จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้คนไทยมีการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทั้งการเพิ่มระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมถึงมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ
เพื่อชาติ” ที่ส่งผลให้กิจกรรมทุกอย่าง ตั้งแต่ การทำงาน การเรียน รวมไปถึงการทำธุรกรรมทางการเงิน ถูกเปลี่ยนมาอยู่บนโลกออนไลน์และมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดมากกว่า 100% ทำให้ระบบการรักษาความปลอดภัยข้อมูลกลายเป็นหัวใจหลักที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ลูกค้าอย่างสูงสุด
ทั้งนี้ นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน เอไอเอส กล่าวว่า “สำหรับเอไอเอส นอกจากการรับมือกับวิกฤตครั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าและคนไทย สามารถสื่อสาร ทำงานผ่านเครือข่ายได้อย่างไม่ติดขัดแล้ว ที่ผ่านมา เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบงานหลังบ้านให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในการชำระเงินด้วยบัตรชำระเงินผ่านทุกช่องทางของเอไอเอส และได้ปฏิบัติงานด้านการรักษาข้อมูลละเอียดอ่อนได้ตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ล่าสุดได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลการชำระเงินผ่านบัตร (PCI DSS) เวอร์ชั่น 3.2.1 จากบริษัท เวอไรซอนไวร์เลสส์ จำกัด (Verizon) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยขั้นสูงในการเก็บรักษาข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่ลูกค้าทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านระบบ Payment Gateway ของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”
“จากพฤติกรรมการใช้จ่ายหรือทำธุรกรรมต่างๆ ของลูกค้าที่เน้นช่องทางบนโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด-19 เราจึงมีการกำหนดนโยบายในการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลสนเทศที่ละเอียดอ่อน อาทิ บัตรเครดิต และบัตรเดบิต อย่างรัดกุมมากที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทุกกลุ่มว่า ทุกธุรกรรมของท่าน ทางบริษัทได้ดำเนินในการประมวลผล จัดเก็บ และรักษาข้อมูลเป็นไปตามมาตรฐานสากลทั้งระบบอย่างเคร่งครัด”
การรับรองมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลสำหรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือ PCI DSS (Payment Card Industry Data Security Standard) ถูกกำหนดขึ้นโดยคณะกรรมการมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูล (PCI Security Standard Council) ซึ่งเป็นสภาที่ถูกจัดขึ้นโดยผู้ให้บริการบัตรชำระเงินรายใหญ่ของโลก ได้แก่ วีซ่า, มาสเตอร์การ์ด, อเมริกันเอ็กซ์เพรส, ดิสคอเวอร์ และเจซีบี เพื่อควบคุมมาตรฐานในการเก็บรักษา ประมวลผล และรับส่งข้อมูลบัตรให้มีความมั่นคงปลอดภัย รวมถึงช่วยป้องกันการฉ้อโกงซึ่งเกิดจากการทำธุรกรรมผ่านบัตร
“เอไอเอส มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน PCI DSS ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งมาตรฐานที่ได้รับในครั้งนี้จะทำให้ลูกค้ามั่นใจและไว้วางใจในการชำระเงินด้วยบัตร ผ่านทุกช่องทางของเอไอเอส ทั้ง Online และ Physical อาทิ AIS Shop, Telewiz, AIS Payment Kiosk, myAIS App, myAIS Web, mPay station และ IVR Call Center การเติมเงิน และการชำระค่าบริการรายเดือนผ่านระบบตัดบัตรอัตโนมัติ รวมถึงช่องทางบริการลูกค้าใหม่ล่าสุด Line@ AIS Shop ที่ยกทั้ง AIS Shop มาอยู่บนมือถือของคุณ โดยเรามุ่งมั่นดูแลรักษาระบบให้มีความมั่นคง ปลอดภัย ปกป้องดูแลข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้า พร้อมทั้งมีการตรวจสอบช่องโหว่และทดสอบระบบอยู่เสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจและความสบายใจให้กับลูกค้าทุกกลุ่มเมื่อต้องมีการใช้จ่ายผ่านบัตรกับเอไอเอสในทุกครั้ง”
“เพราะในสถานการณ์ที่ทุกคนต้องรวมพลังกันต่อสู้เพื่อก้าวข้ามวิกฤติเชื้อไวรัส COVID-19 ในครั้งนี้ เอไอเอส ให้คำมั่นว่าจะทำหน้าที่พัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าและคนไทย ใช้ชีวิตผ่านเครือข่ายดิจิทัลจากเราอย่างอุ่นใจได้เสมอ” นายธีร์ กล่าวสรุป
Related