โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ร่วมกับบริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) นำเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ระบบดิจิตอล FDR Nano ที่ใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีAI (ปัญญาประดิษฐ์) เครื่องแรกในประเทศไทยช่วยวิเคราะห์และตรวจหาร่องรอยของโรค สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ต้องปฏิบัติงานอย่างหนักในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ทางสาขารังสีโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติได้ร่วมกับ บริษัทฟูจิฟิล์ม(ประเทศไทย)นำเครื่องเอกซเรย์แบบเคลื่อนที่ระบบดิจิตอล ที่ใช้เทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ถือเป็นเครื่องแรกในประเทศไทย ที่นำมาใช้ปฏิบัติงานของทางสาขารังสี เพื่อช่วยวิเคราะห์ และตรวจคัดกรองผู้ป่วย ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยทีมแพทย์หาร่องรอยของโรคโควิด-19 ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้แพทย์ได้ลดขั้นตอนและระยะเวลาในการตรวจ และปัญหาความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัส
รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ต้องปฏิบัติงานอย่างหนักในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงโรงพยาบาลจึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) นำเครื่องเอกซเรย์แบบเคลื่อนที่ระบบดิจิตอลFDR Nano ที่ใช้เทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ส่งผ่านสัญญาณระบบ4G มาช่วยวิเคราะห์ ประเมินคัดกรองผู้ป่วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการตรวจหาร่องรอยของโรค เพราะโควิด-19 เป็นโรคระบาดที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ที่ส่งผลต่อปอดโดยตรง เครื่องมือเอกซเรย์เคลื่อนที่ FDR Nano ที่ใช้เทคโนโลยี AIถือเป็นเครื่องแรกของประเทศไทย ที่นำมาใช้ปฏิบัติงานของสาขารังสี โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งส่งผลให้แพทย์ตรวจวิเคราะห์ผู้ป่วย โดยการเอกซเรย์แบบเคลื่อนที่ด้วยเทคโนโลยี AI แพทย์สามารถมองเห็นภาพเอกซเรย์ของปอดของผู้ป่วยผ่านจอมอนิเตอร์หาร่องรอยโรค หรือความผิดปกติของโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาในการตรวจซึ่งถือว่าช่วยแบ่งเบาการทำงานและลดความเสี่ยงของแพทย์ได้เป็นอย่างดี”
ด้าน มร.มาโมรุ โมโรตะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “ฟูจิฟิล์มตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของฟูจิฟิล์มให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่กลุ่มสินค้าด้านการถ่ายภาพเท่านั้น แต่ฟูจิฟิล์มยังเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับกลุ่มสินค้าทางด้านการดูแลสุขภาพ (Health Care) และเครื่องมือทางการแพทย์ (Medical System) ตอกย้ำภาพลักษณ์ภายใต้สโลแกนของบริษัท “FUJIFILM Value from Innovation”ซึ่งฟูจิฟิล์มมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะของฟูจิฟิล์มอย่างต่อเนื่อง เราได้พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระดับสูงกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องมือแพทย์ทางด้านการดูแลสุขภาพ โดยพัฒนาเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ มาใช้กับเครื่องมือทางการแพทย์ รวมไปถึงระบบสารสนเทศทางการแพทย์ IT Health Care และระบบซอฟแวร์Synapse PACS ซึ่งฟูจิฟิล์มถือว่าเป็นผู้นำตลาดPACS ในประเทศไทย
สำหรับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นี้ ฟูจิฟิล์มได้ร่วมกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และพันธมิตรหลักคือ บริษัท JF Advance Med ในการนำเครื่องเอกซเรย์แบบเคลื่อนที่ระบบดิจิตอล (Digital Portable X-Ray, FDR Nano)ที่ใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ สามารถส่งผ่านสัญญาณระบบ 4Gโดยนำเข้าเป็นเครื่องแรกของประเทศไทย ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จุดเด่นของเทคโนโลยี AI นี้จะสามารถช่วยแพทย์วิเคราะห์หาร่องรอยของโรคโดยเฉพาะโรคโควิด-19 ที่เป็นโรคระบาดที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ส่งผลต่อปอดโดยตรง ตัวเครื่องจะแสดงตำแหน่งที่พบความผิดปกติด้วยจุดDetection แสดงผลผ่านหน้าจอทันทีทำให้ทีมแพทย์สามารถวิเคราะห์ เห็นความผิดปกติหรือร่องรอยของโรค ให้แม่นยำและรวดเร็วช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาผู้ป่วย ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรักษา และนอกจากนี้ เรายังสนับสนุน ทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคคลากร ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำในการใช้เครื่องมืออย่างเต็มที่
ในฐานะที่ฟูจิฟิล์ม เป็นผู้นำทางด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์และกลุ่มสินค้าดูแลรักษาสุขภาพ บริษัทฯ ได้ตระหนักถึง การดูแลคุณภาพชีวิตของคน และรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์ โดยฟูจิฟิล์มได้คิดค้น ยาอาวีแกน (Avigan) ยาต้านไวรัสโควิด-19 ที่หลายประเทศให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่ายาตัวนี้ บริษัทฟูจิฟิล์ม โตยามา เคมิคอล ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้คิดค้น ซึ่งขณะนี้ถือเป็นยาควบคุมพิเศษระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลไทยเท่านั้น ภายใต้ความรับผิดชอบขององค์การเภสัชกรรม กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย
จะเห็นได้ว่า ฟูจิฟิล์มไม่เคยหยุดยั้งในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อวงการแพทย์ ภายใต้แนวคิด “NEVER STOP”พร้อมกันนี้ เรายังต้องการสร้างการจดจำของคนทั่วไปในฐานะฟูจิฟิล์ม คือ ผู้นำทางด้านการคิดค้นนวัตกรรมและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์และด้านผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร (Healthcare Total Solution)
ปัจจุบันในวงการแพทย์ เครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์มีวิวัฒนาการอย่างสูง ฟูจิฟิล์มในฐานะผู้ผลิตเครื่องมือการแพทย์นอกจากทางด้านพัฒนาคุณภาพแล้ว เรายังต้องสร้างความน่าเชื่อถือและการบริการให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ โดยเรามีผู้เชี่ยวชาญทีมงานให้บริการวิศวกรรม และทีมบริหารหลังการขาย พร้อมให้บริการตลอดเวลา ฟูจิฟิล์มหวังว่าการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องจะสามารถตอบโจทย์ยกระดับการรักษาในปัจจุบันและอนาคตให้ดียิ่งขึ้น เพื่อการแพทย์ที่ก้าวหน้าทันสมัยต่อไป” โมโรตะ กล่าว