RML เผยแนวโน้มไตรมาส 2/63 กระทบต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เร่งระบายสต็อกโครงการ The Lofts Asoke, Diplomat 39, Diplomat Sathorn, The River และ Unixx ปั๊มยอดขาย รักษากระแสเงินสดเสริมสภาพคล่องทางการเงิน พร้อมปรับกลยุทธ์ตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค New Normal
นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ( RML) ผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/63 จะยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/63 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ทำให้ลูกค้าชาวไทยและต่างชาติชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป โดยเฉพาะในเดือนเมษายนที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดการเดินทางเข้าและออกประเทศลูกค้าชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ จึงมีผลให้การโอนโครงการเป็นไปได้ยากขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทเตรียมความพร้อมด้านฐานะการเงิน และมีแผนรักษากระแสเงินสด โดย RML เป็นผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้ค่อนข้างต่ำ อีกทั้งคำนึงถึงการรักษาสภาพคล่องทางการเงินให้แข็งแกร่ง เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ท้าทายและลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้บริษัทฟื้นตัวได้หลังวิกฤตนี้ผ่านพ้นไป ปัจจุบันกระแสเงินสดมีเพียงพอที่จะจ่ายคืนตราสารหนี้ที่ครบกำหนดในเดือนกรกฎาคม จำนวน 712 ล้านบาท และในเดือนธันวาคม จำนวน 200 ล้านบาท โดยที่ไม่ต้องรับความช่วยเหลือจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจไตรมาส 2/63 บริษัทมีแผนเร่งระบายสต็อก 5 โครงการ ได้แก่ โครงการ The Lofts Asoke, โครงการ Diplomat 39, โครงการDiplomat Sathorn,โครงการ The River และโครงการUnixxเพื่อเพิ่มยอดขาย (Presales) เสริมสภาพคล่องกระแสเงินสดของบริษัทโดยประเมินว่ายอดขายน่าจะกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง จากมาตรการภาครัฐประกาศคลายล็อกดาวน์ ซึ่งบริษัทเตรียมเปิดโชว์รูมให้ลูกค้าเข้าชมโครงการ The Lofts Silom, Tait12, The Loft Ratathewi, The Estelle PhromPhongและ The River พร้อมทั้งมีมาตรการป้องกันเคร่งครัด ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและควบคุมจำนวนผู้เข้าชมโครงการ อีกทั้งใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline) โปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ลูกค้าสามารถดูห้องตัวอย่างได้แบบเสมือนจริง ก่อนเข้าเยี่ยมชมที่โครงการควบคู่กันไป โดยกลยุทธ์ดังกล่าวคาดว่าจะกระตุ้นความต้องการตัดสินใจซื้อ และสร้างโอกาสปิดการขายกับกลุ่มลูกค้าภายในประเทศในยุค New Normal
“ธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้มีความท้าทาย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะพิสูจน์ความแข็งแกร่งในการประคับประคองธุรกิจให้รอดพ้นจากวิกฤตได้ และมีภูมิคุ้มกันในการรับมือกับปัญหาที่ใหญ่กว่าในอนาคต ซึ่งบริษัทเตรียมความพร้อมรับมือกับความเสี่ยงหรือโอกาสของธุรกิจที่จะเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นวิกฤตนี้ไป” นายไลโอเนลกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ วันที่ 31 มี.ค.63 อยู่ที่ 7,881 ล้านบาท รวมทั้งหมด 8โครงการ ได้แก่ โครงการ Tait 12 33%, โครงการ The Lofts Silom 29.5%, โครงการ The Estelle PhromPhong26.3%, โครงการ The Lofts Ratchathewi7.4%, โครงการ The Lofts Asoke 1.6%, และโครงการอื่นๆ 2.2% โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นไป