สิงคโปร์ยืนยันพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 788 คน ในวันที่ 6 พ.ค. ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งเกิน 20,000 คน สูงสุดในอาเซียน ในขณะที่ฟิลิปปินส์เป็นอีกชาติในอาเซียนที่สถานการณ์ยังคุมไม่อยู่ ด้วยตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อสะสมขยับขึ้นเหนือ 10,000 คนแล้ว
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ของสิงคโปร์ ส่วนใหญ่แล้วยังเป็นแรงงานต่างด้าวที่พักอาศัยอยู่ตามหอพักคนงาน กลุ่มก้อนที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ประเทศพุ่งทะยานอย่างน่าตกใจในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
เวลานี้สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วทั้งสิ้น 20,198 คน สูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 788 คน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 18 คน
แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่สิงคโปร์ได้เริ่มขั้นตอนกลับสู่การทำงานแล้วเมื่อวันที่ 5 พ.ค. โดยภาคธุรกิจที่กลับมาเปิดบริการจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดใหม่อย่างเคร่งครัด ในนั้นรวมถึงสวมหน้ากากตลอดทั้งวันตอนอยู่ในที่ทำงาน และห้ามพนักงานจับกลุ่มกันตอนรับประทานอาหารกลางวัน
โรงเรียนต่างๆ จะกลับมาเปิดอีกครั้งเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม เป็นต้นไป แต่เฉพาะนักเรียนกลุ่มที่ต้องเข้ารับการทดสอบระดับชาติ (National Exams), นักเรียนต้องมีการเรียนรูู้แบบฝึกปฏิบัติ (Hands-on skill) ที่จำเป็นต้องมาลงมือปฏิบัติ รวมถึงนักเรียนที่มีปัญหาการเรียนรูู้และต้องมีการเรียนการสอนแบบพบกันในชั้นเรียน (Face-to-face)
อย่างไรก็ตาม พวกแรงงานต่างด้าวที่ถูกกักกันโรคอยู่ภายในหอพัก จะต้องอยู่ภายใต้มาตรการจำกัดความเคลื่อนไหวรายวันไปจนถึงวันที่ 1 มิถุนายน
ชาติที่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย หลังพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มอีก 367 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 12,438 คน ในนั้นเสียชีวิต 895 ราย
ขณะที่ ฟิลิปปินส์ ซึ่งรั้งอันดับ 3 กลายเป็นชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ล่าสุด ที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 10,000 คน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 320 คนในวันที่ 6 พ.ค. ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 10,004 คน นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 21 คน ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 658 คน