Axinan สตาร์ทอัพอินชัวร์เทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระดมทุน Series A+ รับเงินลงทุนราว 16 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมรีแบรนด์สู่ Igloo

Axinan สตาร์ทอัพอินชัวร์เทคที่มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ ประกาศความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Series A+ โดยได้เงินลงทุนรอบใหม่ 16 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 480 ล้านบาท AXINAN ทำงานร่วมกับอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ และกลุ่มท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น Bukalapak Lazada Shopee Shippit Bhinneka และ RedDoorz และพันธมิตรด้านประกันภัยในภูมิภาค เช่น  Allianz  Baoviet  FWD Singapore  Mercantile และ Sompo ในช่วงปีที่ผ่านมา (กุมภาพันธ์ 2562 – กุมภาพันธ์ 2563) AXINAN ให้บริการประกันภัยกับผู้บริโภคมากกว่า 15 ล้านคน  คุ้มครองรายการสินค้ามากกว่า 50 ล้านธุรกรรม ครอบคลุมกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ บ้าน และอุบัติเหตุส่วนบุคคล

นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2563  Axinan รีแบรนด์ดิ้งเป็น “Igloo” ในตลาดประเทศต่างๆ ที่ทำตลาดอยู่ คือ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย โดยแบรนด์ใหม่นี้มาจากชื่อผลิตภัณฑ์หลัก คือ ประกันภัยสินค้าดิจิทัลในชื่อ Igloo  ซึ่งคาดกาณ์ว่าตลาดกลุ่มนี้เป็นตลาดที่กำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะประชากรส่วนใหญ่มีอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลสูงขึ้น

การระดมทุนรอบ Series A+ นำโดย อินเว้นท์ (InVent) โครงการธุรกิจร่วมลงทุนภายใต้บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยี และดิจิทัล  โดยมีนักลงทุนรายเดิมคือ โอเพ่นสเปซ เวนเจอร์ (Openspace Ventures) กลุ่มนักลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ลิเนียร์ แคปิตอล (Linear Capital) กลุ่มนักลงทุนจากเซี่ยงไฮ้ที่มุ่งเน้นลงทุนในเทคสตาร์ทอัพช่วงเริ่มต้น ส่วนนักลงทุนรายใหม่ในรอบนี้ ประกอบด้วย สิงเทล อินโน เอท (Singtel innov8คาเธ่ย์ อินโนเวชั่น (Cathay Innovation) และ พาร์เทค พาร์ตเนอร์ส (Partech Partners)

ดร.ณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล หัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุนอินเว้นท์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อินเว้นท์ ยินดีมากที่ได้ต้อนรับ Igloo ในฐานะอินชัวร์เทคบริษัทแรกเข้ามาใน Portfolio ของเรา กลุ่มอินชัวร์เทค เช่น Igloo เป็นแนวหน้าในการผลักดันให้เกิด Digital Tranformation ในอุตสาหกรรมดิจิทัล ทำให้บริษัทประกันสามารถสร้างโปรดักต์ที่มีนวัตกรรมตอบสนองกับคนยุค Millennials ได้ดีขึ้น พวกเราเชื่อว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ Igloo มีจะเป็นปัจจัยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง ด้วยการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น”

Igloo ก่อตั้งขึ้นโดยนายเหว่ย ซู ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ Grab และทำงานในบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีระดับโลก เช่น Facebook และ Microsoft  มามากกว่า 20 ปี เขาก่อตั้ง Igloo ด้วยปรัชญาในการนำเสนอบริการประกันในรูปแบบต่างๆ เช่น การประกันทรัพย์สินหรือสิ่งของต่างๆ รวมถึงการประกันวินาศภัยต่างๆ เช่น ประกันการขนส่ง ประกันการเดินทางที่สามารถปรับได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน

นายเหว่ย ซู ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Igloo กล่าวว่า “โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำธุรกิจ  การเข้าสู่ดิจิทัลจะเป็นปัจจัยที่ทำให้โลกปรับเปลี่ยนสู่ความปกติในรูปแบบใหม่ หรือเข้าสู่วิถีใหม่ (New Normal) โดยเฉพาะกับแวดวงประภันภัยดิจิทัล ซึ่งการปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบดิจิทัลได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นช่องทางที่ดีในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี”

ในภูมิภาคนี้ การประกันภัยดิจิทัลยังคงมีสัดส่วนตลาดที่ต่ำเพียง 6 เปอร์เซ็นต์ แต่ทว่าการประกันภัยดิจิทัลที่เรานำเสนอ ผนวกกับเครือข่ายและช่องทางของพันธมิตรธุรกิจจะทำให้การประกันภัยมีจำหน่ายในทุกเวลา และทุกที่ซึ่งผู้บริโภคสามารถใช้งานได้แบบเรียลไทม์

Igloo จะใช้เงินทุนในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตขึ้นสองเท่าโดยจะขยายตลาดไปยังเวียดนาม และเสริมความแข็งแกร่งให้กับตลาดในฟิลิปปินส์ และไทย ซึ่งเป็นตลาดในหกประเทศที่มีการเติบโตในภูมิภาคนี้ รวมถึงสร้างทีมวิศวกร เพื่อขับเคลื่อนโซลูชั่นที่ช่วยประเมินความเสี่ยง และการเคลมประกันที่รวดเร็วขึ้น Igloo กำลังเจรจากับกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ธนาคาร และสถาบันการเงินอื่น ๆ รวมถึงเอเจนซี่ท่องเที่ยวออนไลน์ (OTAs) ในภูมิภาคเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านพันธมิตรธุรกิจด้านประกันโดยใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ล่าสุด Igloo ได้รับรางวัลสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีการประเมินผลผ่านทางหน้าจอด้วย

โอกาสทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ Igloo ขึ้นอยู่กับการเติบโตของการประกันภัยดิจิทัลในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 8 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2568 ซึ่งการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการเติบโตทางอินเทอร์เน็ตซึ่งคาดการณ์ว่าจะสูงถึง 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2568 ตามรายงานของ e-Conomy SEA 2019

เกี่ยวกับ Igloo

Igloo หรือก่อนหน้านั้นทำตลาดภายใต้ชื่อ “Axinan” เป็นอินชัวร์เทคแห่งแรกในสิงคโปร์ ปัจจุบันมีสำนักงานในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย โดยมีศูนย์เทคโนโลยีของตนเองในประเทศจีนและไต้หวัน ด้วยพันธกิจในการตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้บริการประกันสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ทางบริษัทจึงพัฒนาระบบบิ๊กดาต้า การประเมินความเสี่ยงแบบเรียลไทม์และการจัดการการเคลมได้แบบอัตโนมัติตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อสร้างโซลูชั่นการประกันแบบ B2B2C เพื่อการใช้งานของแพลตฟอร์มสำหรับองค์กร และบริษัทประกัน โซลูชั่นการประกันของ Igloo จะช่วยให้องค์กรกำจัดความเสี่ยงในการปฎิบัติการ    สร้างรายได้จากช่องทางใหม่ และนำผลิตภัณฑ์และการบริการที่ให้บริการอยู่มาสร้างประโยชน์และปรับปรุงได้ดีขึ้น

Igloo นำทีมโดยแกนหลักจากบริษัทดาวเด่นในวงการเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมประกัน เช่น เฟซบุ๊ค แกร็บ ฟลิปคาร์ท การีน่า แมนูไลฟ์ ช้อปปี้ ยาฮู! และซาโลร่า

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ https://www.iglooinsure.com/

เกี่ยวกับ InVent

อินเว้นท์ (InVent) เป็นโครงการธุรกิจร่วมลงทุน (Corporate Venture Capital) ภายใต้บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยี และดิจิทัล อินเว้นท์ เป็นผู้บุกเบิกในกลุ่มนักลงทุนคอร์ปอเรท เพื่อสร้างระบบนิเวศให้กับเทคสตาร์ทอัพในประเทศไทย ปัจจุบัน อินเว้นท์ ร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพดาวเด่นในทุก ๆ ระดับทั้งในประเทศไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆ เพื่อช่วยบริษัทในการสร้างนวัตกรรม ขยายการเติบโตโดยอาศัยประสบการณ์และเครือข่ายในอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมที่บริษัทมุ่งเน้นมีหลากหลายกลุ่ม ประกอบด้วย โทรคมนาคมและการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจไอที ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ คลาวด์คอมพิวติ้ง ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยี 5 จี ไอโอที ไซเบอร์ซิเคียวริตี้ สมาร์ทซิตี้ และโซลูชั่นสมาร์ทอื่น ๆ นับตั้งแต่ปี 2555  อินเว้นท์ ลงทุนในสตาร์ทอัพมากกว่า 20 ราย ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.inventvc.com

เกี่ยวกับโอเพ่นสเปซ เวนเจอร์

โอเพ่นสเปซ เวนเจอร์ มุ่งเน้นการลงทุนในรอบSeries A และ B ในบริษัทเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่โอเพ่นสเปซร่วมลงทุน ประกอบด้วย ฟินเทค เฮลท์เทค เอ็ดดูเทค คอนซูเมอร์แอปพลิเคชั่น และโซลูชั่นคลาวด์เบส โอเพ่นสเปซ เวนเจอร์ ได้ร่วมลงทุนไปแล้วประมาณ 225 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยลงทุนในสตาร์ทอัพ 28 แห่ง ประกอบด้วย Gojek, Halodoc, TaniHub, Topica; CXA, FinAccel และ Pathao

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ https://openspace.vc/