พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จับมือ ทีเอ็มบี ร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์

บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“พรูเด็นเชียล ประเทศไทย”) บริษัทย่อยของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล มีความยินดีที่จะประกาศให้ทราบว่า บริษัทฯ ได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเป็นพันธมิตรธุรกิจด้านแบงก์แอสชัวรันส์ กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (“ทีเอ็มบี”) เป็นระยะเวลาขั้นต้น 15 ปี โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการประกันชีวิตชั้นนำของพรูเด็นเชียล ไม่ว่าจะเป็นในด้านสุขภาพ และการสร้างความมั่งคั่ง แก่ลูกค้าของทีเอ็มบี ซึ่งมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ และเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง

ข้อตกลงใหม่นี้ จะช่วยต่อยอดและขยายความร่วมมืออย่างมีนัยสำคัญของการเป็นพันธมิตรกับธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สู่ทีเอ็มบี ซึ่งภายหลังการรวมกิจการธนาคารทั้ง 2 แห่งเข้าด้วยกัน จะมีสถานะเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเป็นอันดับที่ 6 ในด้านเงินฝาก และธนาคารที่ใหญ่ที่สุด อันดับที่ 4 ในด้านสาขาธนาคาร

ประเทศไทยเป็นตลาดประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง และตลาดกองทุนรวมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยมีศักยภาพในการเติบโตสูง การร่วมมือเป็นพันธมิตรธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้พรูเด็นเชียลจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของตลาดกองทุนรวมในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์กับทีเอ็มบี ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผ่านการเป็นพันธมิตรธุรกิจกิจการร่วมค้าด้านการบริหารจัดการกองทุนรวม1 โดยปัจจุบัน กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ครองส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 122 ในตลาดธุรกิจกองทุนรวมในประเทศไทย ทั้งนี้การเป็นพันธมิตรแบงก์แอสชัวรันส์ร่วมกัน ส่งผลให้ทั้ง  สององค์กรมีแพลตฟอร์มที่เปี่ยมคุณภาพระดับแนวหน้า พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพ และความมั่งคั่งแก่ลูกค้าทีเอ็มบีจำนวน 9 ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ 17 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ของประเทศ3

การร่วมมือเป็นพันธมิตรกับทีเอ็มบีนี้จะช่วยสนับสนุนให้พรูเด็นเชียล ประเทศไทย สามารถเพิ่มขนาด และขยายธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยให้เติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป  สอดคล้องกับปณิธานในการก้าวสู่สถานะการเป็นผู้นำในตลาด นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของทีเอ็มบีในการร่วมเคียงข้างลูกค้าในทุกจังหวะเวลาของชีวิตผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านการประกันชีวิต รวมถึงการให้บริการด้านดิจิทัลอีกด้วย

มร.นิค นิแคนดรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น เอเชีย กล่าวว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านแบงก์แอสชัวรันส์ระยะยาวกับทีเอ็มบี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และต่อยอดธุรกิจกองทุนรวมของเราในประเทศไทย โดยการจับมือกันในครั้งนี้จะเป็นการนำเอาความเข้าใจและการเข้าถึงลูกค้าในประเทศไทยของทีเอ็มบี ผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านประกันชีวิต สุขภาพ และการออมของพรูเด็นเชียล เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ดีที่สุด และตอบโจทย์ครอบคลุมทั้งเรื่องของการให้ความคุ้มครองครอบครัว และการสะสมความมั่งคั่งได้ด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เติบโตและแพร่หลายอย่างรวดเร็ว และยังรู้สึกยินดีที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ด้วยการลงทุนในตลาดทุนไทยและสร้างโอกาสในการจ้างงาน”

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทีเอ็มบีมุ่งหวังที่จะยกระดับธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ร่วมกันกับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตในรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ โดยหัวใจสำคัญของการจับมือร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ คือ การมีเป้าหมายเดียวกันในการที่จะสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตลูกค้า ด้วยการเข้าใจความต้องการที่แท้จริงและยกระดับชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ดีขึ้นเพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศ”

ข้อตกลงการต่อขยายความร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Exclusive Partnership) จะเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม 2564 โดยในระหว่างนี้ ความร่วมมือการขายประกันชีวิตผ่านช่องทางแบงก์ชัวรันส์ กับธนาคารธนชาตยังคงดำเนินต่อไป ข้อตกลงนี้ต้องผ่านการปรับปรุงแก้ไขสัญญาใหม่ ตามข้อตกลงความร่วมมือการขายประกันชีวิตผ่านช่องทางธนาคารที่ทีเอ็มบีมีอยู่เดิมกับกลุ่มบริษัทประกันชีวิตอีกกลุ่มหนึ่ง การจัดการดำเนินการในครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 24.5 พันล้านบาท (หรือประมาณ 754  ล้านเหรียญสหรัฐ คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่18 มีนาคม 2563) โดยจะแบ่งชำระเป็นสองงวด ชำระงวดแรกเป็นจำนวนเงิน 12 พันล้านบาท ในเดือนเมษายน 2563 และส่วนที่เหลือ ชำระในวันที่ 1 มกราคม 2564 เงินทุนที่ใช้ในการทำธุรกรรมนี้มาจากแหล่งเงินทุนที่มีอยู่เดิมของพรูเด็นเชียล เอเชีย รวมกับแหล่งเงินทุนของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะรวมไปถึงสินเชื่อจากแหล่งเงินทุนใหม่ด้วย และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มบริษัทฯ จำนวนเงินที่กล่าวถึงข้างต้นจะได้รับการบันทึกเป็น สินทรัพย์ประเภทจับต้องไม่ได้ ในส่วนของสิทธิการจัดจำหน่าย