ภูมิใจในท้องถิ่น แบรนด์ไทย “คันนา” กับกลยุทธ์ครองใจลูกค้าต่างชาติ

“ถ้าจะหากิจกรรมสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา ที่สื่อถึงความเป็นชุมชน ความเป็นท้องถิ่น และความเป็นพื้นบ้านก็ยิ่งดี และอยากให้พนักงานของเราได้เห็นว่า หนึ่งในวัตถุดิบที่เราได้มาก็มาจากแบบนี้ ยิ่งทำให้เขาภูมิใจในสิ่งที่เขาได้ทำ แต่ละครั้งที่หยิบวัตถุดิบขึ้นมาแต่ละชิ้น เขาจะได้รู้ว่าทุกอย่างมีขั้นตอนแก่นแท้ มีเชิงลึกเบื้องหลังเสมอ เหมือนกับต้นไม้ต้นกล้าที่เราปลูกในวันนี้ กว่าจะโตคงใช้เวลาหลายปี แต่อย่างน้อยพวกเราก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศที่น่าอยู่”

“โบว์ – ณชา จึงกานต์กุล” เจ้าของแบรนด์ “คันนา” แบรนด์ขนมเพื่อสุขภาพอันดับต้นของเมืองไทย พูดถึงที่มาโครงการปลูกป่าชายเลนตำบลคลองโคน ระหว่างทางนั่งเรือหางยาวออกจากฝั่ง

นอกจากแบรนด์ “คันนา” ได้ปลูกทั้งป่าชายเลน และปลูกความภูมิใจในชุมชนและอาชีพเกษตรกรรมให้กับพนักงาน ซึ่งสอดคล้องกับชื่อ “คันนา” ที่มีที่มาจากคันนาตามสวนตามไร่ของประเทศไทย เพื่อสื่อถึงอาชีพนี้ซึ่งอาชีพหลักของคนไทย และที่สำคัญไปกว่านั้น สินค้าทุกอย่างได้ใช้วัตถุดิบจากในประเทศไทยทั้งสิ้น สอดคล้องกับปรัชญาของธุรกิจที่ว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักของนานาชาติ

“ภูมิใจที่ได้นำเสนอชื่อนี้ รู้สึกว่าคันนาสื่อถึงเกษตรกรรม รู้สึกว่านี่คือกระดูกสันหลังของชาติ นี่คือรากเหง้าของความเป็นไทย จึงอยากใช้ชื่อสื่อความเป็นไทย เป็นภาษาอังกฤษก็อ่านได้ง่าย เป็นภาษาจีนก็มีความหมาย แปลว่าสุขภาพดี มีความสง่างามที่ฉายแววออกมา มันจึงเป็นภารกิจที่เราต้องเตือนตัวเองตลอดเวลาว่า เรามาจากปรัชญาการเป็นคันนา ความเป็นธรรมชาติ ฉะนั้นทุกสินค้าที่เราทำออกมา จะสื่อถึงความรักตัวเองของลูกค้า”

“คันนา” ยังได้ปลูกความเป็นไทยให้เติบโตงอกงามในระดับโลก ด้วยธุรกิจของฝากขนมเพื่อสุขภาพที่นับวันยิ่งโตแบบก้าวกระโดด จากเมื่อ 8-9 ปีที่แล้วเริ่มตั้งไข่ จนกลายเป็นธุรกิจส่งออกที่นักท่องเที่ยวติดอกติดใจซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยทุกครั้ง หรือแม้แต่ไปงานออกต่างประเทศ ลูกค้าจะเดินเข้ามาซื้อโดยไม่ลังเล เพราะรู้จักคุ้นเคยจากครั้งมาซื้อที่เมืองไทย รวมทั้งชักชวนเพื่อนให้มาเป็นลูกค้าหน้าใหม่อีก

“การตลาดในต่างประเทศเห็นผลจริงๆ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ลูกค้าต่างชาติถ่ายรูปในมือถือ ปริ้นต์รูปมาหรือเปิด Blog ของชาวเกาหลี ลูกค้าบอกกันปากต่อปาก ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะขายของให้คนไทยทาน แต่ปรากฏว่าต่างชาติก็เห็นตรงนี้ รู้สึกภูมิใจแทนประเทศไทย เราเริ่มจากจุดอยากทำของดีๆ แต่วันนี้ระดับโลกเห็นความตั้งใจของเรา คนเกาหลีตอนนี้ชอบของคันนามาก เป็นแบรนด์ที่เห็นแล้วต้องซื้อ เขาจะกรี๊ดมากเวลาเห็นของเรา” ณชากล่าว

เมื่อถามว่า อะไรคือจุดเด่นที่ครองใจทั้งคนไทยและคนต่างชาติ เจ้าของแบรนด์คันนา กล่าวว่า สินค้าแต่ละตัวของเราถึงแม้จะมีความอร่อย แต่ไม่ละทิ้งเรื่องคุณภาพและประโยชน์เพื่อสุขภาพ “คันนา”ไม่เคยบอกว่าเราเป็นผลไม้อบแห้ง แต่เราคือตัวแทนของขนมทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพ เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคทานแล้ว รู้สึกชื่นชอบ รู้สึกขอบคุณตัวเองหรือเป็นการให้รางวัลตัวเอง เรามีแคมเปญที่จีน ว่า“รักและเคารพตัวเองใช่ไหม ให้คันนาอยู่กับคุณ ให้คันนาได้เข้าใจคุณ” ขอให้คันนาได้อยู่เป็นเพื่อนคุณ เราอยู่กับลูกค้าได้ตลอดเวลา เหมาะกับทุกคนทุกเพศทุกวัย เราสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกความต้องการ เราให้ความจริงใจกับลูกค้า จนเขารู้สึกได้และยอมให้คันนาเป็นเพื่อนอีกคนนึง เพราะความรู้สึกผูกพันที่เราปลูกสร้างขึ้นมา มีลักษณะความเป็นเพื่อนและความเป็นครอบครัว มาแล้วไว้ใจ มาประเทศไทยแล้วนึกถึงคันนา

ณชากล่าวเสริมว่า “คุณภาพข้างใน เหมือนเป็นสิ่งธรรมดาที่ทุกแบรนด์พูดถึง แต่คำว่าคุณภาพก็ไม่เหมือนกัน สำหรับเรา คุณภาพคืออะไรก็ได้ที่ดีที่สุด อย่างบ้านเรามีมะม่วงหลายพันธุ์ แต่เราต้องเข้าใจว่าพันธุ์ไหนจะเอามาทำมะม่วงอบนุ่มอร่อยที่สุด หอมที่สุด จนคนจีนมีชื่อให้เราว่ามะม่วงหอมหมื่นลี้ เวลาเปิดซองมาจะได้กลิ่นหอมมากๆ ฝรั่งเองก็เรียกว่ามะม่วงหอมละมุน สิ่งเล็กๆเหล่านี้คือเสน่ห์ พอลูกค้าเปิดทุกครั้งจะได้รับประสบการณ์เดิมจนรู้สึกว่าแบรนด์อื่นมีก็ไม่เหมือน นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่าคุณภาพ เรามองลึกไปถึงว่าอบแค่ไหนให้นุ่ม ให้ยังมีความละมุนของตัวเนื้อมะม่วง มีกากใยเหมือนธรรมชาติ มีความพิถีพิถัน  เราไม่เคยมักง่ายกับเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้”

เจ้าของแบรนด์ “คันนา” กล่าวถึงอนาคตทิศทางอาหารของโลกว่า จะมีสินค้าประเภทรักสุขภาพมากขึ้น อาหารหวานน้อยจะมีมากขึ้น และใส่สารเติมแต่งน้อยลงไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังเห็นว่า ความอร่อยเป็นความเคยชิน ถ้าเรากินกาแฟหวานทุกวัน สุดท้ายก็จะติดรสหวาน แต่ถ้าลองปรับรสให้อ่อนหวาน ก็จะชินกับรสนั้น นี่คือความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคของผู้ผลิตอาหารด้วย

“ความหวานไม่ใช่รสชาติอย่างเดียวที่ทำให้อร่อยได้ สุดท้ายความกลมกล่อมหรือรสอูมามิของอาหาร จะทำให้เราอร่อย ซึ่งรสอูมามิอาจเกิดจากการปรุงเครื่องแกง เช่น กระเทียม แต่จะทำอย่างไรให้สมุนไพรหรือพืชเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของอาหาร และดึงรสชาติความอร่อยหรือความกลมกล่อมของอาหารขึ้นมาได้” เจ้าของคันนากล่าวและทิ้งท้ายว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ทุกคนจะได้เห็น “คันนา” ร่วมกับแบรนด์ชื่อดังระดับโลกจากต่างประเทศเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหน เชื่อว่าต้องเรียกเสียงฮือฮาได้อย่างแน่นอน

และนี่คือผลตอบแทนความใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิตและความจริงใจต่อลูกค้าของแบรนด์ไทยชื่อ “คันนา” ที่ต้องการนำความเป็นรากเหง้าจากท้องถิ่น ประกาศศักดาบนเวทีโลก และสามารถครองใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างสง่างาม