกำลังกายไปสู่ลูกค้าหลายร้อยคนที่ชมสดพร้อมกัน
ความนิยมการออกกำลังกายกับเทรนเนอร์ผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งกลายเป็นธุรกิจสุดฮิตขึ้นมาในสถานการณ์ไวรัสระบาด เพราะหลายคนยังต้องการฟิตร่างกายอยู่ แม้ว่าจะถูกกักกันโรคหรือต้องการอยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย
“เราไม่ต้องการให้ลูกค้าลืมเราไปหมด ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่าง ลูกค้าบางคนอาจจะคิดว่าเราปิดตัวไปแล้ว และเราต้องการทำกิจกรรมที่ช่วยให้ลูกค้าสบายใจขึ้นด้วย” คริส ลี เจ้าของ Pilates ProWork Studio กล่าว สำหรับบริษัทนี้เปิดให้ลูกค้าไลฟ์สตรีมได้ฟรี โดยมีลูกค้ากดไลก์ให้ไปแล้ว 4,700 ครั้ง
ข้ามฝั่งไปที่กรุงปักกิ่ง ครูสอนออกกำลังกาย จางเว่ยหยา หันมาเปิดคอร์สสอนออกกำลังกายส่วนตัวผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยการไลฟ์สตรีมจากบ้านของเธอเช่นกัน คอร์สของเธอจะคิดราคาครึ่งหนึ่งของคอร์สเรียนตามปกติ และนักเรียนสามารถสอบถามข้อมูลกับเธอได้แบบเรียลไทม์
จางกล่าวว่า เธอต้องหาทางรอดในสถานการณ์นี้เพราะรายได้ของเธอลดไปแล้ว 1 ใน 10 คำนวณจากรายได้ตลอดปีที่เธอควรจะได้ เธอยังกล่าวด้วยว่าคอร์สออนไลน์ได้รับความนิยมสูงเกินคาด โดยมีนักเรียนจองคอร์สเต็มไปจนถึงสัปดาห์หน้าแล้ว
ขณะที่ฟิตเนส Gravity Plus เพิ่งเริ่มเปิดคอร์สออนไลน์เมื่อ 10 วันก่อนเช่นกัน และเปิดให้ลูกค้าเช่าอุปกรณ์ฟิตเนสไปใช้ที่บ้าน เพื่อหากระแสเงินสดเข้ามาในองค์กร
“เราไม่ได้คิดจะหาลูกค้าใหม่ในระยะนี้ เราแค่ต้องการปกป้องฐานลูกค้าของตัวเองเอาไว้” หลิวเสี่ยวจิน ผู้ก่อตั้งเชนฟิตเนส Gravity Plus กล่าว
แม้ว่ารัฐบาลจีนจะประกาศให้งบเยียวยาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19 แต่ธุรกิจก็ยังต้องหาทางรอดไปก่อน เพราะกว่าที่งบรัฐจะมาถึงยังต้องใช้เวลา หรือถ้าจะรอให้การดำเนินธุรกิจกลับมาเป็นปกติก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่